วันอังคารที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

เทวดาอยากเกิดเป็นมนุษย์จริงหรือ (ดังตฤณ)

ถาม : มีคนบอกว่าเทวดายังเบื่อหน่ายทิพยสมบัติ อยากลงมาเกิดเป็นมนุษย์ก็มี ไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร?

> จากหนังสือ เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว เล่มที่ ๙

ดังตฤณ: 
จิตของมนุษย์แต่ละคน และจิตของเทวดาแต่ละองค์นั้น เสพสมบัติด้วยความยินดียินร้ายไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับการสั่งสมกรรม การสั่งสมกิเลส และการสั่งสมปัญญา

เหตุผลทางใจที่ทำให้เทวดาหมดความไยดีในสมบัติทิพย์ของตนมีอยู่หลักๆ ตามที่ปรากฏบันทึกอยู่ในคัมภีร์พุทธ เรียงตามลำดับความน่าจะเป็น คือ

๑) ทนริษยาเพื่อนเทวดาไม่ได้

ทิพยสมบัติของเทวดานางฟ้าไม่เหมือนกัน มีความวิจิตรพิสดารผิดกัน ขึ้นอยู่กับบุญที่แต่ละองค์ทำๆกันมา

ยามเทวดาเยี่ยมชมวิมานของเพื่อนแล้วประจักษ์ในความเหลื่อมล้ำต่ำสูง ก็เป็นทำนองเดียวกับที่คุณเรียนจบมาพร้อมเพื่อน แต่ได้งานต่างกัน สิบปีให้หลังเพื่อนมีทั้งคฤหาสน์หลังโต โรงรถมีเก๋งใหญ่กับรถสปอร์ตขึ้นเงาวับ ในขณะที่คุณผ่อนทาวเฮาส์กับรถมือสองหัวหูยุ่ง คุณก็คงเริ่มคิดมาก บังเกิดความไม่พอใจในสมบัติและฐานะของตนเองขึ้นมา

ที่แสลงใจเด็ดขาดกว่านั้น คือเมื่อเทวดาเห็นนางฟ้าของเพื่อนงดงามบาดตาเกินนางฟ้าของตน ก็คงประมาณคุณแอบหลงรักแฟนเพื่อน รูปร่างหน้าตาเธอเย้ายวน แต่ห้ามแตะต้อง เท่านั้นไม่พอ เมื่อหันกลับมามองเมียคุณเอง ก็เจอแบบเตี้ยล่ำดำปี๋เหมือนกระปุกออมสินเก่าๆ อันนี้แหละคุณอาจถึงขั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับ ความทรมานใจในเรื่องพรรค์นี้มีเพียงใดบนโลกมนุษย์ ยังนับว่าน้อยเมื่อเทียบกับความทรมานใจบนสรวงสวรรค์ เพราะคุณไม่มีทางลักลอบมีชู้โดยเจ้าของไม่ล่วงรู้ อีกอย่างเทวดาถือกำเนิดขึ้นด้วยมหาปีติ มหาโสมนัสในบุญกุศล จึงยากที่จะก่อเรื่องอัปยศอดสูประเภทลักกินขโมยกินได้ไหว

เมื่อเกิดความกลัดกลุ้มริษยา เทวดาทำได้มากกว่าเอาแต่คิด พวกเขาทราบทางมาแห่งสวรรค์ มีสัญชาตญาณรู้ละเอียดกระทั่งว่าสมบัติชิ้นใดได้มาจากกรรมแบบไหน ถ้าไม่รู้ก็ถามเพื่อนที่รู้ เช่นว่าเพื่อนเคยทำอย่างไรมาถึงได้บ้านใสพร้อมเมียสวยเห็นปานนั้น เทวดาด้วยกันก็มักบอกเล่าโดยไม่เห็นความจำเป็นต้องปิดบัง เขาย่อมทราบว่าสมบัติทิพย์จะเกิดขึ้นได้นั้น ที่มาเดียวคือบุญอันสั่งสมไว้ชอบแล้วขณะเป็นมนุษย์

บนสวรรค์นั้น แม้ริษยากันเพียงใดก็ซื้อหาเพิ่มเติมมาแข่งขันกันไม่ได้ เพราะการเป็นเทพคือภพที่เอาไว้เสวยวิบากตายตัวตั้งแต่ผุดเกิดจนแตกดับ โอกาสที่จะเพิ่มเติมบุญบารมีนั้นยากกว่ามนุษย์มาก เนื่องจากเทวดาต่างก็ไม่ต้องการการช่วยเหลือ ต่างมีสมบัติที่ผุดขึ้นให้ตนใช้เฉพาะตัว ดังนั้นผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือจึงไม่มี และเมื่อไม่มีผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ ก็ไม่มีที่ตั้งของการทำทาน ต่างฝ่ายต่างเสวยบุญของตนเป็นหลัก

อีกประการหนึ่ง เมื่อสมบัติทิพย์เป็นสิทธิ์ขาดเฉพาะตน ก็ไม่จำเป็นต้องคิดแย่งชิงหรือฆ่าฟันกันให้เมื่อย เมื่อไม่มีเหตุบีบคั้นให้ทำบาป ก็ไม่ต้องตั้งใจรักษาศีล ๕ เมื่อไม่มีความยากลำบากในการรักษาศีล ๕ ทางมาแห่งบุญใหญ่ก็ถูกตัดไปอีกหนึ่ง

อีกประการ แม้เทวดามีโอกาสทำบุญอยู่บ้าง เช่นไปฟังอริยเจ้าเทศนา หรือไปใส่บาตรพระธุดงค์กลางป่า แต่โดยทิพยสภาพนั้น ไม่เอื้อให้เหล่าเทวดานางฟ้าได้ใช้กำลังใจมากนัก คือเมื่อจะเดินทางไปฟังธรรมก็ไม่ต้องเตรียมตัว ไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง แค่คิดอยากไป ตั้งใจไปจริงๆ แวบเดียวก็ถึงแล้ว หรืออย่างเมื่อคิดจะถวายภัตตาหารแด่พระพุทธเจ้าและพระอริยสาวก ก็เพียงเนรมิตอาหารอันเป็นรูปหยาบขึ้นมาด้วยฤทธิ์ทางใจ ไม่ต้องตระเตรียมหุงหา ไม่ต้องคิดว่ามีสตางค์พอจ่ายค่ากับข้าวเผื่อพระหรือเปล่า

อันว่ากำลังใจในการทำบุญนั้น มีส่วนสำคัญยิ่ง ที่จะเป็นตัวกำหนดรัศมีแห่งบุญว่ามากหรือน้อย บนโลกมนุษย์เต็มไปด้วยข้อบีบคั้นให้ต้องคิดมาก อยากสละทรัพย์หรือสละแรงให้ใครแต่ละที อาจหมายถึงการชักเนื้อให้ตนเองมีน้อยลง ลำบากมากขึ้นได้ทั้งสิ้น ธรรมชาติแห่งบุญนั้น จะทวีสูงขึ้นเมื่อยอมมีน้อยลงเพื่อให้คนอื่นมีมากขึ้น ตลอดจนยอมตัวลำบากมากขึ้นเพื่อให้คนอื่นลำบากน้อยลง

นี่แหละครับ ที่มาข้อแรกของการ ‘กลั้นใจตาย’ แห่งเทวดา เขาจะกำหนดจิตอย่างแน่วแน่เพื่อมาเกิดเป็นมนุษย์ ยอมลืม ยอมไม่รู้ ยอมลำบาก ทั้งที่ยังไม่ถึงเวลาจากสวรรค์ไป ก็เพื่อมาทำบุญเพิ่ม รูปชีวิตของเขา นับแต่การได้มาเกิดกับพ่อแม่แบบหนึ่งๆ ตกอยู่ภายใต้ความกดดันแบบหนึ่งๆ จะสอดคล้องกับแรงอธิษฐานขอบำเพ็ญบารมีแบบนั้นๆก่อนสละสวรรค์

พวกคุณบางคนเพิ่งลงมาจากสวรรค์ด้วยเหตุคือหมดบุญ ช่วงต้นชีวิตอาจจะยังติดอยู่กับวิสัยทัศน์เทวดา อะไรๆดีหมด สบายหมด สุดท้ายก็โดนความเหลิงแบบมนุษย์เอาไปกิน แต่พวกคุณบางคนเพิ่งลงมาจากสวรรค์ด้วยเหตุคืออยากบำเพ็ญบุญเพิ่ม ช่วงต้นชีวิตจะชมชอบเรื่องการทำทาน การรักษาศีล การไหว้พระสวดมนต์ โดยไม่ต้องมีใครขู่เข็ญบังคับ แค่เห็นแบบอย่างดีๆก็อยากเอาตามทันที และยิ่งโตขึ้นความตั้งใจจะยิ่งเด่นชัดอย่างประหลาด ตั้งใจทำแต่ความดี มีความผูกพันกับสวรรค์อย่างลึกซึ้ง แค่ได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับเทวดานางฟ้าแล้วเกิดปีติอย่างใหญ่ราวกับสัมผัสทิพยสภาพได้ ที่สำคัญคือเคยอธิษฐานตั้งใจทำดีแบบใด แรงอธิษฐานนั้นจะแปรเป็นสัญญาณนำร่อง เกิดความอยากทำ และตั้งหน้าตั้งตาทุ่มเทด้วยชีวิตจิตใจทั้งหมด

ยกตัวอย่างเช่นเทวดาที่จุติด้วยแรงอธิษฐานอยากได้นางฟ้างามพิลาศทัดเทียมเพื่อน เมื่อเกิดเป็นมนุษย์ก็จะแสวงหาหญิงที่ดี หรือพร้อมจะดี ไม่สนใจรูปร่างหน้าตามากนัก เพียงเพื่ออยู่ร่วมกันอย่างปรองดอง และร่วมทำบุญแบบไปไหนไปกัน เท่าไหร่เท่ากัน จิตทั้งส่วนตื้นส่วนลึกจะมองเลยไปข้างหน้า เลื่อมใสในบุญ เชื่อในผลบุญ และไม่ไยดีกับฐานะทางโลกมากนัก ผลสุดท้ายเขากับเธอย่อมรักและผูกพันกันด้วยอำนาจบุญทั้งในชาติปัจจุบัน และไปครองวิมานร่วมกันอีกในปรโลก สมความปรารถนาแต่ดั้งเดิมของ ‘เขา’

๒) ทนรับฐานะต่ำต้อยของตนเองไม่ได้

เทวดาบางองค์ต้องตกไปเป็นบริวารของเพื่อน เพราะเมื่อครั้งเป็นมนุษย์ต้องให้เพื่อนฉุดลากถูลู่ถูกังไปทำบุญ หรือต้องให้เพื่อนหว่านล้อมตะล่อมให้ศึกษาธรรม หรือต้องให้เพื่อนเกลี้ยกล่อมเป็นวรรคเป็นเวรกว่าจะยอมเลิกผิดศีลผิดธรรม เช่นนั้นจึงได้ชื่อว่าพึ่งบุญ พึ่งบารมีเพื่อน หาใช่เป็นเครดิตบุญบารมีของตนเองไม่

แม้เมื่อครั้งเป็นมนุษย์จะทำดี สั่งสมบุญไว้ไม่น้อย แต่ก็เป็นไปด้วยกำลังใจที่อ่อน ขาดเพื่อนพยุงเมื่อไรก็ดีดตัวออกจากวงจรบุญเมื่อนั้น ในที่สุดแม้จิตจะถึงสวรรค์ แต่ก็เป็นการถึงสวรรค์ตามเพื่อน เลยต้องไปอยู่ในวิมานของเพื่อนในฐานะบริวาร ไม่มีวิมานแสดงความเป็นเจ้าของบุญของตนเอง

ถ้าคุณเคยสนิทสนมกับใคร ชนิดเล่นหัวกันได้ไม่ถือสา แล้ววันหนึ่งคุณต้องตกไปเป็นลูกน้องของเขา รับคำสั่งเขา เห็นเขาพูดจาวางฟอร์มเจ้านายกับคุณ คุณคงอยากลาออกจากงานไวๆ ซึ่งนั่นก็เช่นกัน การ ‘กลั้นใจตาย’ ของเทวดาประเภทที่ตกไปเป็นบริวารเพื่อน คือวิธีหลบหน้าที่ดีที่สุด

โดยมากเทวดาที่ลาสวรรค์ด้วยอาการทำนองนี้ จะไม่มีเจตนาที่แน่วแน่นัก อย่างมากแค่อยากไปเกิดเป็นมนุษย์เพื่อริเริ่มทำบุญด้วยตนเองบ้าง แต่ก็ไม่ทราบว่าเป็นบุญประเภทไหน รู้แต่ว่าถือกำเนิดเกิดมาพร้อมกับความทระนง ไม่ชอบอยู่ใต้อาณัติใคร แตกเป็นแตก หักเป็นหัก พร้อมจะตบเท้าลาออกทันทีที่ไม่ชอบหน้าเจ้านาย

บางทีโทสะและความอยากเป็นตัวของตัวเอง ก็แปรเป็นแรงผลักดันให้ทำบุญยิ่งใหญ่ได้เอง แต่หากจับพลัดจับผลู เข้าช่องความถือดีนำหน้า ก็อาจทำบุญแบบคนใจแคบ อยากเอาหน้าเอาตา และเผลอทำบาปประการต่างๆโดยมีความน้อยเนื้อต่ำใจเป็นตัวบีบได้

แต่ถ้าโชคดี เทวดาผู้เป็นเพื่อนยังเมตตาสอดส่อง ก็อาจได้เปรียบ คือใช้ชีวิตแบบมีเหล่าทวยเทพผู้เป็นเพื่อนเก่าคอยให้ความช่วยเหลือในรูปของแรงดลใจ หรือดลเหตุการณ์บางอย่างที่มีผลกับการตัดสินใจครั้งสำคัญๆ เช่นถ้าจะตกลงร่วมมือกับโจร ก่อนหน้านั้นจะมีฝันเห็นความวิบัติของตนล่วงหน้าเป็นฉากๆ สมเหตุสมผล สมจริงสมจัง ตื่นขึ้นจึงเลิกคิดคบโจร หันมาคบปราชญ์แทน เป็นต้น

๓) พระโพธิสัตว์ปรารถนาจะบำเพ็ญบารมีต่อ

พระโพธิสัตว์คือผู้ที่อยู่ในระหว่างการบำเพ็ญบารมีเพื่อให้ได้สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาล ท่านจะรู้ด้วยอภิญญาจิตแบบเทวดา ว่าตนเองมีรัศมีแห่งโพธิญาณแก่กล้าเพียงใดแล้ว นั่นเป็นเหตุบันดาลใจให้ฮึกเหิม ไม่กลัวความลำบากในโลกมนุษย์ เสวยสวรรค์เพียงครู่เดียวก็ทุรนทุราย ใคร่อยากลงมาเป็นมนุษย์เพื่อเติมบารมีที่พร่องให้เต็มไวๆ

พระโพธิสัตว์ประเภททิ้งความสุขบนสวรรค์มาลำบากในโลกมนุษย์ได้นั้น มักเป็นเทวดาชั้นดุสิต ซึ่งเป็นแหล่งรวมเทวดาผู้ใหญ่ ผู้พร้อมจะเสียสละตนเองเพื่อสรรพสัตว์ หรือไม่อีกทีก็เป็นพรหมซึ่งถือกำเนิดจากการบำเพ็ญเพียรเยี่ยงนักบวชผู้แผ่เมตตาได้ระดับอัปปมัญญา คือจิตใหญ่และแผ่กว้างได้ไม่มีประมาณ

การตัดสินใจลงมาบำเพ็ญบารมีแต่ละครั้ง ขึ้นอยู่กับปัจจัยและเหตุผลหลายๆอย่าง แต่โดยหลักก็คือ พระโพธิสัตว์จะลงมาด้วยความตั้งใจช่วยคน แต่การช่วยคนของพระโพธิสัตว์ก็มีเรื่องของมุมมองเข้ามาเกี่ยวข้อง พวกท่านอาจเป็นพระเอกในหลายครั้ง แต่บางคราวเป็นวายร้ายอันดับหนึ่งของประวัติศาสตร์ไปก็มี บุญใหญ่กับบาปหนักบางทีก็มาด้วยกันเหมือนเหรียญสองด้าน

๔) เห็นความไม่เที่ยง

การเห็นความไม่เที่ยงบนสวรรค์นั้น ไม่อาจเกิดขึ้นขณะกำลังสนุกอยู่กับการเสพกาม อย่างน้อยต้องเคยบำเพ็ญเพียร เจริญวิปัสสนามาเมื่อครั้งเป็นมนุษย์ เห็นความเกิดดับ เห็นความไม่ตัวตนในรูปนามทั้งปวง กระทั่งจิตเกิดแรงดัน ปรารถนานิพพานแน่นอนแล้ว เพียงแต่อายุไม่ยืนพอจะบรรลุมรรคผล มีอันเป็นไปเสียก่อน

มนุษย์เหล่านี้เมื่อตายลง แล้วไปอุบัติบนสวรรค์ ก็อาจตื่นเต้นในสภาพแวดล้อมใหม่ ตลอดจนยินดีในนางทิพย์และสมบัติทิพย์ได้บ้าง แต่หากแรงดันจากความปรารถนานิพพานที่สั่งสมมามีมากพอ ก็จะชนะความตื่นเต้นยินดีเสียได้ เห็นว่าภพแห่งเทวดาก็ยังมีน้ำตา และเกิดสัญชาตญาณรู้ขึ้นเองว่า ที่ใดมีน้ำตา ที่นั่นยังไม่สุขจริง

เทวดาอื่นอาจเพ่งเล็งกามสุขชั้นเลิศ แต่เทวดาที่เอาวิปัสสนาญาณติดตัวมาด้วย จะเพ่งเล็งไปที่ความไม่เที่ยง สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นไม่ควรวางใจ ไม่ควรฝากใจไว้ ใจจะน้อมไปสรรเสริญก็แต่การเข้าถึงมรรคผลเพื่อพ้นจากปวงทุกข์โศก พ้นจากความพรากจากแล้วๆเล่าๆไปเสีย


หากวิปัสสนาญาณยังแจ่มจ้า เพราะเห็นความเกิดดับเข้ามาได้ถึงสภาพจิตเป็นขณะๆ เทวดาตนนั้นก็อาจบำเพ็ญเพียรต่อบนสวรรค์ได้เลย แต่หากวิปัสสนาญาณยังมีกำลังอ่อน ไม่อาจเอาชนะความยวนใจของทิพยสภาพได้ ท่านก็อาจตัดสินใจลงมาเกิดเป็นมนุษย์ใหม่อีกครั้ง พวกนี้เกิดเป็นมนุษย์อีกทีจะใกล้วัด ใกล้พระ ใกล้ธรรมขั้นสูงตั้งแต่เด็กๆ ต่อให้ใช้ชีวิตอย่างไร ในที่สุดโตขึ้นรู้ความก็ต้องเบื่อโลก เห็นความไร้แก่นสารของสรรพสิ่ง และอยากประพฤติธรรมเพื่อความหลุดพ้นสถานเดียวครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น