ถาม : ทราบมาว่าการทำบุญกับอริยบุคคลจะให้ผลยิ่งกว่าทำบุญกับปุถุชนผู้มีศีลบริสุทธิ์ตั้งแต่ร้อยเท่าถึงล้านเท่าบางแห่งในคัมภีร์มีระบุทีเดียวว่าทำบุญกับอริยบุคคลแล้วฐานะดีขึ้นทันตาเห็นสิ่งที่ผมสงสัยคือถ้าอริยบุคคลเป็นแหล่งบุญใหญ่โตขนาดนั้นทำไมพวกท่านบางคนจึงไม่เป็นมหาเศรษฐีกันเสียเอง?
>
จากหนังสือ เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว เล่มที่ ๑๑
ดังตฤณ:
เหมือนคุณออกกำลังกายด้วยการยกน้ำหนักยิ่งคุณยกบาร์หนักๆได้มากขึ้นเท่าไร กล้ามของคุณก็จะยิ่งโตขึ้นเท่านั้นโดยบาร์น้ำหนักไม่ได้หนักขึ้นหรือเบาลงแม้แต่กรัมเดียว
พวกเราตกอยู่ภายใต้กฎกติกาเดียวกันคือ
‘ทำกับคนอื่นอย่างไร ก็ได้ผลสนองตอบตามนั้น’ ส่วนจะได้ดอกเบี้ยงอกเงยเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับภาคขยายว่ามีรัศมีกว้างขวางหรือคับแคบปานใด
เพื่อที่จะมีฐานะร่ำรวยคุณต้องมีทุนเป็นการทำทานไว้ก่อน
และถ้าทานนั้นไม่ได้ให้ผลแบบส่งเข้าท้องคนรวยคุณก็ต้องสร้างเนื้อสร้างตัวเอาเอง
และคำว่า ‘ทาน’
นั้นไม่ว่าจะเป็นทรัพยทาน อภัยทาน หรือธรรมทาน
ก็ล้วนแล้วแต่ต้องมีผู้รับเป็นคนอื่นเหล่าอริยบุคคลที่เป็นพระท่านอยู่ในฐานะของ
‘ผู้เปิดโอกาสให้คนอื่นได้ถวายทรัพย์เป็นทาน’ และในส่วนของพวกท่านเองมีปกติเป็นการให้ธรรมทานและอภัยทานไม่ค่อยมีโอกาสให้ทรัพย์เป็นทานอย่างชาวโลก
กรรมที่เหล่าอริยบุคคลท่านทำนั้นหาใช่การให้ทานเพื่อเข้าท้องคนรวย
และหาใช่การสร้างเนื้อสร้างตัวตามวิสัยโลกตรงข้าม ท่านให้ทานเพื่อสละความตระหนี่
และทิ้งฐานะ ทิ้งยศศักดิ์เพื่อพ้นกระแสโลกละอุปาทานที่ครอบงำจิตเสียให้สิ้น ฉะนั้นผลของการกระทำของพวกท่านจึงไม่ใช่ความร่ำรวยแบบโลกๆแต่เป็นความมีชีวิตอยู่ได้เพียงพอที่จะประพฤติปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นแห่งจิต
อย่างไรก็ตามอริยบุคคลไม่ได้มีแต่พระ
ยังมีชาวบ้านธรรมดาได้ด้วยฉะนั้นอริยบุคคลผู้เป็นฆราวาสก็มีสิทธิ์รวยหรือจนตามกำลังแห่งทานและความสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวทั่วไปไม่ได้มีอภิสิทธิ์พิเศษเหนือกฎแห่งกรรมวิบาก
ดังเช่นในสมัยพุทธกาลก็มีนางวิสาขาซึ่งเป็นโสดาบันบุคคลตั้งแต่อายุยังน้อย
ร่ำรวยตั้งแต่เกิดและไปสู่ตระกูลสามีที่มั่งคั่งอีกด้วย
เพราะกรรมหลักของนางตั้งใจทำนุบำรุงพระศาสนาเคยอธิษฐานขณะทำมหาทานว่าต่อไปอย่าต้องคิดว่าทำบุญเท่านั้นเท่านี้จะมีเงินพอหรือไม่แล้วชาติล่าสุดนางก็เป็นผู้ได้โอกาสทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาเกินสตรีนางใดสมความปรารถนาที่ตั้งไว้แต่อดีตกาลปางบรรพ์
สรุปคือการเป็นแหล่งกำเนิดบุญให้กับผู้อื่นมิใช่หมายความว่าจะได้ดีมีสุขเหนือขอบเขตกรรมเก่าและกรรมใหม่ของตนเองสมตามที่พระพุทธเจ้าตรัสว่าสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมหาใช่สัตว์โลกย่อมเป็นไปโดยไม่ต้องทำอะไรครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น