ถาม : ผู้บริหารโรงเรียนที่ยักยอกงบประมาณ
จะได้รับผลกรรมเร็วช้าแค่ไหน และอย่างไรครับ? หน้าตาก็ดี ท่าทางก็ภูมิฐาน
แต่หมอนี่ไม่ได้โกงงบประมาณโรงเรียนอย่างเดียว ยังโกงเงินผ้าป่า โกงเงินฌาปนกิจศพอีกต่างหาก
ผมก็ยังเห็นเขาอยู่ดีและเดินหน้าโกงต่อไป ทั้งที่น่าจะได้รับผลกรรมไปแล้ว
>
จากหนังสือ เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว เล่มที่ ๑๐
ดังตฤณ:
นี่เป็นข้อสงสัยที่ชวนให้คนไม่อยากเชื่อเรื่องผลกรรมกันมากที่สุด คือ ‘เลวขนาดนี้ ไม่เห็นมันรับผลกรรมเสียที’
ลองคิดเพื่อความสบายใจก็แล้วกัน
นึกให้ออกว่าที่เขาหน้าตาดี ท่าทางภูมิฐาน แถมเป็นใหญ่ในระดับบริหารได้
อย่างน้อยชาติก่อนคงต้องมีดี มีพฤติกรรมที่น่าภาคภูมิ
แล้วก็เป็นใหญ่ในการบุญบางอย่าง
อาจจะเคยเป็นแม่งานช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถ้าครั้งนั้นคุณเคยเกิดร่วมกับเขาและเห็นความมีน้ำใจของเขา
คุณคงนึกแน่ๆว่าต่อไปเขาต้องได้ดี มีสุข มีความภูมิฐาน มีความเป็นใหญ่
แม้พลาดพลั้งทำชั่วไปบ้างก็คงไม่ให้ผลเร็วนัก
และถ้าในชาตินั้นเขาก้มหน้าก้มตาทำดี
แต่ไม่เห็นผลดีสักที คุณคงนึกเอาใจช่วย อยากเร่งรัดให้เขาได้ดีเร็วๆ
เมื่อผลยังไม่งอกเงย คุณก็คงนึกแค้นใจแทน
และพานจะไม่อยากเชื่อว่าวิบากกรรมมีจริงเอา
มาในชาตินี้
เขาเล่นบทตัวโกง ไม่ใช่พระเอก และเรื่องของการโกง ไม่ว่าจะเป็นงบอาหารกลางวัน
งบวัสดุการเรียน งบนักเรียนยากจน งบค่าพาหนะ ฯลฯ ทุกอย่างต้องเอามาคิดหมดไม่ตกหล่น
ถึงเวลากรรมเผล็ดผล เขาก็ต้องถูกเบียดเบียนเรื่องอาหารการกิน เรื่องการเรียน
เรื่องการเดินทาง ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม
ผลจากการเคยเล่นบทพระเอก ทำให้เขายังต้องเสวยสุขอีกระยะหนึ่ง กับการเป็นคนหน้าตาดี
ภูมิฐาน และเป็นใหญ่ในระดับบริหาร ความรู้สึกคับแค้นใจของคุณไม่อาจไปบังคับบัญชากรรมให้ทำหน้าที่เร็วๆได้
สิ่งที่คุณทำได้และควรทำ คือเป็นกลาง
วางอุเบกขา ด้วยความเชื่อใจธรรมชาติ ว่าตัดสินทุกคนอย่างยุติธรรมเสมอ
ทำดีต้องได้ดี ทำชั่วต้องได้ชั่ว
และต้องเสวยวิบากทั้งดีและชั่วตามระยะเวลาที่สมเหตุสมผล
ตามแรงส่งของกรรมที่ทำไว้เสมอครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น