ถาม : รักแฟนมาก แต่ไม่ชอบครอบครัวเขาเลย
กลัวจะเป็นปัญหาเมื่อแต่งงานกันไป
เพราะเขายังมีความผูกพันและขึ้นอยู่กับครอบครัวค่อนข้างมาก
เวลาต้องไปบ้านครอบครัวของเขา บางทีรู้สึกเหมือนส่วนเกินหรือถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว
เข้ากับใครไม่ได้ แม้เขาชวนคุยด้วยก็ฝืนแบบถามคำตอบคำ เหมือนลางไม่ดี
ชวนให้กังวลลึกๆว่าในที่สุดจะอยู่กับแฟนรอดไหม อยากทราบว่าโดยทั่วไปแล้ว
กรรมร่วมกันกับแฟนอย่างเดียว เพียงพอจะประคองชีวิตคู่ได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่คะ?
>
จากหนังสือ เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว เล่มที่ ๑๑
ดังตฤณ:
คนเรามีรากเหง้าด้วยกันทั้งนั้นครับ บางคนดูเป็นผู้ดี มีการศึกษา พูดจานิ่มนวล แต่พอพาไปรู้จักกับที่บ้าน แฟนถึงกับผงะ เพราะเจอแต่ญาติๆการศึกษาน้อยและเสียงบ๊งเบ๊ง
กรรมเก่าเป็นแดนเกิด
กรรมเก่าเป็นเผ่าพันธุ์
แต่กรรมใหม่ก็อาจทำให้คนๆหนึ่งแตกต่างไปจากแดนเกิดและเผ่าพันธุ์ดั้งเดิมของเขาแล้ว
สืบไปคุณอาจพบว่าแฟนพัฒนาตัวเองมาจากความเป็นใครอีกคนหนึ่งที่ไม่ใช่เขาในทุกวันนี้
อดีตคือความเป็นไปได้
ที่คนๆหนึ่งจะกลับไปสู่ความเป็นเช่นนั้นอีก ส่วนปัจจุบันคือข้อเท็จจริง ที่คนๆหนึ่งก้าวผ่านอดีตมาสู่ตัวตนที่กำลังปรากฏ
อดีตอาจสำคัญกว่าปัจจุบัน
ถ้าอดีตมีแรงดึงดูดมากพอจะหน่วงเหนี่ยวปัจจุบันกลับไปหาอดีตได้ทุกเมื่อ
แต่ปัจจุบันจะสำคัญกว่าอดีต หากปัจจุบันดีดตัวพ้นจากอดีตออกมาอย่างสิ้นเชิงแล้ว
ในฝั่งของคุณ
ถ้าคุณแคร์เขาในวันนี้มากพอ ก็อาจข้ามๆ ‘อดีตกรรม’ ของเขาไปได้ แต่ถ้าคุณคิดมากและติดอยู่กับการดูคนที่อดีต
ก็อาจมองข้าม ‘ปัจจุบันกรรม’ ของเขาไปเสียหมด
ฟังจากสำนวนคำถาม
ดูเหมือนนี่เป็นเรื่องชอบใจหรือไม่ชอบใจมากกว่าอย่างอื่น เรื่องความพอใจในการคบค้าสมาคมนั้น
เป็นเรื่องของธาตุนิสัย ไม่ใช่เรื่องความดีความชั่ว
และเมื่อไม่ได้เป็นเรื่องของความดีความชั่ว
ก็ยังชี้ชัดยากว่าครอบครัวของเขาถือเป็นลางดีหรือลางร้ายสำหรับชีวิตคู่ของคุณ
ถ้าสมมุติว่าคุณพ่อของเขาเป็นพวกค้ายา
ค้ามนุษย์ อันนี้พุทธเราถือว่าเป็นอัปมงคล เป็นนิมิตบอกลางไม่ดีกับการต้องมาเป็นทองแผ่นเดียวกัน
ทั้งนี้เพราะวันหนึ่งอาจเกิดเรื่องเสื่อมเสียมาถึงคุณ
ทั้งที่คุณไม่มีส่วนรู้เห็นหรือสมรู้ร่วมคิดใดๆเลย เอาแค่ตำรวจจับพ่อเขาเข้าคุก
นามสกุลปรากฏหราบนหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ
เท่านี้คุณไปกรอกใบสมัครงานที่ไหนใครเขาก็จ้องเอาด้วยสายตาหวาดระแวงแล้ว
แต่หากญาติพี่น้องของเขาดูไม่มีคลาสสำหรับคุณ
อันนี้ยังไม่แน่ ยังต้องพิจารณาองค์ประกอบรอบด้านให้ละเอียดอีกที ทั้งนี้เพราะความสัมพันธ์ระหว่างคนเราปรับเปลี่ยนกันได้
การดูถูกกันกลบเกลื่อนได้ด้วยบุญร่วมกัน เอาแค่ทั้งสองฝ่ายพยายามมองแง่ดี
พยายามเจรจาด้วยถ้อยคำอันยังให้เกิดความปรองดอง
เท่านี้ก็เป็นบุญใหม่ที่สะสมแล้วก่อให้เกิดความรู้สึกดีๆเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่พบกันได้แล้ว
บุญทำให้เกิดอะไรดีๆขึ้นเสมอ
ทั้งแบบที่ปรากฏเป็นรูปธรรม และแบบที่ปรากฏทางความรู้สึก
เมื่อกล่าวถึงบุญโดยหน้าที่ผูกเชื่อมสัมพันธ์ให้คนเรารู้สึกดีต่อกัน
ก็อาจมองได้อย่างนี้
๑)
ในชาติใกล้เคยมีบุญสัมพันธ์ร่วมกันมากับแฟน แต่กับคนในครอบครัวของเขาอาจมีมาน้อย
หรืออาจกระเดียดไปทางบาป กรณีนี้แม้ธาตุนิสัยดูเหมือนเข้ากันได้
แต่ก็กลับอึดอัดใจกับการคลุกคลีตีโมงกัน
ทางปรับปรุงที่เป็นไปได้คือประกอบบุญร่วมกับคนในครอบครัวของเขาเพิ่มขึ้น
แต่อันนี้ก็ต้องอาศัยความร่วมมือจากทั้งสองฝั่ง
อย่างไรให้แน่ใจว่าฝั่งของคุณพยายามแล้วก็แล้วกัน
๒)
ในชาติใกล้เคยมีบุญสัมพันธ์ร่วมกันโดยพร้อมเพรียง ทั้งกับแฟนและคนในครอบครัวของเขา
กรณีนี้แม้ธาตุนิสัยเข้ากันไม่ได้สนิท แต่ก็ยังคงสนิทใจกับการคลุกคลีตีโมงกัน
หากประกอบบุญเพิ่มขึ้นอีก สัมพันธภาพก็จะปรับปรุงขึ้นอีก เช่น
ให้ความรู้สึกผูกพันแน่นแฟ้น หรืออบอุ่น อยากอยู่ใกล้กันมากกว่าเดิม
สมัยก่อนคนแต่งงานกันแบบไม่คิดมาก
เจออะไรหลังแต่งก็ทนๆไป ใช้ชีวิตไปเรื่อยๆจนกว่าจะตายจากกัน แต่สมัยนี้คนคิดมากขึ้น
บางทีอาจถึงขั้นมองว่าใครตัดสินใจแต่งงาน ถือว่าเป็นพวกที่ไม่กลัวปัญหา
หรือแบบที่เรียกว่าหมูไม่กลัวน้ำร้อน อันนี้ก็ว่ากันไปครับ อย่างไรถ้าคุณตัดสินใจบนพื้นฐานของความรักจริงเป็นหลัก
เรื่องอื่นก็ล้วนเป็นรองไปได้ เพราะความรักจริงจะทำให้คุณยอมมองข้ามรายละเอียดที่ไม่น่าชอบใจในอีกฝ่าย
ตลอดจนเต็มใจทุ่มเททุกสิ่งเพื่อทำอะไรให้ดีขึ้นกว่าจุดเริ่มต้นเสมอ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น