รสชาติของทุกข์นั้นเหมือนกัน
แต่รูปแบบของทุกข์มีได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทุกข์เรื่องบ้าน ทุกข์เรื่องงาน
ทุกข์เรื่องเงิน ทุกข์เรื่องแฟน ทุกข์เรื่องสุขภาพ
เหล่ามนุษย์ที่มีอายุทั้งหลายย่อมผ่านพบมาด้วยกันทุกคน อาจหนักบ้าง อาจน้อยบ้าง
เอาเป็นว่า เมื่อพูดคำว่า ‘ทุกข์’
จะไม่มีใครเอ่ยเลย ว่าไม่รู้จักมาก่อน
เหตุให้เกิดทุกข์แต่ละแบบก็ช่างพิสดาร
เหตุแห่งทุกข์จากชาติก่อนก็มี เหตุแห่งทุกข์จากชาตินี้ก็มาก
ถ้าคุณจำได้ว่าชาติก่อนเคยฆ่าคนด้วยน้ำมือตนเองไว้กลาดเกลื่อน
คุณอาจรู้สึกเป็นทุกข์น้อยลง ไม่ว่าชาตินี้เดี๋ยวนี้ คุณกำลังเป็นทุกข์จากสุขภาพอ่อนแอสักเพียงใด
แต่เพราะไม่รู้ไม่เห็น
ลืมทุกสิ่งไปหมดแล้ว
และไม่มีนักวิทยาศาสตร์คนไหนใช้วิทยาการใดพิสูจน์ให้คุณทราบว่าคุณเคยเป็นใครมาก่อน
หรือมีเพียงชาตินี้ชีวิตเดียว ดังนั้นหากคุณเจ็บออดๆแอดๆมาตั้งแต่แบเบาะ คุณคงได้แต่ก่นโทษพ่อแม่
หรืออีกทีก็โทษฟ้าดิน ด้วยความน้อยใจชะตากรรม
หากทั้งชีวิตคุณทุกข์หนัก
คุณจะไม่มีแก่ใจแหงนหน้าตั้งคำถามบางข้อ เช่น ทำไมฟ้าจึงฟ้า...
แต่จะหมั่นก้มหน้าถามตัวเองซ้ำๆ
เช่น ทำไมถึงต้องเป็นคุณ...
ความจริงก็คือ...
ต่อให้มนุษย์ทุกคนระลึกชาติได้ ก็ใช่ว่ามนุษย์ทุกคนจะยอมรับว่าเหตุแห่งทุกข์มาจากการกระทำของตนเอง
ในเมื่อการกระทำที่เห็นอยู่ในชาตินี้แท้ๆ ยังลืม ยังนึกไม่ออก
หรือยังแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ด้วยซ้ำ สนแต่ว่าใครกระทำกับตนไว้อย่างไร แต่ไม่สนว่าตนกระทำกับใครไว้แค่ไหน
ความไม่รู้ทำให้เรางงกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง
และความใส่ใจแต่เรื่องของตัวเองก็ทำให้เราหลงลืมว่าทำอะไรกับใครไว้บ้าง
สถานที่บางแห่งในโลกนี้
เตือนให้เรารู้สึกถึงการเดินทางไกลอันเต็มไปด้วยความร้อนอบอ้าวและความเวิ้งว้างน่าเหน็ดหน่าย
เห็นแล้วอดนึกฉงนไม่ได้ว่าจะเดินทางไปไหน จะเดินทางไปทำไม และจะเดินทางไปกับใครดี
พระพุทธเจ้าตรัสเปรียบเทียบว่าวังวนกรรมและวงเวียนแห่งการเกิดตายเหมือนการเดินทางไกล
เหมือนการนอนไม่หลับ แถมหนักยิ่งกว่านั้นมาก เพราะสังสารวัฏหรือการเวียนว่ายตายเกิดนี้
หาต้นปลายมิได้
คุณต้องหาทางหยุด
ณ จุดที่กำลังรู้ตัว กำลังระลึกได้ อันเรียกกันว่า "ปัจจุบัน" นี้
พวกเราต่างชุ่มไปด้วยบาป
อาบทุกข์ต่างน้ำกันแทบทุกชาติ แต่ก็ไม่รู้ตัว ไม่รู้เหตุผล และสำคัญคือไม่รู้ว่าจะหยุดได้อย่างไร
พระพุทธเจ้ารู้
และท่านก็ตรัสสรุปว่าทางเดียวที่จะรู้ตามท่าน ตลอดจนหยุดเดินทางเสียได้ตามท่าน คือฝึกมีสติมองเข้าข้างใน
เพื่อหยั่งรู้สรรพสิ่งออกมาจากภายใน และหยั่งรู้ว่าการทิ้งสรรพสิ่งออกจากจิต
ก็คือการเข้าถึงเป้าหมายใหม่ อันเป็นยอดสุดแห่งความจริง เป็นความปลอดภัย
เป็นความเกษมชั่วนิรันดร์
ดังตฤณ
กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น