ถาม : รู้สึกว่าตัวเองไม่ปกตินัก เวลามีคนมาชอบ
บอกว่ารักหรือพูดขอแต่งงานด้วย จะรู้สึกรังเกียจ อาจเพราะได้ยินบ่อยมาก
คบกับใครก็พูดอย่างนี้หมด บางคนแค่ใกล้กันหน่อยเดียวก็เอาแล้ว
แทนที่ดิฉันจะดีใจกลับหงุดหงิดรำคาญ
แม้คบกับบางคนอย่างแฟนแต่ก็ไม่อยากยอมรับว่าเป็นแฟนเลย
ดูใจตัวเองแล้วเหมือนอยากอยู่คนเดียว กลัวการใช้ชีวิตคู่ที่ล้มเหลว
เพราะทราบดีว่ารักใครไม่ได้นาน แต่งเดี๋ยวเดียวต้องหย่าแน่ๆ
แต่พอนึกถึงตอนอายุมากก็กลัวเป็นยายแก่ที่โดดเดี่ยวและอยู่อย่างเงียบเหงา
อยากทราบว่าทำอย่างไรจะรู้ใจตัวเอง
หรือสั่งให้ตัวเองตัดสินใจเลือกได้อย่างมีเหตุผล
และไม่กลับไปกลับมาระหว่างอยากมีกับไม่อยากมีคู่ครองคะ?
>
จากหนังสือ เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว เล่มที่ ๑๒
ดังตฤณ:
ผมเห็นว่าปัญหานี้น่าจะช่วยให้ผู้หญิงหลายคนรู้สึกดีขึ้น
เพราะปกติมักถามกันว่าทำอย่างไรจะมีคนมาชอบ มาจริงจัง มาขอแต่งงาน
ความทุกข์ในแบบนั้นทำให้รู้สึกโหยหาและนึกริษยาผู้หญิงที่มีโอกาสดีกว่า
แต่ความจริงก็คือถ้าโอกาสดีๆมีบ่อยเกินจำเป็น ก็อาจกลับด้าน เป็นทุกข์ใหญ่ไปอีกแบบ
ลักษณะของผู้หญิงที่มีผู้ชายจำนวนมากมาติดพันและขอแต่งงาน
จะคล้ายกันคือสวย เจ้าเสน่ห์ เก่งในทางใดทางหนึ่ง เชื่อมั่นในตัวเองสูง
แล้วก็เบื่อง่าย จะนับเป็นของธรรมดาก็ได้ แต่เป็น ‘ธรรมดา’
ที่ทำให้ชีวิต ‘ผิดธรรมดา’ ไปกว่าคนอื่นเขา
ชีวิตที่ผิดธรรมดามักทำให้รู้สึกว่าตัวเองผิดปกติ หรือถึงขั้นจิตมีปัญหา
อันที่จริงผู้หญิงจะมีความขัดแย้งกับตัวเองเมื่อต้องเลือกคู่อยู่แล้ว
กล่าวคือสิ่งที่ต้องการเป็นอันดับหนึ่งคือความอบอุ่นมั่นคงของฝ่ายชาย
ข้อบกพร่องหยุมหยิมอื่นๆของเขาถือว่าเป็นรอง ทว่าใจจริงๆผู้หญิงมักให้ความสำคัญกับข้อบกพร่องหยุมหยิมไม่แพ้เรื่องความอบอุ่นมั่นคง
และจะคิดมากไม่เลิกตราบเท่าที่ยังต้องเห็นข้อบกพร่องต่างๆของคู่ตน
ลองดูเถอะครับ ความลังเลของผู้หญิงนั้น
สืบไปสืบมาจะเห็นว่าไม่ได้เกิดขึ้นจากเรื่องใหญ่
แต่มักมาจากเรื่องเล็กหลายๆเรื่องรวมกัน
ยกตัวอย่างเช่นฝ่ายชายอาจมีตำแหน่งหน้าที่การงานมั่นคง การเงินไร้ที่ติ
ชื่อเสียงเกียรติยศและความซื่อสัตย์หายห่วง แต่หล่อน้อยไปหน่อย
เสียความรู้สึกทุกครั้งตอนเดินคู่กันไปไหนต่อไหน หรือไม่ก็กลิ่นปากเหลือร้าย
เสียอารมณ์ตอนจูบกันเป็นที่สุด ต้องเบือนหน้าหนีตลอด ฯลฯ
ยิ่งถ้าเป็นผู้หญิงที่มีดี
มีผู้ชายมาเป็นตัวเลือกเยอะ
ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะยิ่งทวีความลังเลได้มากขึ้นเพียงใด ความลังเลจะไม่หายไปตราบเท่าที่คุณยังไม่ถูกใจใครเต็มร้อย
ถึงตรงนี้ขอสรุปในขั้นต้นก่อนว่าถ้าคุณเจอใครที่ถูกใจเต็มร้อยมาขอแต่งงาน
คุณคงไม่หงุดหงิดรำคาญ ยิ่งบ่อยยิ่งดีด้วยซ้ำ แต่ถ้าต้องลำบากใจกับการบ่ายเบี่ยง
หรือการต้องคิดมากว่าจะเอาดีหรือไม่เอาดีต่างหาก นั่นแหละคุณจะเบื่อหน่าย
รู้สึกหงุดหงิด แล้วพัฒนาเป็นความไม่อยากเอาใครเลย
อย่างดีก็อาจเลือกคบใครสักคนที่เอาใจเก่งที่สุด
แต่ใจลึกๆอยากรอคนที่ดีกว่าไปเรื่อยๆ มีสิทธิ์เลือกใหม่โดยไม่ต้องรู้สึกผิดมากกว่า
ฐานของความรู้สึกที่ไม่ถูกใจเต็มร้อย อยากรอคนดีกว่าไปเรื่อยๆนี้แหละ
อาจก่อให้เกิดพฤติกรรมที่แม้แต่คุณก็ต้องงงตัวเอง เช่น
เขาผิดนิดเดียวอยากอาละวาดใส่
หรือแม้กระทั่งไม่ผิดเลยก็จะยัดเยียดความผิดราวกับเป็นตำรวจจับแพะ ใจหนึ่งอยากผลักเขาออกไปจากชีวิต
แต่อีกใจก็อาจอยากผูกไว้ไม่ให้ไปไหน โรคขัดแย้งกับหัวใจตัวเองทำนองนี้น่าทรมาน
แต่เท่าที่เห็นมาก็เป็นกันเยอะเลยครับ แม้แต่งงานแล้ว
เป็นฝั่งเป็นฝาแล้วก็ยังไม่วายถูกโรคนี้รุมเร้า
ทำไมถึงยังอยากผูกไว้
ทั้งที่ก็ไม่แน่ใจเต็มร้อยว่าชอบจริง? คำตอบง่ายๆคือคุณไม่ทราบว่าจะเจอใครดีกว่าเขาไหม!
น่าปวดหัวหยอกเมื่อไหร่ ถ้าเลือกตอนนี้ก็เสียอิสรภาพตอนนี้
แต่ถ้าไม่ยอมเสียอิสรภาพตอนนี้ก็บางทีอาจต้องเสียโอกาสมีพันธะตลอดไป
ระหว่างเสียดายความเป็นอิสระในปัจจุบัน กับกลัวความว้าเหว่ในอนาคต
ไม่มีอะไรน่าพิสมัยเลยสักอย่าง
เท่าที่เห็นนะครับ ผู้หญิงที่มีโอกาสเลือกมากมักไม่ได้อย่างใจ
ไม่เจอคนสมบูรณ์แบบตามอุดมคติของตน เจอแต่ ‘ดีที่สุดที่เข้ามาให้เลือก’
อาจเข้าขั้นแสนดี แต่ก็เต็มไปด้วยข้อด้อย
ยิ่งนานคุณจะยิ่งไม่พอใจกับข้อด้อยต่างๆของเขา อาจถึงขั้นรังเกียจ ไม่อยากเข้าใกล้
แต่ความแสนดีของเขาจะทำให้คุณรู้สึกผิด ขณะเดียวกันก็ต้องทรมานใจกับการฝืนทน
หรือพยายามหาเรื่องให้เขาเป็นฝ่ายผิดทั้งรู้ว่าเขาไม่ผิด
ในที่สุดก็ต้องแปรเป็นความรู้สึกเกลียดตัวเองเข้าจนได้
ทางออกของปัญหาแบบนี้ ไม่ใช่การถามว่า
‘ทำอย่างไรจะรู้ใจตัวเอง’ หรือ ‘เลือกอย่างไรให้ถูกตัว’ แต่ควรถามว่า ‘ทำอย่างไรจะยอมรับข้อบกพร่องของคนที่คุณคิดว่าใช่ที่สุด’
หากคุณมีดี และคิดว่าตัวเองสมบูรณ์แบบ
อันนี้คงยากมากที่จะหาอุบายหรือวิธีคิดใดๆมาช่วยให้ยอมรับข้อบกพร่องของคนอื่น แต่หากคุณกล้ามอง
กล้ายอมรับข้อบกพร่องต่างๆของตนเองทีละนิดทีละหน่อย ใจคุณจะคลายจากอาการยึดมั่นถือมั่นความสมบูรณ์แบบ
และค่อยๆยอมรับข้อบกพร่องของคนอื่นไปได้เอง
ถ้าทำอะไรสมบูรณ์แบบไม่ได้
ก็อย่าหวังว่าจะมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ
เพราะความหวังของคุณนั่นแหละที่ไม่สมบูรณ์แบบในตัวเองตั้งแต่เริ่ม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น