ถาม : ฟังบางคนบอกว่าถ้านิพพานมีจริง เป็นบรมสุข
ใครรอดจากสังสารวัฏไปถึงนิพพานได้ก็สบาย
อย่างนี้เท่ากับทิ้งพ่อแม่พี่น้องและเพื่อนพ้องไว้กับทุกข์
นับว่าเป็นการเห็นแก่ตัว ตรงนี้จะตอบเขาอย่างไรดี?
>
จากหนังสือ เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว เล่มที่ ๑๐
ดังตฤณ:
ตอบเขาไปว่าทุกสิ่งทุกอย่าง เราทำไปเพื่อตัวเองทั้งนั้นเลยครับ คุณไม่เคยทำอะไรแล้วผลไม่เข้าตัว แม้คิดสละไม่หวังเอาอะไรไว้เลย บุญอันเกิดจากการคิดสละไม่หวังเอาอะไรตอบแทนก็เกิดขึ้นเป็นเงาตามคุณไปอยู่ดี
และความจริงอีกด้านหนึ่ง
คือคุณไม่มีทางตามไปช่วยใครได้ตลอดกาล คนที่คุณช่วยจะต้องตายจากไป
หรือไม่คุณเองก็อาจต้องตายจากเขาไปก่อน เมื่อตายจากกันก็ลืมกัน และไม่แน่เสมอไปว่าคราวหน้าเมื่อเจอใหม่จะได้ช่วยเหลือเกื้อกูลกันอีก
ด้วยอำนาจความลืม ด้วยอำนาจความไม่รู้ ด้วยอำนาจโลภะโทสะและความหลงผิดประการต่างๆ
อาจบีบให้ต้องเผลอทำร้ายกัน ทั้งที่รักกันปานจะกลืนก็ได้
นี่คือสัจธรรม
หาใช่การสมมุติ คุณดูผู้คนในโลก มีใครบ้างช่วยกันได้ตลอด
มีอะไรบ้างประกันว่าวันหนึ่งจะไม่หันมาทำร้ายกันเอง
อีกประการหนึ่ง
พระพุทธเจ้าผู้เป็นศาสดาของศาสนาพุทธ ท่านก็ทำตัวอย่างนำทางไว้แล้ว
กล่าวคือเมื่อท่านรอด ท่านพบนิพพานแล้ว หลุดพ้นจากทุกข์อย่างถาวรแล้ว
ท่านก็ไม่ได้ด่วนทำลายขันธ์ให้แตกดับเพื่อเข้าเสวยวิมุตติสุขแห่งนิพพาน
ท่านยังตรากตรำเหนื่อยยาก กลับมาช่วยญาติมิตรให้รอดตาม แถมยังพ่วงสรรพสัตว์ผู้ควรแก่การรู้แจ้งให้ได้รู้แจ้งตาม
ดังนี้จะว่าศาสนาพุทธเป็นศาสนาของคนเห็นแก่ตัวย่อมไม่ควร
ส่วนพระอรหันต์ต่างๆจะมีกำลังขนญาติมิตรไปด้วยหรือไม่
อันนั้นไปว่ากันไม่ได้ เพราะหน้าที่ที่ถูกต้องของแต่ละคนคือต้องช่วยตัวเองให้รอดก่อน
นี่เป็นหลักของพุทธเราจริงๆครับ พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
เมื่อได้ตนเองเป็นที่พึ่งแล้ว ย่อมชื่อว่าได้ที่พึ่งอันหายาก และเมื่อใดสามารถเป็นที่พึ่งให้กับตนเอง
พระพุทธเจ้าก็จะชี้เลย เธอไปทางทิศโน้น ส่วนเธอไปทางทิศนั้น
ไปช่วยโปรดให้สังสารสัตว์ผู้จมทุกข์ได้พ้นจากทะเลทุกข์ขึ้นสู่ฝั่งแห่งความปลอดภัย
สำคัญคือคนส่วนใหญ่เข้าใจว่าตัวเองสามารถช่วยเพื่อนร่วมโลกด้วยกำลังแห่งผู้ยังไปไม่ถึงฝั่ง
คุณเห็นนักปฏิวัติ นักดนตรีเพื่อชีวิต ตลอดจนนักสังคมสงเคราะห์กี่คนกัน
ที่รักษาอุดมการณ์ไว้ได้ตลอดชีวิต พาพ่อแม่พี่น้องและคนทุกข์ทั้งหลายไปถึงฝั่งที่ตนฝัน? บางคนนอกจากกลับลำไม่ช่วย หรือช่วยไม่ได้
ยังอาจทำร้ายครอบครัว ทำร้ายสังคมเสียด้วยซ้ำ!
การช่วยเหลือนั้นมีหลายแบบครับ
ใครยืนอยู่ตรงไหนก็ช่วยออกมาจากตรงนั้น
สำหรับพุทธเราพระพุทธเจ้าสรรเสริญการช่วยให้ถึงฝั่งแห่งความปลอดภัย
คือเข้าถึงได้ด้วยตนเองก่อน
แล้วจึงค่อยยื่นมือมารับญาติมิตรที่ยังลอยคอในห้วงทะเลอันตรายที่ชื่อ ‘วัฏสงสาร’
นี้ ส่วนญาติมิตรจะตามขึ้นบกได้หรือไม่
ก็ไม่ใช่เรื่องที่คุณจะคาดหวังให้เกินตัวไปเปล่าๆครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น