วันเสาร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2564

ข้ามผ่านเวทนาทางกายได้ แต่ยังไม่ผ่านเวทนาทางจิต แก้อย่างไร

ดังตฤณ : เวลาที่เราจะตัดสินนะครับว่าเราผ่านอะไรได้แล้วนี่ อย่าไปมองนะครับว่า เอ๊ะ! นี่เราเห็นแล้ว และเราก็ละได้แล้ว แค่นั้นนี่ ยังไม่ถือว่าผ่าน นะครับ

 

ขอให้มองอย่างนี้ก็แล้วกันว่า เวทนาทางกาย ถ้าหากว่าเกิดขึ้น 

อย่างเช่น ร้อน หนาว เรารู้สึกเฉยๆ ไม่เกิดความยินดียินร้าย อะไรขึ้นมานี่ นะครับ

ตรงนั้นให้ถือว่าเป็น สติ รู้เวทนาทางกาย ร้อนหรือหนาว แล้วเกิดความเป็นอุเบกขาขึ้นมา แต่ยังไม่ใช่ไปตัดสินนะครับว่า เราผ่านได้แล้ว

 

ต่อให้เกิดความเจ็บปวดอย่างรุนแรง แล้วเราเห็นว่า เวทนาทางกายนี่ สักแต่เป็นอะไรที่เรารู้สึกเฉยๆ กับมันได้ แค่นี่ยังไม่ถือว่าผ่าน นะครับ 

 

คำว่าผ่านจริงๆ ที่ใช้กันในทางการเจริญสติ หมายถึง รู้สึกแบบชัดๆ ต่อเนื่องเลยว่า เวทนาทางกายนี่ ไม่ใช่ตัว ไม่ใช่ตน ไม่ใช่ตัวเรา ไม่ใช่ตัวเขา ไม่ใช่ตัวใครเลยด้วย สักแต่เป็นการกระทบระหว่าง สิ่งที่มากระทำกับกายแล้วเกิดภาวะ ที่เป็นสุข เป็นทุกข์ เจ็บปวด หรือว่าสบายชั่วคราว ชั่วขณะ แล้วเราก็ไม่ได้ไปยึดมันต่อ นะครับ

 

ตัวนี้ ที่เราเจริญสติมา เพื่อให้เห็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ นะครับ 

 

ทีนี้ ที่จะตัดเวทนาทางกายได้จริงๆ นี่ บอกว่าเวทนาทางกายนี้ไม่ใช่ตัวเรา ก็ต้องไปถึงจุดหนึ่ง ที่เรารู้สึกว่า กายนี้ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนก่อน แล้วเวทนาทางกายที่เกิดขึ้น ก็ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน ตามกายด้วย

 

อย่างนี้ ถึงจะรู้สึกว่า เวทนาทางกายนี่ เราผ่านได้จริงๆ นะครับ

ซึ่งผ่านได้ โดยความหมาย ก็คือ บรรลุมรรคผล ทิ้งความรู้สึกเป็นตัวเป็นตนในเวทนาที่เกิดขึ้นทางกายได้

เหมือนกัน เวทนาทางจิตนี่ ไม่ว่าจะเป็นเวทนาที่เกิดจากการที่ จิตแผ่ออกไปสบาย เป็นสุข กว้างขวาง หรือว่าเป็นเวทนาอันเกิดจากจิตที่คับแคบ ฟุ้งซ่าน ก็ตามนี่ นะครับ

 

เราก็ดูเหมือนกับเวทนาทางกายนั่นแหละ คือ เห็นว่า ตอนที่ใจแผ่สบาย..  อย่างนี้เป็นสุข

ตอนที่ใจยู่ยี่ เหมือนกับมีเมฆหมอกทาง ราคะ โทสะ โมหะ ยุ่งเหยิงไปหมด ก็เป็นความทุกข์ ที่เกิดขึ้นชั่วขณะที่จิตอยู่ในสภาพแบบนั้น นะครับ

 

นี่คือการดูเวทนาที่ถูกต้อง ดูสักแต่ว่าเวทนาเกิดจากเหตุ คือ สภาพทางกายแบบไหน และสภาพทางจิตแบบไหน นะครับ

 

อย่าเพิ่งไปตัดสินให้ตัวเอง นะครับว่า เราผ่านเวทนาทางกายแล้ว เรากำลังจะมาผ่านเวทนาทางจิตต่อ

 

จริงๆ แล้ว ผมเข้าใจนะครับ ถ้าให้เดานะครับ ก็คือว่า คุณหมายถึงว่า ความรู้สึกทางกายนี่ เราหมดความยึดมั่นถือมั่นแล้วว่า ตัวนี้เป็นกายของเรา

เรามีวูบของความรู้สึกว่า กายไม่ใช่เราได้

 

แต่เสร็จแล้ว พอเกิดความรู้สึกที่จิต จะเป็นจิตตั้งมั่นเป็นสมาธิ หรือ จิตฟุ้งซ่านก็ตาม เรายังรู้สึกว่า จิตเป็นเราอยู่ นะครับ

 

เวลาดู อย่าไปมองนะครับ ว่าเราข้ามตัวเวทนาทางกาย หรือว่าจะไปต่อเวทนาทางจิตอะไร

 

ให้ดูไปเรื่อยๆว่า เวทนาทั้งปวงไม่เที่ยง ดูอยู่แค่นั้น เห็นชัดว่า มันไม่เที่ยงตามเหตุปัจจัย ที่ปรุงแต่งภาวะทางกาย ปรุงต่างภาวะทางจิต ไม่ซ้ำรูปแบบ

ดูอย่างนั้นไปเรื่อยๆ นะครับ!

_______________

คำถามเต็ม : ตอนนี้สามารถข้ามผ่านเวทนาทางกายได้แล้ว แต่ยังไม่ผ่านเวทนาทางจิต ต้องแก้อย่างไรคะ

รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน ตอน สวดมนต์ลดความฟุ้งซ่าน คลับเฮ้าส์

วันที่ ๖ มีนาคม ๒๕๖๔

ถอดคำ : จูหลีผิง

ตรวจทาน : เอ้

ชมคลิป : https://www.youtube.com/watch?v=pQRPZD6WTyI

 

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น