ถาม : การแลกคู่นอนแบบสวิงกิ้ง
ที่ต่างก็สมยอมด้วยกันทุกฝ่าย แถมมีความสนุกกับสมบัติผลัดกันชมอีก อย่างนี้ถือว่าผิดศีลไหมครับ?
>
จากหนังสือ เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว เล่มที่ ๑๑
ดังตฤณ:
เรื่องของศีลข้อ ๒
ซึ่งว่าด้วยการลักขโมย และศีลข้อ ๓ ซี่งว่าด้วยกามที่ผิดนั้น ตัวชี้ขาดว่าผิดหรือไม่ผิด
คือ ‘สิทธิ์’
ครับ
อย่างเช่นเมื่อธนาคารแห่งประเทศไทยพิมพ์ธนบัตรมูลค่า
๑,๐๐๐ บาทออกมาใบหนึ่ง
สิทธิ์นั้นยังไม่เป็นของใคร ยังเป็นของกลาง
ต่อเมื่อธนบัตรใบนั้นตกมาอยู่ในมือของคุณโดยชอบธรรม สิทธิ์ก็เป็นของคุณทันที หากคุณยินยอมโดยวาจา
หรือแม้โดยการส่งภาษากายด้วยการพยักหน้ายกสิทธิ์ให้คนอื่น ก็เป็นอันว่าไม่มีใครผิดศีลข้อ
๒
แต่แบงค์พันเดียวกันนั้นเอง คุณยินยอมยกให้ตกอยู่ในมือคนอื่นเหมือนกัน
แต่มีเงื่อนไขว่าให้ชั่วคราว คือ ตกลงกันว่าพรุ่งนี้ต้องคืน เมื่อถึงเวลาก็มาคืนตามข้อตกลง ดังนี้ไม่ถือว่ามีการผิดศีลข้อ ๒ แต่ธรรมดามนุษย์ขี้โลภอาจกลับไปกลับมาได้เสมอ วันต่อมาเขาอาจเห็นว่าเคยเอาแบงค์พันมาครองก็ไม่เห็นจะมีใครเดือดร้อน ถ้าจะเอามาอีกโดยไม่ให้คุณรู้ก็ไม่แปลก แป๊บเดียวเดี๋ยวก็คืนอีก เมื่อลงมือโดยไม่ขออนุญาตในรอบนี้ ก็ถือว่าเขาทำผิดศีลข้อ
๒ แล้ว เพราะคุณไม่ได้อนุญาต
ยกตัวอย่างข้างต้นมาเพื่อให้เห็นภาพง่ายๆ
ก่อนครับ ผิดหรือไม่ผิดนั้น
ขึ้นอยู่กับการตกลงกันในเบื้องต้นเป็นสำคัญ ว่าจะให้สิทธิ์แก่กันเพียงใด
และมีการผิดสัญญาในภายหลังหรือไม่
คู่สวิงกิ้งนั้น
ถ้าดูกันตามข้อตกลงว่าจะให้สิทธิ์ใช้เนื้อหนังของคู่ตนเพื่อการเสพสมอภิรมย์แล้ว
ก็ต้องบอกว่าไม่มีใครทำผิดศีลข้อ ๓ แต่อย่างใด เพราะไม่ได้ลักกินขโมยกินให้ต้องเกิดความรู้สึกผิด
ทราบแน่ว่าไม่มีผู้ใดต้องบาดใจหลังประกอบกามกิจเสร็จสิ้น
อย่างไรก็ตาม
การแลกคู่สวิงกิ้งที่ดูเผินๆเหมือนไม่มีปัญหา อะไรๆง่ายไปหมดเพราะทุกฝ่ายเปิดไฟเขียว
ไม่มีใครเสียเปรียบใคร
ความจริงแล้วในทางปฏิบัติมักเกิดปัญหาภายหลัง เพราะใจคนกลับไปกลับมา
วันนี้ไม่หวงเพราะได้คู่ของอีกฝ่ายมาสนุกกันเป็นการแลกเปลี่ยน
แต่พอสนุกเสร็จก็พบว่าคู่เดิมของตนดีกว่าตั้งเยอะ ไม่คุ้มเลย
ไม่น่าเอาไปแลกกับอีกฝ่ายให้เสียราคาเลย
อย่างนี้ก็ต้องหวงขึ้นมา วันหลังอย่างหวังมาขอแลกอีก
แต่การณ์อาจไม่ง่ายเช่นนั้น
เพราะคนเรามีชีวิต ไม่ใช่วัตถุ
ถ้าคู่ของคุณเกิดติดใจ คุณห้ามแล้วไม่ฟัง
ยังลักลอบปฏิบัติการบาดอารมณ์เยี่ยงวัวเคยขา ม้าเคยขี่ อันนี้ถือว่าการลักลอบเป็นชู้เกิดขึ้นแล้ว ศีลข้อ ๓ ถูกละเมิดแล้ว โดยมีตัวคุณเป็นฝ่ายเปิดประตูอบายให้เขาหรือเธอเองกับมือ
วัตถุทางเพศอันได้แก่เนื้อหนังมังสาของมนุษย์นี้
มีใช่เพียงของแข็งเหมือนวัตถุธรรมดา
คือเป็นวัตถุที่มีวิญญาณครอง วิธีที่วัตถุทางเพศจะแปดเปื้อนนั้น
หาใช่ด้วยรอยฟกช้ำดำเขียวที่ปรากฏทางผิวเนื้อ แต่ความบอบช้ำจะปรากฏทางวิญญาณ
เห็นไม่ได้ด้วยตาเปล่า แต่อาจสัมผัสได้ด้วยใจ
ถ้ารู้จักผู้หญิงสักคนที่เปลี่ยนไป
ก็ขอให้ลองเปรียบเทียบดูเถิด
ตอนหวงเนื้อหวงตัวเป็นอย่างไร
ตอนปล่อยเนื้อปล่อยตัวแตกต่างไปแค่ไหน
วัตถุทางเพศที่ช้ำแล้วจะไม่น่าแตะต้อง
เหมือนของไร้ราคาที่ไม่น่าสัมผัสเท่าของมีราคาเลย
คุณอาจเถียงว่า
บางรายแลกคู่กันแล้วไม่มีปัญหา ทุกฝ่ายสุขสม อันนั้นผมคงไม่มีข้อขัดแย้ง
ถ้าทุกอย่างราบรื่นจริงก็เป็นเรื่องส่วนตัวของชนกลุ่มน้อย
ที่ไม่รังเกียจการแลกแปรงสีฟันใช้กัน
แต่หากสนใจพอจะมองลึกเข้าไปในเรื่องของจิต เราควรสืบให้ลึกลงไปว่า
ทำไมคนเราถึงควรมีคู่นอนเป็นตัวเป็นตนเพียงตนเดียว
คุณจะไม่มีทางรู้เหตุผลผ่านการพิจารณาร่างกายฝ่ายเดียว
แต่ต้องดูสิ่งที่เกิดขึ้นกับจิตใจเป็นส่วนประกอบสำคัญด้วย
การมีคู่นอนแน่ชัดเพียงคนเดียว
จะทำให้มนุษย์คนหนึ่งมีใจเดียว แต่เมื่อใดปันกายให้หลายคน
ธรรมชาติกามอันเป็นของต่ำย่อมครอบงำให้ใจหลงสำคัญผิดได้ต่างๆ นานา ในที่สุดอาจเผลอเห็นไปว่า
การละเมิดสิทธิ์ทางเพศเป็นเรื่องทำกันได้ ไม่น่าจะถือสาอะไรมากมาย
การปันกายให้หลายคนถือเป็นรากสำคัญของความเป็นคนหลายใจ
นำไปสู่รสนิยมทางเพศแบบหลากหลาย เบื่อง่าย
อยากลองของใหม่ไปเรื่อย ตอนแรกไม่ผิดศีล
แต่ตอนหลังอาจผิดได้แบบสุดจะกู่กลับ
เพราะนั้นไม่เปิดทางเสียตั้งแต่แรกถือเป็นนโยบายอันเยี่ยม
ช่วยประกันว่าคุณจะไม่พลัดลงสู่ทางเสื่อม
หรือกระทั่งหุบเหวแห่งความหายนะได้อย่างดีครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น