วันจันทร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

เป็นคนบาปหรือไม่ที่ชอบแต่ชายชู้ (ดังตฤณ)

ถาม : ดิฉันเป็นคนเลวมากไหม คบกับคนมีภรรยาแล้ว แถมเป็นเพื่อนกับสามีเก่าของตัวเอง เวลาอยู่ใกล้กันกับเขา จะรู้สึกถึงแรงดึงดูดเกินห้ามใจ ทั้งเขาและดิฉันต่างก็ไม่สามารถอธิบายว่าทำไมถึงดึงดูดกันและกันได้มากมายขนาดนี้ แต่ทีกับคนดีๆไม่มีเจ้าของที่มาชอบดิฉัน กลับไม่รู้สึกอะไรด้วย ไม่อยากให้ความหวังหรือแค่หลอกใช้พวกเขา มันแปลว่าดิฉันเป็นคนบาปจึงชอบคนดีไม่ได้ใช่ไหมคะ? ก่อนหน้านี้พยายามเลิกอยู่แล้ว พอหันมาเชื่อกรรมวิบาก ดิฉันยิ่งฝืนห้ามใจตัวเองหนักขึ้น แม้เขาร้องไห้คร่ำครวญขอมีอะไรด้วย และสัญญาว่าจะเลิกกับภรรยา ดิฉันก็พยายามหนักแน่น ให้กำลังใจให้เขาอยู่กับภรรยาต่อ และตั้งใจว่าจะเลิกประพฤติผิดในกามอย่างเด็ดขาด เท่านี้เพียงพอที่จะเปลี่ยนเส้นทางคนบาปได้ไหมคะ?

> จากหนังสือ เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว เล่มที่ ๘

ดังตฤณ: 
ก่อนอื่นมาตั้งต้นทำความเข้าใจเรื่องดีเรื่องเลวกันให้ชัด ตรงที่คุณบอกว่าไม่อยากให้ความหวังหรือหลอกใช้ผู้ชายที่มาชอบ หรือแม้พลาดพลั้งก่อพฤติกรรมผิดๆไปแล้ว ในที่สุดก็สำนึกได้ กลับใจ และเอาตัวเองพ้นออกมาจากโลกสกปรกเสียได้ เหล่านี้ล้วนสะท้อนให้เห็นว่าเนื้อแท้ของความเป็นคุณใช่จะเลวร้ายหรือเป็นคนบาปหยาบช้าแต่อย่างใด ทำผิดแล้วสำนึกผิดเป็นเรื่องของคนดี ไม่ใช่คนชั่ว สิ่งเดียวที่ทำให้คนๆหนึ่งถลำลงไปสู่ความชั่ว คือการพลาดทำผิดแล้วไม่ยอมรับว่าผิด กับไม่คิดจะทำอะไรให้ดีขึ้น

ถ้าคุณเจอใครคิดถึงแต่คนอื่น ไม่พูดให้ร้าย เอาแต่พูดประสาน ตลอดจนอุทิศแรงกายแรงใจเพื่อสังคม ครองตัวบริสุทธิ์ผุดผ่องแบบพระแบบชี อันนั้นคงแปะป้าย ‘คนดี’ ที่สว่างโร่ให้กับเขาได้อย่างเต็มใจ แต่หากเจอใครที่เอาแต่คิดถึงตัวเอง ปากคอเราะร้าย และมีชีวิตอยู่เพื่อกอบโกยฉ้อฉล ฟาดฟันลูกเขาเมียใครดะไปหมด อันนั้นคุณคงประทับตรา ‘ไอ้เลว’ หรือ ‘อีเลว’ ติดหน้าผากเขาอย่างไม่รีรอ

แต่คุณไม่ใช่ และที่เห็นๆกันอยู่ทั่วไปก็หาได้มีรัศมีเทพหรือกลิ่นอายเปรตฉายชัด คนส่วนใหญ่บางทีก็คิดถึงตัวเอง บางทีก็คิดถึงคนอื่น บางทีพูดด้วยความโกรธ บางทีพูดด้วยเมตตา บางทีทำด้วยความโลภ บางทีนึกอยากเสียสละ อันนั้นคุณจะไม่จดจำไว้ว่าแสนดีหรือแสนร้าย แต่จะมองว่าเขาหรือเธอต่างก็เป็น ‘คนธรรมดา’ คนหนึ่ง อาจกลับไปกลับมาได้ พลาดพลั้งเผลอใจได้ แล้วกลับสำนึกผิดได้

ตัวคุณเองก็คนธรรมดาคนหนึ่งเหมือนกัน อย่าเพิ่งพิพากษาว่าตัวเองเป็น ‘คนบาป’ เพียงเพราะความประพฤติผิดในกาม ถามตัวเองว่าศีลข้ออื่นคุณบกพร่องไหม ถ้าไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ฉ้อฉลเพ่งจะเอาทรัพย์ผู้อื่น ไม่พูดจาด้วยจิตสกปรก ไม่ร่ำสุรายาอี พูดง่ายๆว่าถ้าศีลส่วนใหญ่ยังดีอยู่ ก็แปลว่าคุณไม่ได้เห็นแก่ตัว ไม่ใช่คนเลวร้ายจนน่าอดสูอย่างที่คิด

เอาล่ะ… ถ้ามองกันที่จุดเริ่มต้นว่าคุณไม่ใช่คนใจบาปสันดานหยาบหนา แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องน่าละอายขึ้นได้? โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องเป็นคนนี้ที่ทำให้วาบหวามแบบผิดๆได้รุนแรง คำตอบคือ คนที่เคยผิดพลาดทางกามบ่อยๆ หรือมีมลทินทางกามติดตัวอยู่ก่อน เมื่อพบและรู้สึกผูกพันกันภายใต้เงื่อนไขผิดๆ มักเกิดแรงดึงดูดที่ยากจะยั้ง

บาปน่ะส่งแรงดึงดูดให้เข้าหากันทางเพศได้ยิ่งกว่าบุญอยู่แล้วครับ เพราะกามราคะและเพศรสนั้นเข้าข้างอกุศลอยู่แล้ว ยิ่งถ้าต่างฝ่ายต่างมีบุญเก่าตกแต่งรูปร่างหน้าตาให้ดูดีน่าติดใจ ก็ยิ่งปรุงให้รสของกามระหว่างกันน่าพิสมัย ถึงใจเป็นทวีคูณ และหากเคยชวนกันปีนต้นงิ้ว ร่วมทุกข์ร่วมทรมานด้วยกันมาแต่ปางก่อน ก็จะกระตุ้นให้หูฝ้าตามัว ลืมโลกลืมชีวิตได้แรงขึ้นกว่าหนไหนๆ ถ้าไม่ชวนกันหยุด ก็จะร่วมทำผิดแล้วลากกันลงต่ำไปเรื่อยๆอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ระหว่างตักตวงรสอัศจรรย์ทางเพศ คุณและเขาจะหน้ามืดตามัว มองไม่เห็นหรอกว่ากำลังโดนม่านมืดของอกุศลครอบงำอย่างน่ากลัวเพียงไร ต่อเมื่อเสพเสร็จแล้ว อิ่มหนำแล้ว สติสตังจึงค่อยกลับคืนมา จึงค่อยรู้ตัวว่าที่เพิ่งเสพผ่านไปนั้น สกปรกน่าสะอิดสะเอียนปานใด

อาจเปรียบได้กับคนหิวข้าวไส้กิ่ว ตอนนั้นใครเอาอาหารจานไหนมาวางก็ตะกรุมตะกรามกินหมด ยิ่งถ้าได้เนื้อเผ็ดๆดิบๆจะยิ่งเอร็ดอร่อยยั่วลิ้นคนหิวเป็นพิเศษ ต่อเมื่อสวาปามเข้าไปจนท้องป่อง พินิจของในจานใหม่ นั่นแหละจึงค่อยพบว่าเป็นตับสด ไส้อ่อน หรือเนื้อหมักที่มีหนอนเต้นระบำยิบๆอยู่ตรงโน้นนิดตรงนี้หน่อย คราวนี้จะเกิดปฏิกิริยาตาโต คลื่นเหียนอาเจียนโอ้กอ้ากอย่างไร ก็คงไม่ทำให้รู้สึกดีขึ้นได้

และที่สำคัญ เมื่อหิวตาลายอีก ก็พร้อมจะกินอย่างไม่พินิจพิจารณากันอีก เนื่องจากติดนิสัยบุ่มบ่ามมูมมามยามหิวเสียแล้ว

กามที่ผิดเป็นสิ่งเสพติดได้ยิ่งกว่าเนื้อรสเด็ด แต่คงไม่ถึงขั้นเฮโรอีน เพราะเฮโรอีนนั้นออกฤทธิ์กดประสาทคุณได้เหมือนยักษ์ปักหลั่นรังแกคนแรงน้อย ส่วนกามผิดๆนั้น แม้มีอำนาจรุนหลังหนักหน่วงเพียงใด ก็เหมือนเปรียบมวยได้ถูกคู่ มันไม่ได้มีกำลังมากกว่าคุณ หากคุณไม่ยอมล้มมวยก็สู้กันได้หลายตั้ง หลักฐานคือกามไม่เคยทำให้คุณสติเลอะเลือนขนาดลืมหมดว่าเขาหรือเธอเป็นของคุณหรือของคนอื่น ทุกย่างก้าวก่อนถึงเตียงยังมีโอกาสสำนึกได้เสมอ ว่าที่จะเกิดขึ้นคือพฤติกรรมปกติหรือการมีชู้

คนที่คบชู้มีหลายพวก พวกที่เห็นกันมากขึ้นในยุคนี้ คือค่อยๆทำใจเฉยชา กระทั่งความชาเฉยพอกพูนหนาขึ้น บดบังแสงสว่าง สิ้นสำนึกผิดชอบชั่วดีอันเป็นส่วนประกอบหลักของจิตมนุษย์ เมื่อสำนึกผิดชอบชั่วดีทางกามหมดลง ก็แปลว่ายางอายหายสูญ สำนึกผิดชอบและความละอายด้านอื่นๆก็จะพลอยเหือดแห้งไปด้วย ธรรมชาติจะสร้างความกระด้างขึ้นมาแทนความละอายต่อบาป เพื่อให้ทนมีชีวิตแบบมนุษย์อยู่ต่อไปได้ มิฉะนั้นจะต้องฝันร้ายราวกับวนเวียนอยู่ในป่ามืดน่าสะพรึงกลัวกันทุกคืน

อีกพวกหนึ่งคือสำนึกผิด เจ็บปวด และทรมานเหมือนตัวมีแผลใหญ่เต็มตัว หรือคล้ายเป็นโรคเรื้อนที่คันคะเยอได้ตลอด ยิ่งเกายิ่งแสบ แต่ไม่เกาก็กระสับกระส่าย หาความสุขในชีวิตไม่ได้ เมื่อสั่งสมความรู้สึกผิดมากขึ้นถึงจุดหนึ่ง ความสุขในรสกามจะหายไปหรือเหลือน้อยเต็มทน กามกลายเป็นความน่าอึดอัด รู้สึกสกปรกจนทนไม่ไหว บีบให้ต้องตัดใจเลิกราในที่สุด พวกนี้ไม่ต้องใช้กำลังใจในการหักห้ามมากนัก เพราะถือว่ามีความทุกข์เป็นตัวช่วย

แบบสุดท้ายหายากหน่อย คือไม่ต้องสะสมความรู้สึกผิดนานเกินไป แค่ครั้งสองครั้งก็สำนึก และตั้งใจแก้ตัวใหม่ทันที ต่อให้มันจุกอกอย่างไร หัวเด็ดตีนขาดก็ไม่ยอมทำผิดอีก พวกนี้จะลบความรู้สึกแย่ๆ หรืออาการดูถูกตัวเองได้ในเวลาไม่นานนัก เนื่องจากยังไม่ทันอ่อนแอ ก็บำเพ็ญขันติบารมีจนแข็งแรง เอาน้ำดีล้างน้ำเสียจนสะอาดได้เร็ว ผลที่เห็นได้ชัดคือความอดทนต่อความชั่วจะสูงขึ้น ไม่เฉพาะความผิดในกาม แต่ความผิดความเลวร้ายอื่นๆก็ผ่านปราการขันติเข้ามาได้ยากกว่าเก่า

สรุปว่า ถ้าบาปที่ผ่านมาทำให้คุณเกิดสติในการใช้ชีวิตมากขึ้น หรือกระทั่งเปิดโอกาสให้คุณบำเพ็ญขันติบารมี เป็นผู้มีความเด็ดขาดกับการละความชั่ว ก็ถือว่าคุ้มแล้ว และเกินพอสำหรับการเปลี่ยนเส้นทางคนบาปมาเป็นนักบุญ คนเราถ้าสามารถแยกได้ชัด ว่ากรรมใดเป็นโทษ ควรละให้ขาด กรรมใดเป็นประโยชน์ ควรเพิ่มให้มาก ก็ได้ชื่อว่าสร้างที่พึ่งให้แก่ตนในระยะยาว แม้ต้องผ่านการผจญภัย เปื้อนเปรอะเลอะโคลนแห่งบาปบ้างก็ช่างเถอะ ล้างๆหน่อยก็สะอาดแล้ว จำไว้บอกคนอื่นเถิดว่า อบายจะรักษาเส้นทางของตัวเองไว้ จนกว่าจะมีกำลังใจยิ่งใหญ่กว่าอบายมาเอาชนะ

กำลังใจที่ยิ่งใหญ่ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ มันอาจเริ่มจากศรัทธาในความดี อาจเริ่มจากการกลัวบาปกลัวกรรม แล้วพัฒนาขึ้นเป็นการหักห้ามใจ คุณจะไม่รู้สึกฝืนลำบากนัก หากตั้งสัจจะรักษาศีลให้ครบวงจรไปเลย เพราะอานุภาพของศีลย่อมส่งผลให้ใจเป็นสุขสงบ แม้ต้องผ่านอุปสรรค ผ่านเครื่องลองใจยากๆในช่วงต้น แต่พอพ้นช่วงลองใจของธรรมชาติไปแล้ว กายใจของคุณจะปรับสมดุลเข้าสู่สภาพปลอดโปร่งสบาย และทำให้คุณมั่นใจว่าเมื่อยืนข้างสว่าง ความสว่างย่อทอรังสีอบอุ่น ความรู้สึกทั้งชีวิตจะแตกต่างและไม่กลับไปอยู่ในโลกมืดอันหนาวเย็นอีก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น