ถาม : ก่อนนอนจะมีปัญหาค้างคาต่างๆมารุมเร้าให้เครียด นอนไม่หลับ
ทรมานมาก สลัดความคิดออกจากหัวอย่างไรก็ไม่สำเร็จ เคยพยายามดูลมหายใจและบริกรรมพุทโธก็ไม่ไหว
ยิ่งเครียดหนักเข้าไปใหญ่ คุณดังตฤณพอจะมีอุบายวิธีอื่นที่ช่วยลดความเครียดก่อนนอนโดยเฉพาะบ้างไหมคะ? อย่าบอกให้แก้ที่ตัวปัญหาอันเป็นต้นตอความเครียดนะคะ
เพราะพยายามแก้อยู่ แต่ก็ยังห่างไกลความสำเร็จอยู่มาก
>
จากหนังสือ เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว เล่มที่ ๘
ดังตฤณ:
ลองเอาลูกเหล็กที่เขาใช้ชกลม
หรือวัตถุอะไรขนาดพอดีมือมากำไว้สิครับ กำให้แน่นเลย เป็นการย้ายอาการจับยึดในหัวมาไว้ที่มือแทน
ความรู้สึกฝืนกำอย่างเป็นรูปธรรมที่มือจะลดความเครียดในหัวลงทันที และยิ่งกำแน่นนานไป
คุณก็จะยิ่งเห็นความไร้สาระแก่นสารของการจับยึดอะไรไว้เปล่าๆ ในที่สุดพอใจคลายก็หลับสบายไปได้เอง
ผมแนะนำให้ทดลองอย่างนี้ก็ได้ผลกันดีครับ
และถ้าให้วิเศษกว่าอุบายวิธีข้างต้น
ก็คืออาศัยสติยังดีอยู่ พิจารณาให้เกิดปัญญา
มองให้เห็นเรื่อยๆว่าเราไม่ได้เป็นคนยึดมั่น จิตเขาเป็นคนยึด
และยางเหนียวที่เหนอะหนะไปทั้งจิตทั้งใจก็ไม่ใช่อะไรอื่น มันคือหลักฐานที่แสดงให้เห็น
ว่าระหว่างวันถ้าเราไม่ระวัง ไม่ดูแลรักษาจิตให้ดี ปล่อยปละละเลย ยินยอมเอาขยะทางใจมาสะสมจนหมักหมมคั่งค้าง
ในที่สุดจะรื้อทิ้งได้ลำบากมาก ไม่ใช่แค่อยากทิ้งก็สลัดกันง่ายๆ
พิจารณาไปเรื่อยๆเช่นนี้ก่อนนอน
จะมีผลอีกทีระหว่างวันใหม่ คือใจคุณจะเหมือนติดสัญญาณเตือนภัย ถ้าเมื่อใดปล่อยจิตปล่อยใจให้คร่ำเครียดกับปัญหามากเกินไป
จะเกิดสติเตือนตนเอง ว่าเอาอีกแล้วนะ เก็บขยะใส่หัวเตรียมตัวตาแข็ง เตรียมนอนเครียดหลับยากได้อีกแล้ว
ที่ความรู้สึกตัวตรงนั้น จิตคุณจะถอยออกมาจากอาการยึดมั่นเอง
แม้ยังทำหน้าที่แก้ปัญหาในชีวิตประจำวันเหมือนปกติ
แต่จิตก็จะไม่หลงถลำหล่นลงไปแช่น้ำครำดำปี๋อย่างเคย ทำได้อย่างนี้ก็นี่แหละคือการแก้ปัญหานอนไม่หลับอย่างตรงจุด
คุณยังไม่ต้องทำลายปัญหาภายนอก ที่เข้ามากระทบใจให้สิ้นซากซึ่งอาจยากและต้องใช้เวลา
เพียงแค่กำจัดอาการยึดมั่นเหนียวแน่นอย่างไร้สติก็พอแล้ว
โรคนอนไม่หลับกำลังเป็นปัญหาใหญ่เข้าขั้นรุนแรง
หลายคนน่าเห็นใจมากๆ เพราะปัญหารุมเร้าตลอดศก ไหนจะการงาน ไหนจะการรัก
ไหนจะหนี้สิน ไหนจะอันตรายจากคนโฉด ไหนจะโดนรมควันพิษทุกค่ำเช้า
ไหนจะอบอ้าวในเมืองร้อน เพราะทุกคนจำยอมแออัดอยู่ในแหล่งชุมชนใหญ่ เพื่อเอาตัวให้รอด
(แบบไม่ค่อยปลอดภัย)
โรคเครียด
โรคนอนไม่หลับนั้น อันที่จริงเป็นแค่ทุกข์ส่วนหนึ่ง ทุกข์อันเกิดจากวิบากกรรม
ทุกข์อันเกิดจากความไม่รู้จักวิธีคลายความยึดมั่นถือมั่น หากจะแก้โรคทุกข์ทางใจให้ครอบจักรวาล
คุณจำเป็นต้องศึกษาพุทธศาสนาในเชิงปฏิบัติให้แจ่มแจ้ง
การมีจิตคิดสละออก
คิดให้ทาน เบิกบานใจ จนรังเกียจความตระหนี่เหมือนรังเกียจกาวเหนียวเกรอะกรัง จะก่อให้เกิดสภาพน่าอยู่
น่าสบาย แม้กายยังไม่รวยขึ้น ใจก็รวยขึ้นแล้ว
การใคร่รักษาความสะอาดของจิต
คิดรักษาศีล ปลอดโปร่งโล่งใจ จนรังเกียจความประพฤติทุศีลเหมือนรังเกียจขี้เยี่ยวโสมม
จะก่อให้เกิดสภาพปลอดภัย ร่มเย็นเป็นสุข แม้กายยังไม่อบอุ่นปลอดภัยขึ้น
ใจก็อบอุ่นปลอดภัยขึ้นแล้ว
การรู้สติไม่ปล่อยให้จิตเตลิดเปิดเปิง
คิดปล่อยมากกว่าคิดยึด เบาสบายไปทั้งจิต จนกระทั่งรังเกียจอาการยึดมั่นกามผิดๆ และรังเกียจความผูกใจอาฆาตพยาบาทไร้ประโยชน์
ความรังเกียจเรื่องสกปรกนั้นเองจะก่อให้เกิดสภาพไกลบาป พ้นเรื่องน่ากลัดกลุ้ม แม้กายยังไม่อาจหลีกไปจากวงล้อมของเหล่าทรชนคนบาป
ใจก็ห่างบาปออกมามากแล้ว
พุทธเราแก้โรคได้ครอบจักรวาล
และเป็นการแก้ที่ต้นเหตุจริงๆ แก้ปัญหาระยะยาวกันจริงๆ
เพียงแต่คุณจำเป็นต้องศึกษาให้ทั่วถึง ปฏิบัติตนให้ครบพร้อม
แล้วจะพบว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้มแน่ๆครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น