ถาม : เมื่อถึงเบญจเพสหรืออายุ ๒๕ ปี
จะเป็นช่วงสำคัญที่สุดของชีวิตจริงหรือไม่? ที่เขาว่าความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญซึ่งอาจจะเป็นไปในทางดีหรือทางร้ายสุดๆจะเกิดขึ้นในปีนี้เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น?
>
จากหนังสือ เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว เล่มที่ ๑๑
ดังตฤณ:
‘เบญจเพส’ นั้น สะกดให้ถูกต้อง ส.เสือ นะครับหลายคนสะกดเป็น ‘เบญจเพศ’ ซึ่งผิดความหมาย เพราะคำนี้แผลงมาจากบาลีคือ ‘ปญฺจวีส’ โดยปัญจะแปลว่าห้า และวีสแปลว่ายี่สิบ รวมจึงเป็นยี่สิบห้า ถ้าคุณเขียนเป็นเบญจเพศจึงหมายถึง ‘เพศที่ห้า’ ซึ่งไม่รู้จะมุ่งหมายถึงใครดี
เคล็ดลางหรือความเชื่อเกี่ยวกับตัวเลข
บางทีก็สืบหาที่มาที่ไปแน่นอนไม่ได้
แต่บางทีก็มีเค้ามูลประวัติศาสตร์บางอย่างเหมือนใครอยากเชื่อว่าเลข ๑๓ เป็นเลขซวย
ก็ต้องย้อนไปนู่นที่เรื่องราวเกี่ยวกับพระกระยาหารค่ำมื้อสุดท้ายของพระเยซู ก่อนที่พระองค์จะทรงถูกนำไปตรึงกางเขน
ตามคัมภีร์ไบเบิ้ลกล่าวถึงยูดาสผู้ทรยศต่อพระเยซู มานั่งเป็นแขกคนที่ ๑๓ ของโต๊ะเสวย
นับแต่นั้นเลข ๑๓ ก็กลายเป็นเลขซวยไป
เมื่อพระเยซูถูกตรึงกางเขนในวันศุกร์
ก็มีการเอามาบวกกันกับเลข ๑๓ กลายเป็นศุกร์ ๑๓
มหาอัปมงคลตึกฝรั่งบางแห่งจะไม่มีชั้น ๑๓ และหลายคนที่ถือเคล็ดลางเก่งๆจะระมัดระวังตัวเป็นพิเศษทุกวันศุกร์ที่
๑๓
แน่นอนว่าเมื่อคุณทราบที่มาที่ไปเช่นนี้
ก็คงหายกลัวศุกร์ที่ ๑๓เสียได้ เพราะแท้จริงหาใช่จะมีความซวยในตัวเองไม่ ขอเพียงมีเหตุการณ์สำคัญในทางอัปมงคลเกิดขึ้น
คนเราก็พร้อมจะสังเกตความเกี่ยวข้องกับเลขวันเดือนปีทันทีแล้ว
ว่ากันถึงวัย๒๕ นั้น
เท่าที่พอทราบคือคติข้างพราหมณ์จะซอยวัยมนุษย์ออกเป็นต่างๆ คือ ๑-๘นับเป็นกุมาร
๙–๑๖ นับเป็นทารกวัย (วัยรุ่น) ๑๗–๒๕ นับเป็นมาณพ (วัยหนุ่ม)
ชายใดใช้ชีวิตมาถึงปีที่
๒๕ ตามภาษาของคัมภีร์พฤติศาสตร์เรียก ‘ต้องเบญจเพส’
หมายถึงการเข้าถึงฝ่ายโชคและเคราะห์อันแรงกล้าส่วนจะเป็นโชคหรือเป็นเคราะห์ก็ต้องดูว่าลงล็อกใดใน
‘เพส ๕’ อันได้แก่เทวะ มนุษย์เดรัจฉาน เปรต อสุรกาย หากดวงตกเทวะก็ได้ลาภยศ
หากดวงตกมนุษย์ก็ปานกลางไม่ดีไม่ร้ายหากดวงตกเดรัจฉานก็ป่วยหนัก
หากดวงตกเปรตก็ถึงตาย หากดวงตกอสุรกายก็อาจพิกลพิการเป็นต้น ดูจากตรงนี้ใช่แปลว่า
๒๕ หมายถึงซวยหนัก แต่อาจเป็นเฮงระเบิดก็ได้ ทว่าพูดกันทีไรก็จะว่าเบญจเพสคือปีซวยท่าเดียว
สรุปคือเบญจเพสเป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำนายทายทักปีที่
๒๕ เป็นปีแรงทั้งทางบวกทางลบ
และตามหลักการดังกล่าวจะเห็นว่า โชคและเคราะห์ในเบญจเพสหาได้เกี่ยวข้องกับสตรีไม่ แต่ถึงวันนี้เราก็กล่าวเหมาคลุมไปหมดว่าเป็นเรื่องของทั้งหญิงทั้งชายที่ต้องระมัดระวังตัว
ทำบุญสะเดาะเคราะห์เป็นพิเศษผมเห็นผู้หญิงบางคนวิ่งรอกทำบุญจนหน้าซีดทีเดียว เพราะดูเหมือนเรื่องแย่ๆจะประดังประเดเข้ามาในปีเบญจเพสเอาจริงๆ
ว่าตามหลักกรรมวิบากความจริงก็คือทุกปีมีเรื่องไม่ดีได้ตลอด
แล้วแต่ว่าใครทำมาอย่างไร อดีตกรรมวางแผนให้เราได้รับผลตามล็อกเวลาไว้เฉพาะตน นั่นหมายความว่ามนุษย์ทุกคนมีสิทธิ์ได้ลาภทุกปีแล้วก็สุ่มเสี่ยงกับการตายได้ไม่เว้นวัน
นับแต่จันทร์ถึงอาทิตย์ ใครหยุดราชการมัจจุราชท่านไม่หยุดด้วย
ใครเชื่อว่ามีสิทธิ์ตายเฉพาะเบญจเพสมัจจุราชท่านไม่เชื่อด้วย
ว่าแล้วก็ขอให้เชื่อเถิดครับว่าไม่มีเลขล็อกสากลให้ต้องพะวงหรอก
เบญจเพสเป็นเพียงการช่วยกันลือไม่มีที่มาที่ไปแบบพุทธเอาเลย สิ่งที่คุณควรพะวงไม่ใช่ปีเบญจเพสควรสะเดาะเคราะห์อย่างไรแต่ควรสำรวจตรวจตราดีๆว่าทุกวันนี้ใช้ชีวิตบนวิถีบุญน้อยไปหรือเปล่าต่างหาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น