วันพุธที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ทำไมจึงรังเกียจเรื่องทางเพศทั้งที่ไม่เคยมีปัญหา (ดังตฤณ)

ถาม : ถ้าหากเกิดมาไม่เคยมีปมปัญหาทางเพศในวัยเด็ก แต่เห็นเพศสัมพันธ์เป็นของต่ำ ไม่เคยรู้สึกยินดีกับชายคนไหนเลยแม้เป็นคนรัก อย่างนี้ถือเป็นความผิดปกติอันเกิดจากการทำกรรมแบบไหนหรือเปล่าคะ?

> จากหนังสือ เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว เล่มที่ ๑๑

ดังตฤณ: 
เรื่องเพศเป็นเรื่องติดตัว ทุกคนถือกำเนิดด้วยเพศ และมีอวัยวะเพศเป็นเครื่องฟ้องว่ายังไม่หลุดพ้นจากเรื่องเพศมาแต่เกิด หากมองทั้งตัวมนุษย์ที่ปราศจากอาภรณ์ห่อหุ้ม เห็นโดยความเป็นนิมิตหนึ่งที่ยังไม่ว่างเปล่า คุณจะรู้สึกถึงความเป็นของเกลือกกลั้วอยู่กับความยุ่ง แยกเป็นต่างหากได้ยาก โดยเฉพาะจุดเชื่อมต่อทางเพศอันเป็นของต่ำนั้น เป็นแรงดึงดูดสำคัญให้เพศตรงข้ามเข้ามาหาหรือเข้าไปหาเพศตรงข้าม เป็นเหตุให้ติดอยู่ ค้างคาอยู่ หลุดพ้นจากความเป็นเช่นนี้ลำบาก ต้องทวนกระแสกันจริงๆถึงจะเอาตัวรอดสำเร็จ

กฎของจักรวาลข้อแรกๆมีอยู่ว่า ‘ของต่ำเป็นแหล่งกำเนิดแรงดึงดูด’ หมายความว่าถ้าอยู่เฉยๆทุกสิ่งจะไหลลงสู่ที่ต่ำ ไม่ว่าวัตถุหรือจิตใจ จะไม่มีสิ่งใดขึ้นสูงได้เองโดยปราศจากการส่งกำลังทวนกระแส

แม้พระพุทธเจ้าท่านก็ตรัสครับว่าจิตนั้นมีธรรมชาติไหลลงต่ำ หากไม่อาศัยทาน ศีล ภาวนาแล้วล่ะก็ บุคคลไม่อาจรอดพ้นจากอบายภูมิได้เลย ไม่เชื่อคุณลองเลิกทำบุญ ทอดหุ่ย ปล่อยแขนปล่อยขาหมดอาลัยตายอยาก ดูซิว่าใจมันจะคิดเรื่องดีหรือเรื่องร้าย จะสดใสเบิกบานหรือหดหู่เศร้าหมอง

เมื่อมองแบบพุทธว่าเพศเป็นสิ่งดึงดูดจากเบื้องล่าง การมีจิตใจเป็นอิสระจากเรื่องเพศจึงนับว่าดี มีความใกล้ต่อการหลุดพ้นจากเครื่องยึดติดให้เกิดด้วยเครื่องเพศ

การไม่มีความรู้สึกทางเพศ หรือถึงรู้สึกก็รู้สึกว่า ‘เป็นเรื่องต่ำ’ นั้น ผมขอแยกออกเป็น ๒ ประเภทหลักๆคือ

๑) ผิดปกติ หมายถึงมีประสบการณ์เลวร้ายทางเพศ กลายเป็นปมฝังใจ เช่น ถูกลวนลามจากคนในบ้านตั้งแต่เด็ก หรือถูกข่มขืนในวัยสาว พานให้รังเกียจเรื่องเพศสุดใจ นึกถึงแล้วขยะแขยงเกินกว่าจะยอมเอาตัวเข้าไปหา

อย่างไรก็ตาม ความผิดปกติเป็นสิ่งที่ทำให้กลับคืนสู่ภาวะปกติได้ หากพบกับชายอันเป็นที่รักอย่างแท้จริง ค่อยๆใกล้ชิดเห็นใจกัน จนเกิดความรู้สึกถึงกระแสสะอาดในรัก รู้สึกอบอุ่นใจ เหมือนได้น้ำดีใหม่ๆท่วมทับชะล้างน้ำเสียเก่าๆ

เมื่อกำแพงทางอารมณ์พังทลาย หลงลืมประสบการณ์เลวร้ายด้วยความรักอันอ่อนโยน ธรรมชาติทางเพศก็กลับมาเอง เพราะบอกแล้วว่าคนเรามีเพศเป็นของติดตัว ไม่ไปไหน หากปราศจากสิ่งกีดขวาง อย่างไรก็ตั้งอยู่ตรงนั้นเอง

ความจริงความผิดปกติทางอารมณ์เพศของผู้หญิงมีสาเหตุได้ร้อยเล่มเกวียน ฝรั่งเขียนตำราได้ไม่รู้กี่พันเล่ม เช่น ผู้หญิงบางคนมีความคิดแบบเดียวกับผู้ชาย คืออยากเป็นผู้นำ หรืออยากทัดเทียม ไม่อยากตกอยู่ใต้อำนาจของผู้ชาย เมื่อใดเป็นเบี้ยล่างก็รู้สึกแย่กับภาวะของตนเอง พานให้อยากไปมีอะไรกับเพศเดียวกันที่อ่อนแอกว่าตน อะไรทำนองนั้น

๒) เหนือปกติ หมายถึงมีประสบการณ์แสนดีทางจิต กลายเป็นความผูกพันกับการหลุดพ้น เช่น ปฏิบัติสมาธิภาวนาจนลิ้มรสมหาปีติสุขในฌานสมาบัติ หรือเกิดความหยั่งทราบชัดว่ากายใจนี้ไม่เที่ยง ไม่ใช่ตัวตน จึงรังเกียจเรื่องเพศที่เป็นสุขชั้นต่ำ นึกถึงแล้วระอิดระอาว่าเป็นของไม่น่าชอบใจ เหมือนไม่คุ้มกับการเอาทะเลทิพย์ไปแลกกับน้ำหวานรสเฝื่อนเจือกลิ่นเหม็นหืนแก้วเดียว

อย่างไรก็ตาม ความเหนือปกติอาจถูกดูดคืนเข้าสู่ภาคพื้นเบื้องต่ำได้ หากร้างราจากการบำเพ็ญเพียรภาวนา กระทั่งสภาพจิตตกกลับสู่สามัญ หลงลืมความสุขยิ่งใหญ่ในฌาน หรือกลับมายึดมั่นถือมั่นอีกว่ากายใจนี้เที่ยง กายใจนี้เป็นของฉัน

เมื่อแรงฉุดขึ้นสูงหายไป ธรรมชาติทางเพศก็กลับมาทวงอำนาจคืน ถ้าอำนาจทางเพศน้อย ป่านนี้หลุดพ้นไปนิพพานกันไม่เหลือแล้วครับ

เอาเฉพาะกรณีของคุณ เมื่อบอกว่าไม่มีปมปัญหาทางเพศ อยู่ๆรังเกียจเรื่องทางเพศเองมาแต่ไหนแต่ไร แม้กับชายคนรักก็ไม่รู้สึกยินดี เช่นนี้ก็น่าสันนิษฐานว่าเป็นเรื่อง ‘เหนือปกติ’ ไม่ใช่ ‘ผิดปกติ’ กล่าวคืออดีตชาติใกล้ๆนี้ น่าจะบำเพ็ญเพียรภาวนาได้ผลมาพอสมควร และอาจเป็นผู้ตั้งความปรารถนาที่จะหลุดพ้นอย่างแรงกล้าตั้งแต่เป็นนางฟ้านางสวรรค์ อะไรทำนองนั้น อำนาจของการภาวนาหรือความปรารถนาฝ่ายสูง จึงกดความรู้สึกทางเพศไว้ ไม่เห็นเป็นเรื่องน่ายินดีเหมือนคนอื่นๆ


เพื่อจะแน่ใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณเป็นเรื่อง ‘เหนือปกติ’ ต้องดูด้วยว่าคุณสบายเนื้อสบายตัว ไม่เป็นทุกข์กับการห่างจากเพศสัมพันธ์ หากลองถือศีลแปดแล้วยิ่งสงบสุข ปฏิบัติธรรมภาวนาแล้วยิ่งมีจิตประณีตลึกซึ้ง ใฝ่หาความพ้นไปจากการเกิดตายด้วยเพศอย่างเด็ดขาด อันนี้ส่องสะท้อนได้ชัด เป็นเครื่องยืนยันที่ไม่น่าสงสัยอะไรอีกแล้ว คุณมาเพื่อทำชาตินี้ให้เป็นที่สุด เกิดครั้งสุดท้ายเพื่อรู้ว่าไม่มีใครเกิดมาอย่างแน่นอน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น