ถาม : ขัดใจทุกครั้งกับการเห็นคนรอบตัวทำเรื่องไร้สติ
แล้วก็ไม่คำนึงถึงศีลธรรมหรือความถูกต้องใดๆ
จนดิฉันเองเผลอหงุดหงิดและพูดแย่ๆใส่พวกเขาอยู่เรื่อย โดยเฉพาะญาติผู้ใหญ่
ทราบว่าเป็นบาป ทำให้เนื้อตัวร้อน และบางทีก็ถึงขั้นเป็นไข้ แต่ก็อดไม่ได้
หลายหนหลายครั้งอยากวีนใส่โลกทั้งใบ ทำไมมันถึงเลวร้ายและไร้ความรับผิดชอบกันนัก
การที่ดิฉันทำดีให้พวกเขาดู และช่วยให้พวกเขายอมรับธรรมะได้ระดับหนึ่ง
แทบไม่มีความหมายใดๆเลยในเวลาที่เขาอยากทำอะไรของเขา
โดยเฉพาะเรื่องมีเมียให้เกลื่อน ดิฉันควรปล่อยเลยตามเลยหรือพยายามเช่นไรต่อเพื่อให้เป็นบุญ
ไม่เป็นบาปกับตนเองและพวกเขาคะ?
>
จากหนังสือ เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว เล่มที่ ๑๒
ดังตฤณ:
ท่องไว้ครับ
บุญใหญ่หาใช่การทำโลกนี้ให้ดีขึ้น แต่เป็นการเปลี่ยนตัวเองให้ร้ายน้อยลง
ผมพบว่าหลายคนพยายามเปลี่ยนโลกให้ดีขึ้นด้วยวิธีด่าโลก
จะบังคับโลกให้เป็นไปตามใจตนด้วยวาจา ซึ่งนอกจากจะไม่ได้ผลแล้ว
ยังอาจเป็นการเพิ่มกระแสความเร่าร้อนให้กับโลกที่ร้ายอยู่แล้วโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว
อย่างเช่น คุณเห็นคนใกล้ตัวเจ้าชู้
มีเมียแล้วยังอยากมีอีก แล้วก็มีไปเรื่อยๆราวกับสะสมแสตมป์
โอเคนั่นเป็นความไม่ดีของเขา เพราะคนยุคเรายังมีจิตสำนึกรับรู้ว่าคนธรรมดาเหมือนกัน
หญิงชายมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน ควรให้เกียรติและเคารพในสิทธิ์ของกันและกัน
ฉะนั้นหากยังมีสำนึกก็ไม่น่าไปมีใครอื่นตอนไม่โสด
แต่การด่าของคุณล่ะ?
โลกเราทุกยุคทุกสมัยทราบดีว่าด่าเมื่อใดร้อนเมื่อนั้น คุณเห็นด้วยไหม?
การพบคนอื่นทำเรื่องร้ายแล้วอยากด่า และไม่ยับยั้งชั่งใจที่จะด่าเขามันเกิดผลแบบไหนกับใจคุณและใจเขา
พอจะพยากรณ์ถูกไหม?
เมื่อโลกร้ายนัก
คุณคิดหรือว่าจะทำให้โลกนี้ดีขึ้นได้ด้วยการโยนความร้ายเพิ่มเข้าไป?
ไฟกำลังลาม
คุณคิดหรือว่าจะทำให้ทุกอย่างสงบลงด้วยการพ่นไฟใหม่กลบไฟเดิม?
กว่าจะเป็นคนๆหนึ่ง
ที่มีความรู้สึกนึกคิดและความปักใจเชื่อดังที่เขาเป็นอยู่ ไม่ใช่ว่าง่ายนะครับ
ต้องใช้เวลา ต้องผ่านการสั่งสมนิสัย และต้องมีองค์ประกอบหล่อหลอมพวกเขามากมายก่ายกอง
คุณเป็นใครถึงคิดว่าจะเปลี่ยนคนๆหนึ่งด้วยคำด่าอันระคายโสตเพียงไม่กี่ครั้ง?
ความอยากเปลี่ยนแปลงโลกมีมาทุกยุคทุกสมัยครับ
แต่คนที่อยากเปลี่ยนโลกภายนอกโดยไม่อยากเปลี่ยนโลกภายในนั้น
มักทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันไม่ได้มากกว่าการขยับปากด่าเขา
ก่อนจะรู้วิธีเปลี่ยนโลกภายนอก
ทางที่ดีที่สุดคือคุณต้องรู้วิธีเปลี่ยนโลกภายใน เมื่อรู้ว่าตัวคุณเองเปลี่ยนแปลงยากขนาดไหน
คุณก็จะสุขุมมากขึ้น ค่อยเป็นค่อยไปมากขึ้น
และที่สำคัญมีความเข้าใจมากขึ้นกับการพยายามเปลี่ยนแปลงโลกภายนอก
คนเราถึงผิดจริงก็ไม่ชอบให้ใครมาด่า
ไม่ชอบให้ใครมาว่าตัวเอง รู้อย่างนี้ก็อย่าไปจี้จุดที่เขาผิด
แต่ควรเริ่มจี้จากจุดที่เขาถูก เพื่อให้ภาคของความถูกต้องดีงามของเขาตักเตือนตนเอง
เช่น ขอคำแนะนำจากเขา ให้เขาสอนคุณเรื่องรับผิดชอบการงาน
วนเวียนซักถามเรื่องการรับผิดชอบหลายๆแง่หลายๆมุม ระวังอย่าวกเข้าเรื่องรับผิดชอบลูกเมียให้เขารู้สึกว่ากำลังถูกด่ากระทบหากคุณทำให้เขาภูมิใจที่รู้เรื่องการรับผิดชอบได้
เอาไว้เขาก็ชะงักคิดเอง ตอนเขามีสำนึกรับผิดชอบลูกเมียต่ำลง
หรือถ้าเขาไม่ค่อยจะมีวินัย
ไม่ค่อยรับผิดชอบการงาน ก็ลองขุดหาความดีที่เป็นทุนของเขาให้เจอ เช่น
ทำตัวให้เขารู้สึกว่าคุณชื่นชมเขาอย่างหนึ่ง คือดีเลวอย่างไรก็ไม่โกหก
อันนี้ปัจจัยอยู่ที่ตัวคุณด้วย ถ้าขอแค่เขาพูดแต่คำจริง คุณจะไม่ด่า ไม่ว่าไม่แสดงปฏิกิริยาให้เขารู้สึกว่าตัวเองผิด
เขาก็อาจรักการพูดความจริงขึ้นมาได้
ศีลเป็นสิ่งมีพลัง
และศีลแต่ละข้อก็มีอำนาจดึงดูดศีลข้ออื่นๆ เพราะศีลทุกข้อเชื่อมโยงกับความละอายบาปโดยตรง
เมื่อขอร้องให้เขารักษาศีลได้บางข้อ ในที่สุดเขาอาจอยากรักษาศีลให้ครบทุกข้อขึ้นมาเอง
โดยเฉพาะข้อที่ว่าด้วยการมุสานั้น หากใครตั้งใจงดเว้นคำเท็จ มีแต่พูดแต่คำจริง
ก็มักเป็นทุนให้เกิดกำลังใจอยากงดเว้นความชั่วอื่นๆได้ง่ายขึ้น
ว่าก็ว่าเถอะ
เมียน้อยนั้นลงได้มีแล้วก็ไม่เหมือนสินค้าที่จะเอาไปแลกคืนหรือขายต่อ
เมื่อมีแล้วต้องรับผลของการมี ผมคงไม่อาจให้คำแนะนำในการกำจัดเมียน้อยของญาติผู้ใหญ่
คงได้แต่ให้กำลังใจและข้อแนะนำในการเปลี่ยนแปลงอะไรๆให้ดีขึ้นเท่าที่จะเป็นไปได้นะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น