ถาม : การมีความสัมพันธ์ทางเพศผ่านอินเตอร์เน็ตกับหลายๆคนถือเป็นความสำส่อนหรือ
ไม่ครับ? และถ้าเป็นความสำส่อน
จะได้รับโทษเท่าข้อหามักมากในกามอันเป็นหนึ่งในอบายมุขหรือเปล่า?
>
จากหนังสือ เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว เล่มที่ ๑๑
ดังตฤณ:
พอโลกเรามีการสื่อสารผ่านอินเตอร์เน็ต รูปแบบความสัมพันธ์ของมนุษย์เราก็แปลกแหวกแนวไม่ซ้ำสมัยใดขึ้นทุกทีครับ ปัจจุบันมีศัพท์ถูกบัญญัติขึ้นใหม่มากมาย เช่น ไซเบอร์เซ็กซ์ (cybersex) ซึ่งหมายถึงการมีสัมพันธ์ทางเพศทางเครือข่ายคอมพิวเตอร์ อาศัยสื่อเช่น ข้อความตัวอักษร รูปภาพ หรือวิดีโอ แม้ไม่มีการสัมผัสจริงใดๆเกิดขึ้น ก็ยอมรับทั่วไปว่าถือเป็นสัมพันธ์ทางเพศแล้ว
เท่าที่ทราบคือปัจจุบันคู่ผัวตัวเมียซึ่งต้องไปทำงานต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ
ต่างก็มีไซเบอร์เซ็กซ์กันเป็นเรื่องปกติ
โดยเฉพาะเมื่อมีเทคโนโลยีเว็บแคมและอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงเข้ามาช่วย
ก็ทำให้สามีภรรยาไม่ต้องอยู่ห่างกันเกินเอื้อมนัก
ตรงนี้ผมเห็นเป็นแง่ดีของเทคโนโลยีที่ช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา
ไม่ต้องทนโดดเดี่ยวหงอยเหงาจนหันไปหาทางที่ผิดศีลผิดธรรมกัน ขอเพียงเป็นคู่ครองแท้ๆของตน
จะใช้ช่องทางไหนในการมีเพศสัมพันธ์ก็สบายใจและสนิทใจทั้งนั้น
อย่างไรก็ตาม ธรรมชาติของไซเบอร์เซ็กซ์ชวนให้ติดใจอยากไขว่คว้าหาเสรีภาพทางเพศ
มากกว่าที่จะถูกจำกัดสิทธิ์เฉพาะคู่ตน คือถ้าได้เสพและลิ้มลองของใหม่ไปเรื่อยๆในที่ลับส่วนตัว
จะให้ความสำราญกว่ากันเยอะ เยาวชนจำนวนหนึ่งติดอินเตอร์เน็ตงอมแงมราวกับติดเฮโรอีน
ก็เพราะถลำเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับโลกไซเบอร์เซ็กซ์นี่เอง
จากตัวคำถามของคุณนะครับ
ขอให้พิจารณาคำว่า ‘สำส่อน’ กันก่อน ความหมายของสำส่อนคือ ‘ปะปนอย่างไม่เลือก
ไม่เป็นระเบียบ’ ซึ่งโดยพฤตินัยอันเป็นที่เข้าใจทั่วไปแล้ว
จะหมายถึงการเป็นพวกชอบมีสัมพันธ์ทางเพศไม่เลือกหน้า
เดิมทีก่อนที่อินเตอร์เน็ตจะครอบงำโลกเหมือนทุกวันนี้
ก็มีโทรศัพท์เป็นช่องทางความสัมพันธ์ทางเพศระยะไกลนำร่องไว้แล้ว
ถอยหลังกลับไปก่อนหน้านั้นคงไม่มี เพราะถ้ามีก็ต้องเป็นความสัมพันธ์ทางเพศผ่านโทรเลข
ซึ่งไม่อาจเชื่อมความรู้สึกสองฝ่ายให้เข้าหากันแบบสดๆได้ สรุปคือ ก่อนยุคของโทรศัพท์
ความสำส่อนทางเพศจะหมายเอาเฉพาะที่ถึงเนื้อถึงตัวไม่เลือกหน้า
ทว่านับแต่มีโทรศัพท์ให้เชื่อมความรู้สึกถึงกันสดๆในระยะไกล
ก็ถึงยุคที่เกิดความสำส่อนทางเพศขึ้นได้ โดยไม่จำเป็นต้องผ่านการสัมผัสเนื้อหนังอีกต่อไป
แม้ไม่ถึงเนื้อถึงตัว
แต่ความรู้สึกของคนเราก็ ‘ถึงลูกถึงคน’ หรือ ‘ถึงพริกถึงขิง’ กันได้ กล่าวคือมีความแรงพอจะกล่าวว่าเป็นจริงเป็นจัง
มีเจตนาอย่างหนึ่งเกิดขึ้นจริง มีสัมพันธภาพแบบหนึ่งเกิดขึ้นจริง หาใช่แค่จินตนาการหรือฝันกลางวันไปคนเดียวไม่
หากพิจารณา
‘ข้อเท็จจริงทางใจ’ ดังที่กล่าวมา
ก็ต้องบอกว่าไซเบอร์เซ็กซ์ชนิดไม่เลือกหน้าจัดเป็นความสำส่อน แต่มีน้ำหนักครึ่งเดียวของความสำส่อนทางกาย
เนื่องจากยังไม่มีการถึงเนื้อถึงตัว
นี่เป็นทำนองเดียวกับกาเมสุมิจฉาจาร
การถึงเนื้อถึงตัวจัดเป็นองค์ประกอบสำคัญในการตัดสิน ว่าเป็นกาเมสุมิจฉาจารหรือไม่
กล่าวคือแม้มีเจตนาลักลอบเป็นชู้กับภรรยาชาวบ้าน
แต่ยังไม่มีการร่วมกันด้วยอวัยวะเพศชายและหญิง ก็ไม่นับว่าผิดศีลข้อ ๓ แบบขาดทะลุ
เพราะยังทำกรรมไม่สำเร็จตามประสงค์ ให้ถือว่าด่างพร้อยเท่านั้น
จะอย่างไรก็ดี
แม้จิตสำส่อนมีน้ำหนักเพียงครึ่งหนึ่งของกายสำส่อน ก็หาใช่จะไม่มีโทษเอาเสียเลย เพราะ
ราคะและกามกิเลสเป็นสิ่งมีอาถรรพณ์
เมื่อหมกมุ่นหลากหลายแล้วจะทำให้มัวเมาพร่าเลือน เห็นความถูกต้องเป็นเรื่องตลก
เห็นความสกปรกเป็นเรื่องธรรมดา พูดง่ายๆคือหากขาดกุศลปัจจัยอื่นๆ เช่น สติ
การบุญ การตั้งใจมั่นงดเว้นความประพฤติผิดทางกายและวาจาต่อคนทั่วไปในโลกความจริง
ฯลฯ ก็มีสิทธิ์ตัดสินใจผิดพลาดได้ทุกเรื่อง ไม่นับเฉพาะเรื่องทางเพศ
ยกตัวอย่างที่นักจิตวิทยากำลังถกกัน
ก็คือความวิปริตทางเพศอันเกิดจากเสรีภาพไร้ขอบเขต เอาง่ายๆคือสมาชิกของไซเบอร์เซ็กซ์จะขอให้ได้สนุกเป็นหลัก
เรื่องปลีกย่อยไม่คำนึง จึงไม่มีการถือสาหาความ หากฝ่ายหนึ่งจะโป้ปดมดเท็จ
ชายอาจแกล้งเป็นหญิง หญิงอาจแกล้งเป็นชาย
และฝ่ายหนึ่งอาจเขียนกระตุ้นให้อีกฝ่ายเกิดจินตนาการสมจริง
โดยที่ตนเองไม่ได้ลงมือแม้แต่น้อย
ทุกคนทราบดีว่าการกระตุ้นที่แรงพอจะทำ
ให้เกิดความสนุกสะใจ แต่ที่ไม่ค่อยมีใครรู้ก็คือผลของการมุสาทางกาเมนั้น
มีผลข้างเคียงเป็นของจริง คือความบิดเบี้ยวแห่งพฤติกรรมทางเพศ
ผู้ชายบางคนอยู่ดีไม่ว่าดี
ปลอมตัวเป็นผู้หญิง ซึ่งแค่แฝงๆในเว็บบอร์ดพูดคุยธรรมดาก็นับว่าเสี่ยงกับการเพิ่มดีกรีความเป็น
ฃแอบอยู่แล้ว แต่ถ้ายิ่งไปเล่นบทหญิงในไซเบอร์เซ็กซ์
คราวนี้ความรู้สึกนึกคิดและอารมณ์ทางเพศจะถูกดัดแปลงไป กระทั่งอยากเป็นหญิง
อยากรู้สัมผัสทางเพศแบบหญิงขึ้นมาจริงๆจังๆ
ฉะนั้นหากพิจารณาโทษอันเกิดจากการเข้าร่วมไซเบอร์เซ็กซ์แล้ว
ก็ขอให้เปรียบเทียบกับการคบคนพาล หรือเข้าซ่องสุมกับพวกมักมากในกาม
หรือสถานเบาก็ไปมีเอี่ยวกับชุมชนไร้เดียงสา ที่ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง
ต่อๆไปจะชวนกันประกอบกิจกรรมหนักเบาดีเลวเพียงใด ทุกเรื่องร้ายเป็นไปได้ทั้งนั้นในสังคมที่ขาดบัณฑิต
และยินยอมพร้อมใจตามแรงขับของกิเลสดิบๆ
สรุปคือไซเบอร์เซ็กซ์จะมีแรงเหนี่ยวนำให้ทำผิดอย่างยากจะต้าน
และแรงเหนี่ยวนำนั้นจะมาในรูปของใยแมงมุมบางๆที่ค่อยๆถักทอแบบไม่ให้ระคายสัมผัส
ไม่ทันรู้ตัว กว่าจะรู้ตัวอีกทีคุณก็โดนมัดไว้แน่นหนาเกินแก้แล้ว ฉะนั้นคำแนะนำคืออย่าเสี่ยงเอาตัวเข้าไปเกลือกกลั้วเลยเป็นการดีที่สุดครับ
เพราะคุณไม่มีทางรู้ล่วงหน้าเลยว่าจะต้องเผชิญกับเรื่องน่าติดใจแบบไหน
ยั่วยวนให้หลงผิดวิปริตเพียงใด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น