วันพุธที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ของหายจากความประมาทหรือกรรมเก่า (ดังตฤณ)

ถาม : การวางของมีค่าเล็กน้อยไว้ในที่สาธารณะอย่างไม่ระวัง เช่น สมุดเล็คเชอร์และกระดาษปากกา รู้กันว่าเป็นการจองโต๊ะ ส่วนใหญ่ทำกันตลอดสี่ปีที่เรียนโดยไม่เกิดการสูญหาย แต่สำหรับบางคนก็หายได้โดยเฉพาะพวกที่มีแฟ้มสวยๆหรือปากกามีราคานิดหนึ่ง การสูญหายนี้เกิดจากความประมาทในปัจจุบัน หรือว่าเป็นวิบากของกรรมข้ออทินนาในอดีตชาติครับ?

> จากหนังสือ เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว เล่มที่ ๑๑

ดังตฤณ: 
เรื่องของหายนั้นจำง่ายๆครับ ถ้าหากเป็นของที่มีความหมาย หรือมีผลกระทบทางใจ หรือมีอิทธิพลสำคัญกับการดำรงชีวิต อันนั้นมักเกิดจากการบังคับของกรรมเก่าที่เคยทำไว้ก่อน ระดับที่มีการล็อคเวลาไว้แล้วว่าจะต้องเกิดขึ้นช่วงนั้นช่วงนี้อย่างแน่นอน เปลี่ยนแปลงได้ยาก แต่ละคนต้องมีสมบัติสำคัญต่อชีวิตหรือมีค่าทางใจอย่างสูง และสมบัตินั้นแหละที่จะเป็นเป้าให้วิบากกรรมเล่นงานเรา คือยึดมันไปจากเราด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง

อย่างสมุดเล็คเชอร์นั้นใครว่าไม่สำคัญ? นักศึกษาส่วนใหญ่มองว่าคนอื่นๆคงมองสมุดเล็คเชอร์ของตนเป็นแค่ปึกกระดาษที่ ‘ไม่มีความหมาย’ และ ‘ไม่สำคัญ’ จะวางไว้ที่ไหนไม่เป็นไร ใช้จองโต๊ะกินข้าวก็ได้โต๊ะนั่งอ่านหนังสือก็ได้แล้วตัวเองจะไปไกลๆนานแค่ไหน กลับมามันก็คงยังอยู่ที่เดิม ลืมไปว่ามันมีความหมายและมีความสำคัญกับตนเองชนิดคอขาดบาดตายเพียงไร หากสูญหายไปเฉยๆ

แต่ก็นั่นแหละ คงไม่ค่อยมีใครทำกรรมแบบนึกสนุก เห็นสมุดเล็คเชอร์ใครวางไม่ได้เป็นต้องนึกสนุกอยากกลั่นแกล้ง หนีบเอาไปทิ้งดื้อๆ โดยไม่มีเหตุบาดหมาง ไม่แม้รู้จักหน้าค่าตาเจ้าของ เพราะคนที่เคยก่อกรรมลักขโมยประเภทนี้แหละ จึงมีสิทธิ์โดนเล่นงานคืนจากพวกขี้แกล้งประเภทเดียวกัน

ลองตรองดูด้วยหลักสถิติก็จะพบครับว่าวิธีที่ของจะหายนั้น อาจไม่ง่ายอย่างสามัญสำนึก ขอยกตัวอย่างของใหญ่เพื่อให้เห็นชัด เช่น รถยนต์ซึ่งรู้กันว่าเป็นเป้าโจรกรรมขนาดเขื่อง ต่อให้ติดตั้งระบบกันขโมยสองชั้นสามชั้น ถ้าโจรมันจะเอาซะอย่าง เจ้าของรถก็เดินกลับมาพบว่าพาหนะคู่ใจของตนอันตรธานไปได้เสมอ

แต่รถคันใหญ่ๆนี้แหละ ถ้าคุณตัวคนเดียวพามันเข้าปั๊มน้ำมันแวะจอดหน้าสุขา แล้วเปิดประตูวิ่งหน้าตื่นเข้าส้วมโดยไม่มีการล็อค ไม่มีแม้การดับเครื่อง ถือว่าเปิดทางหรือนับว่าอำนวยความสะดวกให้กับโจรทุกอย่าง ราวกับพระเวสสันดรจอดรถก็ไม่ปาน ทว่าร้อยทั้งร้อยออกจากส้วมมาก็พบพาหนะคู่ใจของตนจอดอยู่ที่เดิมนั่นแหละ ไม่ได้มีโจรที่ไหนมาเอาไปแต่อย่างใด

สำหรับคนทั่วไป เมื่อทราบว่าคุณจอดรถหน้าสุขาแบบติดเครื่องพร้อมให้มือดีมารับรางวัลใหญ่ ก็ต้องว่าโอ้ย! ทำไปได้ยังไง เดี๋ยวโดนขโมย คุณอาจตอบหน้าตาเฉยว่าไม่อยากเปลืองน้ำมันเพิ่มตอนสตาร์ทเครื่อง แล้วจอดไว้กี่ทีก็ไม่เห็นหาย เลยจอดทิ้งไว้โดยไม่ป้องกันมาเรื่อยด้วยความสบายอกสบายใจ

ไม่ว่าเหตุผลวิธีคิดของใครจะดีกว่ากัน ความจริงก็คือ…

๑) คุณจอดรถไว้ด้วยความประมาท ไม่ระวังให้ดีและนี่เป็นสิ่งที่ไม่เกิดขึ้นในคนทั่วไปคนทั่วไปจะเห็นว่าของใหญ่ราคาแพงต้องระวัง แม้ไปเข้าห้องน้ำเดี๋ยวเดียวก็ต้องล็อคต่อให้ไม่มีใครป้วนเปี้ยนละแวกนั้นก็ตาม อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณทำครั้งเดียวแบบฉุกเฉินหน้าสิ่วหน้าขวาน โอกาสที่รถจะหายก็น้อยมาก แต่ยิ่งประมาทบ่อยเท่าใด โอกาสรถหายก็จะยิ่งมากขึ้นทุกที นี่เข้ากับหลักการที่ว่าความประมาทคือช่องทางหายนะประมาทน้อยช่องก็แคบ ประมาทมากช่องก็ถ่างออกกว้างขึ้นเรื่อยๆ

๒) หากรถจะหาย แถวนั้นต้องมีใครคนหนึ่งที่พร้อมจะขโมยรถอยู่ และใครคนนั้นก็ต้องใจกล้าพอที่จะลงมือขโมยโดยไม่ต้องไตร่ตรอง ชนิดเห็นปุ๊บลงมือปั๊บโดยไม่กลัวใครเห็น กับทั้งไม่ใช่คนที่จะมีใครในปั๊มชี้ตัวได้ในภายหลัง องค์ประกอบอันเกิดขึ้นยากข้อนี้แหละ ที่จะทำให้ความประมาทของคุณกลายเป็นความสูญเสียขึ้นมาได้จริงๆ

ลองคิดดูนะครับ ปกติคนธรรมดาที่ไม่ใช่ทรชน เมื่อเดินผ่านห้องน้ำหลังปั๊มจะไม่ตั้งข้อสังเกตใดๆเกี่ยวกับรถที่จอดอยู่เลย เครื่องเดินอยู่หรือเปล่า ประตูลงล็อคไว้ไหมมีใครนั่งข้างในหรือว่างจากคน

แต่หากเป็นแก๊งลักรถ แน่นอนต้องมีสายตาช่างสังเกตรายละเอียดต่างๆอยู่แล้วมันเป็นอาชีพของเขา เขาจะเห็นหรือได้ยินอย่างรวดเร็วว่ารถคุณไม่ได้ดับเครื่อง และเขาก็จะจ้องสำรวจทันทีว่ามีคนนั่งรออยู่ข้างในหรือเปล่า เพราะรถบางคันแม้เบาะหน้าว่าง แต่ก็อาจมีคนนอนงีบอยู่เบาะหลัง

ชั่วเวลาให้ตัดสินใจเพียงสั้น เขาต้องใจกล้าหน้าด้าน อาจจะเพราะเคยผ่านประสบการณ์ขโมยรถมาแล้ว และรู้ลู่ทางดีว่าจะเอารถไปทางใด เก็บไว้ไหน คุณสมบัติครบถ้วนอย่างนี้แล้วนั่นแหละ จึงค่อยเกิดการลงมือขโมยแบบกะทันหันโดยไม่มีการวางแผนหรือรับออเดอร์ไว้ล่วงหน้า

คราวนี้วกกลับมาหาคำถามเดิม คือการสูญหายครั้งนี้เกิดจากความประมาทอันเป็นปัจจุบันกรรม หรือว่าเกิดจากอดีตกรรมที่ทำไว้เมื่อปางก่อนๆ? คำตอบคือต้องอาศัยกรรมทั้งสองชนิดมาบวกกันนั่นแหละครับ หากคุณไม่ประมาท ล็อครถอย่างดีแค่เข้าห้องน้ำในระยะเวลาสั้นๆ คงยากมากที่จะหาเซียนที่ไหนมาเอาไปได้ และหากคุณไม่เคยทำกรรมไว้ก่อน ต่อให้ทิ้งรถไว้ทั้งเดินเครื่องร้อยครั้งพันหน ก็ไม่มีทางไปเจอโจรตาเหยี่ยวที่พร้อมจะลงมือแบบปุบปับฉับพลันเลย

สรุปคือหากกล่าวถึงกรรมเก่าที่ส่งให้ไปเจอมือดีกล้าฉกชิงของที่วางแบไว้ในที่เปิดเผย ก็คือการที่คุณเคยเห็นใครชะล่าใจ วางสมบัติทิ้งไว้แล้วหยิบทันทีแล้วเมื่อกรรมถึงเวลาเผล็ดผล ก็จะดลให้คุณชะล่า แล้วโดนแบบที่เคยทำไว้แบบเดียวกันบ้างนั่นเอง


นโยบายที่ดีในการใช้ชีวิตให้ปลอดจากเรื่องพรรค์นี้ก็คืออย่าคิดคด อย่าเล่นตลกร้ายแกล้งให้ใครเดือดร้อนเล่น อย่าละโมบอยากได้สิ่งที่ไม่ใช่ของตน นอกจากนั้นแล้วก็ต้องระแวดระวัง ไม่ตั้งตนอยู่ในความประมาทด้วยประการใดๆครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น