วันพุธที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ทำไมบวชพระต้องละกามารมณ์ด้วย (ดังตฤณ)

ถาม : เหตุใดการถือบวชจึงต้องละกามารมณ์ด้วยครับ? ศาสนาพุทธถือเป็นเรื่อง
ร้ายแรงถึงขั้นที่ให้ประหารเสียจากการเป็นพระ กับทั้งไม่ให้บวชเป็นพระอีกเลย
ทั้งชีวิต ทำไมโทษจึงร้ายแรงขนาดนั้น กะแค่มีอะไรกับผู้หญิง น่าจะเป็นความผิด
ที่อภัยกันได้ไม่หนักเท่าฆ่าคนตายสักหน่อย หรือพุทธถือว่าการมีเพศสัมพันธ์เป็น
บาปนักหนาครับ?

> จากหนังสือ เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว เล่มที่ ๑๑

ดังตฤณ: 
ศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งการพ้นเกิดพ้นตาย ผู้ถือบวชเป็นภิกษุในพุทธศาสนาต่างก็มีข้อตกลงเดียวกันตามที่พระพุทธเจ้าตั้งกติกาไว้นั่นคือบวชเข้ามาเพื่อทำมรรคผลนิพพานให้แจ้ง เพื่อไม่ต้องเกิดอีกในรอบหน้า

พระพุทธเจ้าตรัสว่ากายนี้เกิดขึ้นด้วยเมถุน ควรละเมถุนเสีย จึงนับเป็นการชักสะพานแห่งการเกิดกาย ก็เช่นนั้นควรแล้วหรือที่ภิกษุยังคงเดินหน้าเสพกามต่อไปโดยไม่สนใจข้อตกลงว่าจะบวชเข้ามาเพื่อทำมรรคผลนิพพานให้แจ้ง ทำลายรากแห่งภพชาติให้สิ้น?

การที่ภิกษุผู้สืบศาสนาแสดงความติดกาม ไม่ละพฤติกรรมทางเพศ ย่อมก่อให้เกิดภาพน่าสับสนว่าบวชเข้าไปทำไม ไหนว่าจะเอาความหลุดพ้น ชาวบ้านอุตส่าห์สนับสนุนข้าวน้ำ

ถ้าปล่อยให้พุทธเราเต็มไปด้วยผู้ทุศีล ขาดความเป็นพระแล้วยังครองผ้าเหลืองต่อไปได้มากๆ ศาสนาจะเสื่อมจากความศักดิ์สิทธิ์ภาพความมัวหมองย่อมทำให้ชาวบ้าน จิตตกเกินกว่าจะมีกำลังใจตื่นเช้าขึ้นมาใส่บาตร หรือร่วมกันระดมทุนเป็นสิบเป็นร้อยล้าน สร้างวัดวาอารามให้เกิดการสืบศาสนาต่อๆไปได้

จะเห็นว่าถ้าชาวบ้านไม่ศรัทธา ไม่เชื่อว่ายังเหลือภิกษุผู้เจริญรอยตามพระพุทธเจ้าอีกแล้ว ศาสนาย่อมดำรงอยู่ไม่ได้หากเล็งกันตรงนี้จึงมีเหตุผลอันสมควรยิ่งที่ศาสนาแห่งการละกาม จะประหารผู้ที่ไม่คิดละกามทิ้งเสียให้สิ้น การสึกพระผู้ปาราชิกย่อมหมายถึงการกำจัดต้นเหตุความสิ้นสูญของพุทธศาสนานั่นเอง!

คราวนี้มาว่ากันเรื่องบาปไม่บาป ทำไมแค่เสพกามถึงบาป ในเมื่อก่อนบวชเสพกามกี่ร้อยทียังไม่เห็นจะบาปตรงไหน? อันนี้ต้องบอกว่ากามนั้นเสพแล้วไม่ใช่ว่าบาป แต่คุณมี ‘สิทธิ์’ ในการเสพกามหรือเปล่าต่างหาก

ศาสนาพุทธไม่ได้แจกเสื้อผ้าและที่อยู่อาศัยให้คนจรจัดฟรีๆ เมื่อมาอยู่แล้วต้องช่วยกันรักษา เหมือนพนักงานในบริษัทพึงมีหน้าที่ช่วยให้บริษัทดำเนินกิจการต่อไปได้ หากพนักงานบริษัทประพฤติทุจริตคิดมิชอบ รู้ทั้งรู้ว่าเป็นเหตุให้บริษัทเสียหายนั่นย่อมเป็นบาปติดตัวเขาไปอย่างไม่ต้องสงสัย อย่างน้อยเขาย่อมรู้แก่ใจว่าทำไม่ดีไม่งามลงไปแล้ว ไม่ค่อยต่างจากการทำลายทรัพย์สินของบริษัทเท่าใดเลย

หากบวชเข้ามาทั้งไม่เข้าใจว่าคนอื่นเขามายุติกามกัน ยังมาเสพกามต่อในวัด ก็เท่ากับเป็นคนนอกบริษัทที่หวังเข้ามาหาผลประโยชน์ มาใช้สอยเครื่องไม้เครื่องมือของบริษัทโดยไม่ชอบธรรม ต่อหน้าทำทีเหมือนเป็นคนใน แต่โฉมหน้าที่แท้คือคนนอกพร้อมจะหักหลังคนในอยู่ตลอดเวลา ตรองดูนะครับ ไม่มีใครทรยศบริษัทตนเองได้ด้วยความจริงใจ คนขาดความจริงใจเท่านั้นที่คิดคดทรยศได้แล้วผู้ทรยศนั้นสมควรได้ชื่อว่าเป็นคนบาปหรือนักบุญ?

ทรยศใครไม่ว่า มาทรยศพระศาสนาแห่งความหลุดพ้นจากปวงทุกข์ ผลย่อมดูไม่จืด ใครทำสมบัติราคาสูงเสียหายย่อมถูกลงโทษอย่างหนักฉันใด ผู้ทำศาสนาแห่งความบริสุทธิ์ให้มัวหมองย่อมเปื้อนมลทินบาปอย่างร้ายแรงฉันนั้น!

สรุปคือต้องตั้งต้นบวชกันด้วยความเข้าใจครับ กามเป็นเหตุแห่งการเกิดมา ธรรมชาติจึงจัดสรรให้กามน่าสนุก น่าอยากมี น่าอยากเอา ใครอยากเสพกามก็เท่ากับประกาศว่ายังอยากเกิดอีก ซึ่งอยู่นอกวัดก็ไม่ผิดกติกาอะไร จะเสพกี่ร้อยกี่พันครั้งก็ตามใจ ต่อเมื่อไม่อยากเกิดค่อยเข้าไปอยู่ในวัด แล้วรักษาวินัย ถอนความอยากเสพกามเสียด้วยกิจอันบริสุทธิ์สะอาดแห่งสงฆ์ กระทั่งสามารถละความอยากเกิดเสียได้ในที่สุด


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น