วันอาทิตย์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2564

แม่เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย มีความทุกข์ใจมาก อยากช่วยท่าน

ดังตฤณ : โดยหลักการคร่าวๆ ที่พระพุทธเจ้าประทานแนวทางไว้นะครับ ให้ถาม ให้ใช้วิธีพูดคุยกันตามปกตินี่แหละว่า กำลังติดใจอยู่กับอะไร กำลังวางไม่ได้อยู่กับอะไร ค่อยๆ ถาม ค่อยๆ เจาะรายละเอียดเข้าไป เราไม่สามารถไปบอกว่า ปล่อยวางเถอะ แล้วคนจะปล่อยวางกันได้ 


คนๆ หนึ่ง ตอนที่จิตยังหลงทางอยู่ ตอนที่จิตยังไม่มีทิศให้เดินไปนะครับ จำไว้ว่าไกด์ไลน์ หรือว่าคำถามจากคนใกล้ตัวนี่ล่ะสำคัญที่สุด สำคัญมาก .. ค่อยๆ ถาม จนกระทั่งได้ความว่าติดใจอยู่กับเรื่องอะไร 


อันนี้ยกตัวอย่างนะครับ เป็นการยกตัวอย่างที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนไว้ ถ้าได้ความว่า กำลังห่วงลูกห่วงหลาน ท่านก็แนะนำเกี่ยวกับวิธีส่งคนตาย ..

 

อาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับทางของผู้ถามโดยตรงนะครับ ผมยกคำสอนของพระพุทธเจ้ามา เพื่อให้เห็นภาพนะครับว่า ท่านสอนวิธีปล่อยวาง ค่อยๆ ถอดเปลาะ ทีละเปลาะ ออกจากใจของคนที่ยังกังวลอย่างไร 

 

อย่างคนที่สมมติว่า กำลังจะเสียชีวิต แล้วเรารู้ เขารู้ ว่าอย่างไรก็ต้องตาย เสร็จแล้วถามทีละเรื่องๆ ว่า ยังห่วงยังกังวลอยู่กับอะไรบ้าง


ถ้าห่วงทรัพย์สมบัติ เราก็ค่อยๆ พูดว่า ทรัพย์สมบัตินี้ ถึงแม้ว่าเราจะยังมีชีวิตอยู่ เดี๋ยวก็พังอยู่ดี เป็นเงินทองก็ต้องใช้ไป ร่อยหรออยู่ดี หรือถ้าเราตายไป ตกไปอยู่ในมือของคนอื่น เดี๋ยวก็ต้องหลุดจากมือคนอื่นเช่นกัน ไม่สามารถที่จะอยู่ยั้งค้ำฟ้า หรืออยู่กับใครได้ตลอดไปถาวร


หรือถ้าเขากำลังห่วงลูกห่วงหลาน พระพุทธเจ้าท่านก็ตรัสนะว่า พอเราตายไป ไม่นานลูกหลานก็ต้องตายตาม

คนเรามีเวลาเหลือน้อยมาตั้งแต่เกิด ไม่ใช่มีเวลาเหลือน้อยตอนวันใกล้จะตายนะครับ

 

เกิดมาอุแว้แรกนี่ ก็เหลือเวลานิดเดียวแล้วที่จะตาย อย่างมากไม่เกินร้อยปี แต่ถ้าหากว่าเจอความไม่แน่นอนของชะตากรรม แค่เดือนเดียวก็อาจจะตายไป อย่างนี้นะครับ

 

ค่อยๆ ถอด ค่อยๆ ถอน สิ่งที่เรารู้ว่าเขากำลังยึดติดอยู่ หรือว่ากำลังมีภาวะปัญหาทางใจ ทำอย่างไรก็ได้ ทำอย่างไรก็แล้วแต่ ให้ใจของเขาคลายจากอาการยึด ..เปลี่ยนจากกำเป็นแบ เปลี่ยนจากอาการยึดเป็นปล่อย อย่างนั้นนี่ ก็จะเป็นตัวที่ค่อยๆ ทำให้ปัญหาทางใจของเขาหมดไปนะครับ

 

มีอะไรถามเพิ่มไหมครับ เดี๋ยวเชิญเปิดไมค์ครับ


ผู้ถาม : กราบขอบพระคุณมากค่ะ เป็นแนวทางที่ดีมากค่ะ เพราะหนูไปปฏิบัติธรรมมาเหมือนกัน บางทีก็คิดไม่ออกในทันทีค่ะ ขอบพระคุณมากๆ เลยค่ะ


ดังตฤณ : เรื่องแนวทางนี่นะครับ ในการถอดถอนปัญหาทางใจของคนใกล้ตัว จริงๆ แล้ว ถ้าเราไม่มีไกด์ไลน์ไว้ บางทีเราจะนึกไม่ออกเหมือนกันนะครับ รู้แต่ว่าเขายึดมาก รู้แต่ว่าทำอย่างไรพูดอย่างไร เขาก็ไม่เปลี่ยนใจ 


แต่จริงๆ แล้วนี่ ขอให้มองว่า คนที่เขากำลังมีปัญหาทางใจ กำลังอยู่ในภาวะอ่อนแอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าถึงขั้นปรึกษาเราแล้ว หรือว่าแสดงอาการเดือดเนื้อร้อนใจแล้ว ว่าทำอย่างไรก็ไม่สามารถจะหลุดพ้นจากตรงนี้ 

 

ขอให้รู้ว่า ตัวเองนี่ .. คนใกล้ชิด คนใกล้ตัว คนที่อยู่ด้วยตลอดเวลา ดีกว่าจิตแพทย์อีก เพราะว่ามีโอกาสที่จะไปให้แนวทาง วิธีคิด กับเขาหรือกับท่านอยู่บ่อยๆ นะครับ 


แล้วก็วิธีที่ใจเราจะถอนนี่ จริงๆ ไม่ต้องอะไรซับซ้อน ไม่ต้องฉลาดมาก เพราะขอให้รู้พ้อยท์เท่านั้นล่ะ ว่า ทุกคนที่กำลังเดือดเนื้อร้อนใจอยู่กับอาการยึดมั่นถือมั่นนี่ ก็อยากจะถอนอยู่แล้ว 

 

เพียงแต่ขอแรงใจขอแนวทางสนับสนุน เป็นคำพูดจากคนใกล้ตัวนี้ ที่ทำให้เขาออกมาจาก 'ลูกตะกร้อ' ของความฟุ้งซ่าน ที่พายเรืออยู่ในอ่าง นะครับ

 

มีคำอะไรที่คัดท้าย ให้เรือที่อยู่ในอ่างนั้น แล่นออกทะเล แล่นออกไปหาฝั่งได้ แค่นี้เขาก็ขอบคุณแล้ว แค่นี้เขาก็ดีขึ้นแล้ว นะครับ

 ____________________________ 

คำถามที่ ๘ : คุณแม่เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย แล้ววันนี้คุณแม่บอกว่า รู้สึกไม่ดีเลย ไม่ทราบว่าจะมีวิธีบรรเทาทุกข์ทางใจให้ท่านได้อย่างไรบ้างคะ ขอบพระคุณค่ะ

 

รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน ตอน ไลฟ์คลับเฮาส์และเฟสบุ๊ค ครั้งที่ 3

วันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔

ถอดคำ : จูหลีผิง

ตรวจทาน : เอ้

ชมคลิป : https://youtu.be/0WA-4RWhOYY

** IG **


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น