ดังตฤณ : ถ้าจะถามว่าถูกหรือผิด เราต้องมีทิศทางที่ชัดเจน ต้องมีเป้าหมาย ต้องมีกรอบ กติกา หรือสเปกอะไรสักอย่างหนึ่ง ที่จะมาตัดสิน นะครับว่าถูกหรือผิด
ถ้าปฏิบัติถูก กายจะเบา ใจจะเบา อย่างที่พระพุทธเจ้า
สำนวนพระพุทธเจ้า คือ
จิตสงบระงับ ไม่กวัดแกว่ง กายสงบระงับ ไม่กวัดแกว่ง นะครับ
แล้วก็มีความสามารถ ที่จะเข้ามาทำความรู้สึกว่า กายนี้ ใจนี้ กำลังแสดงความไม่เที่ยง
ไม่ใช่ตัวเดิม ไม่ใช่ของเดิม ไม่ใช่ตัวใคร
ตัวนี้ ถ้าหากว่ามีไว้ในใจเรานะครับว่า เราจะเอาเป้าหมายนี้
เราจะไปให้ถึงจุดนี้ นะครับ จะตอบคำถามได้ครอบจักรวาลเลยว่า
ที่เราทำมานี่ เป็นความคืบหน้า หรือย่ำอยู่กับที่ หรือว่าถอยหลัง
ถ้าคุณทำความสงบ สวดมนต์ เพื่อลดความฟุ้งซ่าน
ดูจิต หรือว่าระหว่างวันจะใช้คำบริกรรม จะดูความเคลื่อนไหว
อะไรก็แล้วแต่
ถามตัวเองว่า กายเบา จิตเบามากขึ้นเรื่อยๆ หรือเปล่า
มีความรู้เนื้อรู้ตัว แบบที่รู้เนื้อรู้ตัวอย่างเดียวไม่พอ นะครับ
เพราะว่า สติ แบบพุทธ ที่เรียกว่า สติที่เจริญแล้วนี่
สติแบบที่เป็นสติปัฏฐาน นี่นะครับ
เป็นสติ ที่จะเข้ามารู้ว่า ภาวะทางกาย ภาวะทางใจ
ที่กำลังปรากฏอยู่เดี๋ยวนี้ เป็นภาวะที่จะต้องเปลี่ยนไป
เป็นภาวะที่จะต้องต่างไป เป็นภาวะที่จะไม่เหมือนเดิม นะครับ
ถ้าหากว่า วันเดือนปีผ่านไป เราทำอย่างไรไปก็แล้วแต่
แล้วกายใจไม่ปรากฏโดยความเป็นของต่าง ไม่ปรากฏโดยความเป็นของไร้บุคคล นั่นแสดงว่า ทิศทางในการปฏิบัติมาของเรา
อาจจะยังมาไม่ถึงจุด
แต่ถ้าหากว่า สิ่งที่เราทำอยู่ ทำอะไรไปก็แล้วแต่นี่นะ ผลลัพท์คือ
อยู่ๆ ในระหว่างวันนี่ ไม่ต้องนั่งหลับตา ไม่ต้องนั่งสมาธิ
เกิดความรู้สึกขึ้นมาเองว่า เอ๊ะ ที่นั่งอยู่นี่ ไม่ใช่เรา แต่เป็นกายที่กำลังนั่ง
มีแต่กายนั่ง ไม่มีคน ไม่มีบุคคล ไม่มีใคร ไม่มีเขา ไม่มีเรา เป็นผู้นั่ง
มีแต่ลมหายใจเข้า มีแต่ลมหายใจออก ไม่มีผู้หายใจ
ไม่มีผู้เป็นเจ้าของลมหายใจ
มีแต่ความคิดผ่านเข้ามาในหัว แล้วก็ผ่านไป ไม่มีใครเป็นคนคิด
ไม่มีความคิดอยู่ในใคร
ถ้าอยู่ๆ เกิดขึ้นมาแบบนี้นะ อาจจะแค่วูบๆ วาบๆ ไม่ต้องตลอดเวลา 24 ชั่วโมง นะ คือ นานๆ จะเกิดขึ้นมาที
นี่เป็นสัญญาณบอก เป็นหลักฐาน เป็นเครื่องแสดงว่า สิ่งที่เราทำๆ มาอยู่นี่
มาถูกทาง
แต่ถ้าหากว่า ร้อยวันพันปีผ่านไป ไม่เกิดอะไรที่จะเป็นสัญญาณบอกว่า เราเห็น
กายนี้ ใจนี้ โดยความเป็นของไม่เที่ยงสักที โดยความเป็นของไม่ใช่บุคคลสักที
เราต้องตั้งคำถามแล้วว่า สิ่งที่เราทำมานั้น
ถูกทางที่พระพุทธเจ้าให้ทำหรือเปล่า นะครับ!
_________________
ปฏิบัติในรูปแบบทำความสงบและสวดมนต์ เพื่อลดความฟุ้งซ่านก่อนดูจิต
แต่การเจริญสติระหว่างวัน จะใช้วิหารธรรม คือ บริกรรมและสัมปชัญญะ
เพราะถ้าเคลื่อนไหวจะดูลมหายใจละเอียดไม่ออก แบบนี้ถูกไหมคะ
รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน ตอน สวดมนต์ลดความฟุ้งซ่าน
คลับเฮ้าส์
วันที่ ๖ มีนาคม ๒๕๖๔
ถอดคำ : จูหลีผิง
ตรวจทาน : เอ้
ชมคลิป : https://www.youtube.com/watch?v=NdQnvrsVeTA
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น