ถาม : ดิฉันเป็นคนทำงานเกี่ยวกับการคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ
สามารถคิดงานใหม่ชนิดที่เป็นต้นแบบได้ แล้วก็ได้รับความสนใจจากผู้ใช้มากอยู่
เสียแต่ไอเดียดีไม่สม่ำเสมอนัก อยากถามว่าทำอย่างไรจะให้คิดงานดีๆออกมาได้มากๆคะ? กรรมวิบากเกี่ยวโยงด้วยหรือเปล่า?
>
จากหนังสือ เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว เล่มที่ ๙
ดังตฤณ:
พุทธศาสนานั้น มีหลักสำคัญที่จะทำให้เห็นทุกอย่างตามจริง ซึ่งก็ง่ายนิดเดียวครับ ท่องไว้แม่นๆ ผลย่อมเกิดแต่เหตุ และนั่นก็หมายความว่า ถ้าอยากให้ผลเกิดอย่างสม่ำเสมอ ก็ต้องสร้างเหตุที่สอดคล้องกันให้สม่ำเสมอด้วย
สิ่งใหม่ๆหาใช่เกิดขึ้นในอากาศเองลอยๆ
ของใหม่คือสิ่งที่เกิดจากการประกอบของเก่าเข้าด้วยกันหลายๆชิ้น ฉะนั้นโจทย์สำคัญจึงไม่ใช่การพยายามคิดเล็งหาของใหม่
แต่เป็นการเล็งของเก่าด้วยมุมมองใหม่
พูดง่ายๆคือถ้าคุณทำของเก่าให้เป็นจุดเชื่อมโยงไปสู่การนึกคิดที่ฉีกแนวหรือแตกต่างออกไปได้
คุณจะมีไอเดียใหม่ทุกวัน เพราะของใหม่ของเมื่อวาน คือของเก่าของวันนี้
คุณแค่ใช้ของเก่าเป็นบันไดพาไปสู่ของใหม่เท่านั้น
อาจเริ่มต้นด้วยการหมั่นตั้งคำถามบ่อยๆประเภท ‘อะไรจะเกิดขึ้น
ถ้าเปลี่ยนตรงนั้นมาเป็นตรงนี้…’ หรือ ‘อะไรจะเกิดขึ้น ถ้าเอาอันนั้นออกไป’ ฯลฯ
จุดหลักอยู่ตรงนี้ครับ
มโนกรรมหลักของนักสร้างสรรค์คือพยายามทำวันนี้ให้ดีขึ้นกว่าเมื่อวาน
เมื่อวานผ่านไปแล้วก็ดีแล้วสำหรับเมื่อวาน แต่สำหรับวันนี้ เมื่อวานยังไม่น่าพอใจเท่าใดนัก
หากคุณปลูกฝังนิสัยตรงนี้ให้หยั่งรากลงไปในชีวิตประจำวัน
ค้นหาข้อบกพร่องของงาน หรือกระทั่งนิสัยใจคอของตัวเอง แล้วพยายามปรับปรุง ดัดแปลง
คิดหาอุบายวิธีเอาชนะข้อจำกัดของตัวเองไปเรื่อยๆ
คุณจะพบว่าตัวเองมีความกระตือรือร้นในการมองสิ่งต่างๆ เห็นว่าสิ่งที่มีอยู่แม้น่าพอใจปานไหน
ก็มีแง่มุมที่อาจพัฒนาให้ดียิ่งๆขึ้นไปได้
สำหรับบุญโดยตรงที่ส่งเสริมให้เป็น
คนมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์แปลกใหม่
คือการเป็นผู้เคยริเริ่มทำบุญในแบบที่แตกต่าง อาจเริ่มจากอะไรง่ายๆ
เช่นเห็นคนอื่นเขาทำสังฆทานโดยการใส่ถังสีเหลืองซ้ำๆ ซึ่งพระไม่รู้จะเอาไปทำอะไรดี
คุณก็เลือกถังพลาสติกสี่เหลี่ยมที่นำไปใช้เก็บข้าวของอย่างอื่นได้
หรืออาจห่อด้วยผ้าหนาที่อาจนำไปปูรองพื้นหรือรองที่นอนได้ เป็นต้น
ความไม่หยุดคิดและการไม่ยอมตามรูป
แบบการบุญซ้ำๆ อยากฉีกแนว อยากปรับปรุงให้ทันสมัยขึ้น เป็นประโยชน์กับผู้รับยิ่งๆขึ้น
ถ้าทำตลอดชีวิต ก็จะรวมเป็นพลังบุญปริมาณมหาศาล ส่งผลให้เกิดใหม่กลายเป็นคนคันสมอง
ชอบคิดค้น และความสว่างอย่างใหญ่แห่งบุญ
ก็จะปรุงแต่งให้ไอเดียผุดขึ้นไม่หยุดหย่อนเป็นน้ำไหล
ส่วนที่ว่าไอเดียจะประสบความสำเร็จมากหรือน้อย
ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัย ๒ ประการ
๑)
บุญเก่าที่ทำด้วยรูปแบบแปลกใหม่ ได้ผลดี ได้ผลจริง ได้ผลเป็นที่น่าพอใจกับผู้รับ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสมณะผู้ทรงคุณ เช่น
เป็นสถาปนิกที่สร้างโบสถ์ด้วยสถาปัตยกรรมแปลกใหม่ น่าชื่นตาชื่นใจเมื่อเห็นภายนอก
กับทั้งเย็นกายเย็นใจเมื่อเข้าไปนั่งข้างใน บุญใหญ่ขนาดนี้จะส่งผลให้ชาติถัดมาเป็นผู้มีไอเดียเป็นเลิศ
เป็นที่ยอมรับระดับโลก โดยไม่ต้องใช้ความพยายามเค้นคิดมากนัก
๒)
บุญใหม่ที่เกิดจากการสั่งสมความรู้และประสบการณ์แรมปี ไม่ว่าคุณทำงานเกี่ยวกับอะไร
หากทำด้วยใจรัก ทำด้วยความเต็มใจ กับทั้งมีใจเปิดกว้าง ยอมรับความเห็นของคนอื่น
ไม่ตีกรอบคับแคบว่าจะต้องเอาเฉพาะไอเดียแรกหรือความปักใจเชื่อของตัวเอง
สมองของคุณก็พร้อมจะแตกกิ่งก้านสาขา หรือพุ่งไปข้างหน้า ไม่ย่ำอยู่กับที่ตลอดเวลา และการพัฒนาวิธีคิดโดยสอดคล้องกับความพอใจของคนอื่น
ย่อมทำให้ไอเดียของคุณมีโอกาสโดนใจคนหมู่มากได้เป็นธรรมดา
ไอเดียที่โดนใจคนหมู่มากนั่นแหละครับ ไอเดียที่ประสบความสำเร็จ
นอกจาก นี้
การบำรุงร่างกายแข็งแรง การทำกิจกรรมหลากหลาย ให้สมองได้ทำงานหลายแบบ
ให้จิตใจรับรู้ประสบการณ์มีสีสันไม่ซ้ำซากจำเจ
ก็มีส่วนช่วยให้ไอเดียผุดโพลงง่ายกว่าคนที่สุขภาพอ่อนแอ ไม่มีแก่ใจคิด และเฉื่อยชา
ไม่ชอบสีสันแปลกใหม่
จริงๆ แล้วหากคุณทำทั้งชีวิตให้เป็น งาน
เวลาที่คิดออกอาจเป็นจังหวะไหนก็ได้ ที่ไหนก็ได้
อะไรเข้ามากระทบนิดกระทบหน่อยก็กลายเป็นกิ่งก้านไอเดียต่อยอดของเดิมได้หมด ครับ
ซึ่งนั่นก็แปลว่าคุณใช้ชีวิตทุกวัน งานใหม่ก็เกิดขึ้นได้ทุกวันเช่นกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น