วันอังคารที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

เล่นกีฬาเป็นกุศลหรืออกุศล (ดังตฤณ)

ถาม : การเล่นกีฬาที่ต้องแบ่งข้าง มีแพ้มีชนะกัน จัดเป็นกุศลหรืออกุศล? หากเป็นอกุศล มิแปลว่าทั้งโลกเป็นคนบาปกันหมดหรือครับ? ในเมื่อการกีฬาอยู่คู่กับมนุษย์มาตลอด อย่างไรก็ขาดกีฬาและการแข่งขันไม่ได้แน่ๆ

> จากหนังสือ เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว เล่มที่ ๙

ดังตฤณ: 
กีฬาเป็นตัวแปรเสียมากกว่าครับ ถ้าใจคุณดีก่อนเล่นกีฬา สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือกีฬาดีๆ กีฬาดีๆทำให้ร่างกายนักกีฬาแข็งแรง แถมยังทำให้จิตใจนักกีฬามีคุณภาพขึ้นด้วย

โดยนิยามของผม การเล่นกีฬาหรือการออกกำลังที่ประสบความสำเร็จนั้น ไม่ใช่มุ่งที่ผลแพ้ชนะ ผลแพ้ชนะอาจเป็นตัวล่อ แต่สิ่งที่ต้องการกันจริงๆคือสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์ เกื้อกูลให้จิตใจตั้งมั่นง่าย มีขันติสูง และที่สำคัญคือตื่นตัว สดใส ไม่หดหู่ง่วงงุน ลักษณะเหล่านี้ของจิตล้วนเป็นฝ่ายกุศลทั้งสิ้น

มองจิตเป็นดวงๆ คุณจะเห็นความสำคัญของจิตที่หนักแน่น แข็งแกร่ง คือเมื่อเผชิญภัยคุณจะไม่ตระหนกตกตื่นเกินไป หรือเมื่อเผชิญสถานการณ์ยั่วให้ทำผิดคิดร้าย ตราบใดที่คุณอยากสู้กับกิเลสจริงๆ ก็จะไม่หลงกระโจนหรือไหลตามสถานการณ์ไปง่ายๆ และในทางกลับกัน เมื่อตั้งใจบำเพ็ญเพียรสร้างคุณงามความดี คุณจะไม่ย่อท้อ ไม่อ่อนแอ ไม่ถอนเท้าเสียก่อนจะไปให้ถึงเส้นชัย ไม่ต่างจากในสนามแข่ง

อย่างไรก็ตามครับ นักกีฬาแต่ละคนเล็งเป้าหมายต่างกัน ถ้าก่อนเล่นมีใจกระเหี้ยนกระหือรืออยากเอาชนะท่าเดียว และขณะเล่นทำทุกวิถีทางโดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง แถมหลังเล่นจบยังเป็นผู้ชนะที่เหยียบย่ำซ้ำเติม หรือเป็นผู้แพ้ประเภทอันธพาลชวนตี เหล่านี้ล้วนเป็นเหตุให้จิตเศร้าหมอง จิตที่เศร้าหมองคืออกุศลจิต การเล่นกีฬาของเขาย่อมดำเนินไปด้วยอกุศล และได้ผลลัพธ์เป็นอกุศล


สรุปคือถ้าเล่นกีฬาโดยเล็งกันที่สุขภาพกายและสุขภาพจิต อันนั้นเป็นกุศล แต่ถ้าเล่นกีฬาโดยเล็งกันที่ผลแพ้ชนะ อันนั้นกระเดียดมาทางอกุศล และถ้าเล่นกีฬาโดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง ไม่มีใจเป็นนักกีฬา อันนั้นเรียกว่าอกุศลเต็มขั้น เป็นบาปไปเต็มๆครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น