วันศุกร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

แรงบันดาลใจ เสียดายคนตายไม่ได้อ่าน เล่ม ๑๐ (ดังตฤณ)

รสชาติของทุกข์นั้นเหมือนกัน แต่รูปแบบของทุกข์มีได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทุกข์เรื่องบ้าน ทุกข์เรื่องงาน ทุกข์เรื่องเงิน ทุกข์เรื่องแฟน ทุกข์เรื่องสุขภาพ เหล่ามนุษย์ที่มีอายุทั้งหลายย่อมผ่านพบมาด้วยกันทุกคน อาจหนักบ้าง อาจน้อยบ้าง เอาเป็นว่า เมื่อพูดคำว่า ทุกข์ จะไม่มีใครเอ่ยเลย ว่าไม่รู้จักมาก่อน


เหตุให้เกิดทุกข์แต่ละแบบก็ช่างพิสดาร เหตุแห่งทุกข์จากชาติก่อนก็มี เหตุแห่งทุกข์จากชาตินี้ก็มาก

ถ้าคุณจำได้ว่าชาติก่อนเคยฆ่าคนด้วยน้ำมือตนเองไว้กลาดเกลื่อน คุณอาจรู้สึกเป็นทุกข์น้อยลง ไม่ว่าชาตินี้เดี๋ยวนี้ คุณกำลังเป็นทุกข์จากสุขภาพอ่อนแอสักเพียงใด



แต่เพราะไม่รู้ไม่เห็น ลืมทุกสิ่งไปหมดแล้ว และไม่มีนักวิทยาศาสตร์คนไหนใช้วิทยาการใดพิสูจน์ให้คุณทราบว่าคุณเคยเป็นใครมาก่อน หรือมีเพียงชาตินี้ชีวิตเดียว ดังนั้นหากคุณเจ็บออดๆแอดๆมาตั้งแต่แบเบาะ คุณคงได้แต่ก่นโทษพ่อแม่ หรืออีกทีก็โทษฟ้าดิน ด้วยความน้อยใจชะตากรรม

หากทั้งชีวิตคุณทุกข์หนัก คุณจะไม่มีแก่ใจแหงนหน้าตั้งคำถามบางข้อ เช่น ทำไมฟ้าจึงฟ้า...

แต่จะหมั่นก้มหน้าถามตัวเองซ้ำๆ เช่น ทำไมถึงต้องเป็นคุณ...

ความจริงก็คือ... ต่อให้มนุษย์ทุกคนระลึกชาติได้ ก็ใช่ว่ามนุษย์ทุกคนจะยอมรับว่าเหตุแห่งทุกข์มาจากการกระทำของตนเอง ในเมื่อการกระทำที่เห็นอยู่ในชาตินี้แท้ๆ ยังลืม ยังนึกไม่ออก หรือยังแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ด้วยซ้ำ สนแต่ว่าใครกระทำกับตนไว้อย่างไร แต่ไม่สนว่าตนกระทำกับใครไว้แค่ไหน

ความไม่รู้ทำให้เรางงกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง และความใส่ใจแต่เรื่องของตัวเองก็ทำให้เราหลงลืมว่าทำอะไรกับใครไว้บ้าง

สถานที่บางแห่งในโลกนี้ เตือนให้เรารู้สึกถึงการเดินทางไกลอันเต็มไปด้วยความร้อนอบอ้าวและความเวิ้งว้างน่าเหน็ดหน่าย เห็นแล้วอดนึกฉงนไม่ได้ว่าจะเดินทางไปไหน จะเดินทางไปทำไม และจะเดินทางไปกับใครดี

พระพุทธเจ้าตรัสเปรียบเทียบว่าวังวนกรรมและวงเวียนแห่งการเกิดตายเหมือนการเดินทางไกล เหมือนการนอนไม่หลับ แถมหนักยิ่งกว่านั้นมาก เพราะสังสารวัฏหรือการเวียนว่ายตายเกิดนี้ หาต้นปลายมิได้

คุณต้องหาทางหยุด ณ จุดที่กำลังรู้ตัว กำลังระลึกได้ อันเรียกกันว่า "ปัจจุบัน" นี้

พวกเราต่างชุ่มไปด้วยบาป อาบทุกข์ต่างน้ำกันแทบทุกชาติ แต่ก็ไม่รู้ตัว ไม่รู้เหตุผล และสำคัญคือไม่รู้ว่าจะหยุดได้อย่างไร

พระพุทธเจ้ารู้ และท่านก็ตรัสสรุปว่าทางเดียวที่จะรู้ตามท่าน ตลอดจนหยุดเดินทางเสียได้ตามท่าน คือฝึกมีสติมองเข้าข้างใน เพื่อหยั่งรู้สรรพสิ่งออกมาจากภายใน และหยั่งรู้ว่าการทิ้งสรรพสิ่งออกจากจิต ก็คือการเข้าถึงเป้าหมายใหม่ อันเป็นยอดสุดแห่งความจริง เป็นความปลอดภัย เป็นความเกษมชั่วนิรันดร์

ดังตฤณ

กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น