ถาม : ฝันถึงเด็กคนหนึ่งเป็นประจำ ในฝันจะเรียกแม่ๆ บอกว่ารักแม่
อยากอยู่กับแม่ ตัวเองก็อยากได้เด็กไว้เป็นลูก
แต่ในความจริงมีลูกหลายคนแล้วและไม่สามารถมีลูกได้อีก
แม้เคยทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปหลายต่อหลายครั้ง อธิษฐานขอให้เขาไปเกิดใหม่เสียที
ก็ยังคงฝันอยู่เหมือนเดิม อยากคิดว่าดิฉันฝันเลอะเทอะไปเอง
แต่การฝันซ้ำต่อเนื่องนับปีโดยไม่มีสาเหตุก็ยากจะปลงใจเชื่อเช่นนั้น
อยากทราบว่าทำอย่างไรจึงจะสบายใจหรือตัดเขาออกไปจากความฝันได้คะ?
>
จากหนังสือ เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว เล่มที่ ๑๐
ดังตฤณ:
โดยส่วนตัวผมสนับสนุนการอยู่อย่างคนธรรมดา
เป็นสามัญมนุษย์ที่ไม่พยายามเอาตัวไปข้องเกี่ยวกับเรื่องมองไม่เห็นและพิสูจน์ยาก
เนื่องจากเป็นทางมาของความงมงาย
ตลอดจนตกอยู่ภายใต้การปิดบังของอวิชชาหนาทึบขึ้นเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม
ผมรับทราบครับว่ายังมีคนในโลกอีกมาก ที่เจอประสบการณ์ทำนองเดียวกับคุณ
ทั้งที่ไม่เคยพยายามเอาตัวเข้าไปข้องเกี่ยวด้วยเลย ฉะนั้นจึงเอาคำแนะนำที่ปรากฏผลคลี่คลายไปในทางดีแล้ว
มารวมไว้ใน ‘เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว’ ด้วย โดยเจตนาให้เกิดความเข้าใจ
และปรารถนาผลสุดท้ายเป็นอิสรภาพ ไม่ใช่ความยึดติด
หลายคนเมื่อเจริญวัยขึ้นจนเป็นพ่อเป็นแม่คนได้
จะมีภาวะดึงดูดอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นที่รับรู้ได้ในโลกวิญญาณ โดยเฉพาะพวกที่รู้ความ
ตลอดจนจำได้ถึงสายสัมพันธ์เก่า ว่าเคยเป็นลูก
และเคยพอใจกับการได้เป็นลูกของใครมาบ้าง
วิญญาณเด็กที่ติดตามผู้เคยเป็นพ่อแม่มีจริง
และเกิดขึ้นกับหลายต่อหลายคน โดยมากไม่สามารถติดต่อกับพ่อแม่ด้วยวิธีใดๆ
แต่อีกส่วนหนึ่งมีบุญบางอย่างส่งให้มาปรากฏในห้วงมโนทวารของพ่อแม่ยามหลับฝันได้
ทั้งนี้เพราะขณะหลับฝัน จิตมนุษย์ผูกพันกับระบบประสาทหยาบน้อยกว่าปกติ
และหันเหลี่ยมหันมุมไปสัมผัสกับโลกวิญญาณได้ง่ายขึ้น
ถูกวิญญาณภายนอกเหนี่ยวนำให้รู้เห็นอะไรเกินขอบเขตประสาทหยาบได้ถนัดกว่ายามตื่นมาก
การฝันเพียงครั้งสองครั้งไม่ใช่เรื่องน่าเชื่อ
และไม่ควรยึดถืออย่างยิ่ง ขอให้มันเป็นแค่ลมแล้งเหลวไหลในหัวชั่วข้ามคืน
ต่อเมื่อฝันซ้ำๆจนแน่ใจอยู่กับตัวว่ามีบางสิ่งเกิดขึ้นจริง
คุณสัมผัสถึงเจตจำนงเดิมๆที่มาจากภายนอกได้จริง
อันนั้นค่อยรับฟังคำที่ผมจะแนะนำข้างล่างนี้ต่อ
ขอให้ทราบว่าวิญญาณเด็กที่อยากเป็นลูกใครนั้น
ส่วนใหญ่จะปักใจมั่นและรับรู้อะไรแคบๆแค่ว่าต้องเป็นลูกของพ่อหรือแม่คนนี้ให้ได้
อาจด้วยเหตุเพราะตายด้วยความฝังใจแบบนั้น
กับทั้งร่วมบุญกันมาพอจะรักษาความตั้งใจไว้อย่างคงเส้นคงวา
ตามธรรมชาติของจิตและกรรมแบบนี้นะครับ
ความยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นลูกคุณ คือสภาพทั้งหมดของความเป็นเขา
ถ้าตัดความยึดมั่นหรือลืมความจำเดิมๆได้
เขาก็เปลี่ยนภพจากความเป็นเช่นนั้นได้เช่นกัน
ประเด็นคือคุณต้องหาทางเชื่อมโยงกับเขา
สื่อสารกับเขาในขณะที่คุณตื่น เพราะตอนฝันคุณจะพูดกับเขาได้แค่สั้นๆ เช่น
ถ้ามุ่งหวังให้เขาจากไปสู่ภพอื่น ก็อาจกล่าวเพียง ‘ไปเถอะ อย่ามาอยู่กับแม่เลย’
ซึ่งเท่านี้ไม่พอให้จิตของเขาคลายความยึดมั่นลงได้หรอก
คุณจำเป็นต้องอาศัยสื่อกลางที่เชื่อมคุณกับเขา
อย่างแรกคือชื่อ เมื่อเขาเชื่อว่าคุณเป็นแม่ คุณก็ต้องเป็นคนตั้งชื่อเรียกเขาเอง
(เว้นแต่เขาเรียกตัวเองซ้ำๆว่าชื่ออะไร)
ให้เลือกเอาชื่อเล่นสั้นๆที่คุณรู้สึกว่าใช่ตัวเขา เป็นตัวเขา
เรียกเขาแล้วคุณเองรู้สึกเอ็นดู อย่าคิดแบบส่งๆว่าเป็นน้องแดง น้องดำ ให้รอจังหวะที่ใจคุณอ่อนโยนที่สุด
เกิดความเอ็นดูเขาที่สุด ช่วงนั้นคุณมักคิดออกได้ง่ายที่สุด
จากนั้นให้หาตัวเชื่อมที่เป็นรูปธรรม
เช่น ของเล่น ให้หาตุ๊กตาน่ารักๆสักตัว
ที่คุณเห็นแล้วรู้สึกว่าอยากให้เขาเป็นของเล่น เอามาตั้งไว้ที่มุมหนึ่ง
ซึ่งกำหนดเป็นเขตเฉพาะว่ามีอะไรก็จะเอามาให้เขาตรงนี้
คุณอาจต้องแอบซ่อนนิดหนึ่งหากลูกคนอื่นยังอยู่ในวัยที่เห็นตุ๊กตาแล้วอยากเล่นหรืออยากได้เป็นเจ้าของ
เพราะวิญญาณเด็กก็อาจหวงแหนของเล่นของตนได้เท่ากับหรือยิ่งกว่าเด็กธรรมดา
การแสดงความผูกพันข้ามมิติที่รับรู้ได้ง่ายอีกอย่าง
เห็นจะได้แก่การให้นม ให้ขนม ถ้าเป็นน้ำนมของคุณเองจะยิ่งเป็นสื่อเชื่อมจิตได้แรง
แต่ฟังจากการเล่า คุณน่าจะขาดนมแล้ว ซึ่งก็ไม่เป็นไร
จะใช้นมผงธรรมดาก็ได้เหมือนกัน การให้ควรให้เป็นเวลาที่แน่นอน เช่น
ช่วงเช้าของทุกวัน ถ้าให้ครั้งเดียวก็ครั้งเดียวตลอด ถ้าให้สองครั้งก็สองครั้งตลอด
ทุกครั้งที่ให้นมหรือขนมกับเขา
ให้แยกไปสวดมนต์หน้าพระปฏิมา (ซึ่งควรอยู่คนละที่ที่ห่างออกไป) เป็นบทสวดอิติปิโสธรรมดานี่แหละ
เพราะเป็นการสรรเสริญพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ มีผลเป็นกระแสเมตตาเยือกเย็น
ปลุกสำนึกให้วิญญาณยึดที่พึ่งอันประเสริฐ ขอแนะนำสั้นๆว่าอย่าสวดบทอื่นนอกเหนือจากนี้
เพราะผลจะแตกต่างไป พยากรณ์ยากว่าจะลงเอยท่าไหน เช่น ในที่สุดอาจกระตุ้นให้คุณอยากเล่นไสยศาสตร์ได้ง่ายๆ
เลี้ยงเขาด้วยใจที่คิดให้อย่างแม่
อย่าขออะไรเขา อย่าคาดหวังอะไรจากเขา โดยเฉพาะเรื่องเลขหวย ไม่เช่นนั้นคุณอาจต้องชดใช้ในภายหลังแบบไม่คุ้มกัน
ลองนึกถึงเด็กไม่รู้คิดแต่ถูกขอหรือถูกผู้ใหญ่ไหว้วานเกินตัว
ความรู้สึกเขาจะค่อยๆเปลี่ยนไป แทนการเห็นคุณเป็นแม่ เขาจะมองคุณเป็นภาระ
หรือกระทั่งเป็นลูกหนี้เอา
ในกรณีที่เขามีฤทธิ์บางอย่าง
เขาอาจอยากให้อะไรคุณเอง อันนั้นแล้วไป ท่องไว้ดีๆว่าอย่าขอ
ถ้าเขาให้ได้และอยากให้ค่อยเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ถ้าไม่เชื่อกันตรงนี้ก็ขอให้ลืมทั้งหมดที่ผมแนะนำมา เนื่องจากจุดนี้เป็นจุดชี้เลยว่าคุณกำลังทำในสิ่งถูกต้องหรือผิดพลาด
เป็นไปในทางกุศลหรืออกุศล
เมื่อคุณเอาใจใส่เลี้ยงเขา
ความฝันเกี่ยวกับเขาจะแตกต่างไปเรื่อยๆ คุณอาจพัฒนาความสัมพันธ์ไปตามลำดับ
ควบคู่กันไปทั้งตัวคุณและตัวเขา เช่น อาจเอาหนังสือธรรมะตั้งทิ้งไว้ หรือมีเวลาก็อ่านธรรมะออกเสียงให้เขาฟังแทนการเล่านิทาน
เลือกที่คุณเองก็อ่านแล้วเข้าใจและปล่อยวางกิเลสโลกๆได้นะครับ ถ้าคุณตั้งใจอ่านธรรมะให้เขาฟัง
แล้วใจคุณเองมีความสว่าง มีความสบาย มีความคลายจากความยึดมั่นถือมั่น
จะมีผลให้วิญญาณของเขาจะโตขึ้น สว่างมากขึ้นไปด้วย
ธรรมดาของวิญญาณนั้น
เมื่อผ่องใสขึ้นด้วยบุญ ก็เหมือนคนตาสว่าง
สามารถตัดความฝังใจเก่าๆได้ด้วยความสว่างนั้นเอง
ถึงจุดหนึ่งเขาจะมีกำลังบุญหนักแน่นพอ แล้วรู้เองว่าถึงเวลาไปเกิดในที่สูงขึ้น
แทนการรออย่างสูญเปล่า คุณอาจฝันครั้งสุดท้ายเป็นการเห็นเขามาลา หรืออยู่ๆความรู้สึกผูกพันแบบเดิมๆก็สลายตัว
กลายเป็นเมตตาล้วน และไม่ฝันถึงเขาอีก
ถึงแม้ทั้งหมดจะไม่ใช่เรื่องจริง
แต่คุณก็จะสบายใจขึ้นอย่างแน่นอน
ว่าทำดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แทนการไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีกับฝันซ้ำๆซากๆแบบเดิมครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น