ถาม : มีพระรูปหนึ่งเดินบิณฑบาตผ่านหน้าบ้านผมประจำบางวันดูท่านผ่องใสเหมือนเพิ่งออกจากกรรมฐานแต่บางวันก็ดูหมองคล้ำเหมือนคนธรรมดากำลังกลุ้มใจอยากทราบว่าบุญที่ผมทำกับท่านในแต่ละครั้งมีความแตกต่างกันหรือไม่?
>
จากหนังสือ เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว เล่มที่ ๑๑
ดังตฤณ:
ก่อนพระพุทธเจ้าจะเสด็จดับขันธ์ ท่านตรัสว่าบิณฑบาตที่มีอานิสงส์แก่ผู้ถวายยิ่งใหญ่กว่าบิณฑบาตครั้งอื่นๆ ได้แก่คราวที่พระองค์เสวยบิณฑบาตแล้วตรัสรู้ กับคราวที่พระองค์เสวยบิณฑบาตแล้วเสด็จดับขันธ์
นั่นหมายความว่าผู้ใดมีโอกาสใส่บาตรพระพุทธองค์ในคราวที่กำลังจะตรัสรู้เป็นพระอรหันต์
กับคราวที่กำลังจะละโลกนี้ไป ย่อมได้ผลไพบูลย์ยิ่งกว่าใส่บาตรพระศาสดาองค์เดียวกันในระหว่างทรงพระชนม์อยู่
คือได้อานิสงส์ครอบคลุม ทั้งการเป็นผู้มีอายุยืน การเกิดในตระกูลสูงการมีชีวิตที่เป็นสุข
การตั้งอยู่ในฐานะไม่น้อยหน้าใคร กล่าวได้ว่าบุญนั้นเป็นไปเพื่อสวรรค์ เป็นไปเพื่อความยิ่งใหญ่โดยแท้
ความจริงพระพุทธองค์ไม่ได้ตรัสให้พวกเรารับรู้แล้วเกิดความโลภ
แต่ท่านตรัสเพื่อไม่ให้คนถวายภัตตาหารสุดท้ายเป็นกังวล
ว่าอาหารของตนเป็นพิษเป็นเหตุให้พระองค์ประชวรหนักถึงขั้นต้องดับขันธ์
อย่างไรก็ตาม การตรัสแสดงความจริงนี้ทำให้เราได้ความรู้ประการหนึ่งคือ
แม้จะเป็นบุคคลเดียวกันถ้าต่างวาระ
ต่างโอกาสก็เป็นเครื่องขยายผลบุญผลบาปได้ผิดกัน
ในกรณีทั่วไปคุณทำบุญทำบาปกับใคร
จะได้ผลใหญ่หรือน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับว่าวันนั้นหรือขณะนั้นๆ
ผู้ถูกกระทำมีคุณภาพจิตดีเลวเพียงใดประกอบกับโดยรวมแล้วผู้ถูกกระทำมีบารมีธรรมสูงต่ำปานไหน
อย่างเช่นพระที่คุณใส่บาตรนั้นวันไหนกายใจท่านผุดผ่อง
คุณย่อมเลื่อมใส เกิดความโสมนัสในการใส่บาตรนั่นเป็นส่วนกุศลที่เห็นถนัด
แต่ต่อให้คุณตาบอดมองไม่เห็นเลยว่าท่านผุดผ่องเพียงใดการใส่บาตรครั้งนั้นก็ย่อมได้ผลไพบูลย์ในตัวเองอยู่ดี
แต่วันใดท่านมีจิตเศร้าหมองก็หาใช่ว่าบุญจะหดไปทันที
เพราะอย่างไรบารมีธรรมของท่านในฐานะที่ใส่ผ้าเหลืองก็ยังคงอยู่ หากท่านเป็นพระที่ประพฤติปฏิบัติตนตามวินัย
ไม่ใช่พระทุศีลคุณก็ได้ชื่อว่าทำบุญกับพระซึ่งเป็นทานที่ยิ่งใหญ่กว่าทานธรรมดามากอยู่แล้วในตัวเอง
ฉะนั้นขอเพียงใจคุณมีความปลาบปลื้มรื่นเริงในการให้ทานทุกวัน
ผลรวมย่อมใหญ่หลวงอยู่แล้ว ไม่ควรคำนึงแยกเป็นครั้งๆว่าวันนี้บุญน้อย
วันก่อนบุญมากและวิธีง่ายๆที่จะให้ใจปลื้มได้ทุกวันก็คือเอาตาไปเล็งที่ชายผ้าเหลืองให้มากกว่ามองหน้าพระ
ฝากทิ้งท้ายนะครับในเรื่องการทำบุญให้ได้อานิสงส์มากนั้น
สิ่งที่ต้องสำรวจตรวจกันให้ลึกซึ้ง คือความรู้ในการทำบุญก่อให้เกิด ‘ความโลภ’
หรือก่อให้เกิด ‘ความเข้าใจ’ ความโลภเป็นกิเลสที่ลดทอนบุญในตัวเองเพราะความโลภเป็นภาคมืดของจิต
เป็นมลทินแก่จิต ส่วนความเข้าใจเป็นปัญญาที่เพิ่มพูนบุญในตัวเอง เพราะความเข้าใจเป็นภาคสว่างของจิต เป็นประกายแก่จิตหากคุณทำบุญไม่เลือกหน้า
ไม่เลือกวาระโอกาส ก็เท่ากับคุณได้สร้างโอกาสแห่งความสุข
ความเจริญขึ้นแล้วในทุกที่ทุกสถาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น