วันอังคารที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ได้รับความช่วยเหลือมากๆจะต้องไปเป็นคนใช้เขาหรือไม่ (ดังตฤณ)

ถาม : ถ้าใครได้รับความช่วยเหลือจากเรามากๆ เขาจะต้องเป็นคนใช้เราในชาติต่อๆไปหรือเปล่าครับ?

> จากหนังสือ เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว เล่มที่ ๑๒

ดังตฤณ:
 
ไม่จำเป็นหรอกครับ คนที่ได้รับความช่วยเหลือจากคุณมากๆโดยที่คุณเต็มใจเอง หยิบยื่นเอง อันนั้นก็ไม่ถือว่าเขาใช้สอยคุณแต่อย่างใด

การช่วยเหลือกระทั่งเขาซาบซึ้งน้ำใจคุณ และอาจยังไม่มีโอกาสตอบแทนเต็มเม็ดเต็มหน่วยในชาตินี้ จะมีผลอย่างไรในชาติถัดไปก็ขึ้นอยู่กับรูปแบบที่เขาได้รับความช่วยเหลือด้วย เช่น

๑) หากคุณช่วยเปลี่ยนเขาจากร้ายให้กลายเป็นดี ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ และกำลังสมอง ทั้งหว่านล้อมให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง เห็นกงจักรเป็นกงจักร เห็นดอกบัวเป็นดอกบัว ตลอดจนพาไปกราบครูบาอาจารย์ผู้เป็นแสงสว่าง เป็นที่พึ่ง อย่างนี้เมื่อพบกันอีกในชาติถัดมาเขาจะเชื่อคุณ ยอมคล้อยตามคุณ ยกให้คุณเป็นผู้นำทางความคิด แม้ว่าเขาจะเป็นคนหัวรั้นมาตลอดชีวิต ไม่เคยยอมฟังใครเลยก็ตาม

๒) หากคุณช่วยเขาเปลี่ยนสถานการณ์ลำบากให้กลายเป็นสบายขึ้น เช่น ช่วยปลดหนี้ให้เขา ไม่ทำให้เขาต้องเสียบ้านเสียรถ หรือช่วยให้เขารอดจากคุก เมื่อพบกันอีกในชาติถัดมาเขาจะอยากช่วยเหลืออำนวยความสะดวกให้กับคุณ และมักมารู้จักกับคุณทันสถานการณ์ลำบากบางประการ เพื่อให้เขาแสดงฝีมือหรือน้ำใจช่วยเหลือ แม้ปกติเขาจะไม่ใช่คนมีน้ำใจเอื้อเฟื้อใครต่อใครเท่าใดนักก็ตาม

ย้ำว่าทั้งสองกรณีหลักๆข้างต้น เป็นไปภายใต้เงื่อนไขที่ว่าผู้ถูกช่วยเหลือเขาซาบซึ้งและสำนึกบุญคุณ ในความเป็นจริงความสำนึกบุญคุณจดจำฝังใจไม่ใช่ธรรมชาติของสัตว์ทั้งหลาย เนื่องจากสัตว์ทั้งหลายติดอยู่กับธรรมชาติดิบๆ คือเห็นแก่ตัว เอาเข้าตัว กะเกณฑ์ให้คนอื่นทำเพื่อตัว ฉะนั้นผลจากการช่วยเหลือและได้รับความช่วยเหลือ จึงไม่จำเป็นต้องมาในรูปแบบของการตอบแทนกันเสมอไป

มองภาพรวมคุณจะเห็นโลกนี้มีคนอยู่สองกลุ่มใหญ่ กลุ่มที่หนึ่งพร้อมจะแบมือขอความช่วยเหลือ กลุ่มที่สองยินดีจะยื่นมือให้ความช่วยเหลือ โดยกลุ่มแบมือขอมีขนาดใหญ่มหึมา ส่วนกลุ่มยื่นมือช่วยมีแค่หยิบมือเดียว แถมกลุ่มยื่นมือช่วยมีสิทธิ์ถูกยักย้ายถ่ายเทมาเป็นกลุ่มแบมือขอได้ง่าย แค่เข็ดหรือเจ็บใจหนักๆสักครั้งสองครั้ง ส่วนกลุ่มแบมือขอก็เป็นไปได้น้อยที่จะถูกยักย้ายถ่ายเทมาเป็นกลุ่มยื่นมือช่วย ต้องเกิดแรงบันดาลใจอย่างใหญ่หลวงกันจริงๆ

กลุ่มแบมือขอจะไม่มีโอกาสเป็นใหญ่ เป็นผู้นำ เพราะเสวยภพของนักพึ่งพา ถ้าได้เพื่อนเป็นพวกยื่นมือช่วย ตนเองก็จะมีศักดิ์ศรีด้อยกว่า และมักเป็นฝ่ายต้องอิจฉาตาร้อนสารพัด ยากจะเขยิบขึ้นมามีความรู้สึกทัดเทียมเพื่อนได้

ส่วนกลุ่มยื่นมือช่วยนั้น เมื่อเสวยภพนักช่วยเหลือหลายชาติหลายสมัยเข้า ก็ชักเสพติดรสสุขอันเกิดแต่มหากรุณาที่มีความเยือกเย็นไพศาลล้ำลึก กระทั่งรักการช่วยเหลือผู้อื่นเป็นชีวิตจิตใจ บารมีเติบกล้ากลายเป็นนิสัยโพธิสัตว์ ซึ่งมีลักษณะเป็นผู้เต็มไปด้วยความไยดีอาทรต่อสรรพสัตว์ อยากรื้อถอนสัตว์ออกจากห้วงสมุทรแห่งความทุกข์ จึงพลอยมีกำลังใจไม่จำกัดดุจห้วงมหาสมุทรแห่งความกรุณา เขาย่อมมีกำเนิดที่ใหญ่และเป็นผู้นำแทบทุกครั้ง เหมือนเกิดมามีหน้าที่ต้องช่วยคนจำนวนมาก แต่ขณะเดียวกันก็ได้รับความช่วยเหลือเป็นการตอบแทนจากทั่วทุกสารทิศเช่นกัน



** IG **

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น