ถาม : หนูเป็นคนที่เรียนดี
สอบได้ที่หนึ่งของชั้นบ่อยๆ ทำให้เพื่อนในห้องส่วนใหญ่ ชอบมาลอกการบ้านของหนู
ซึ่งส่วนใหญ่หนูก็ให้พวกเขาลอก แต่บางทีก็ไม่ให้
อยากทราบว่าการให้เพื่อนลอกการบ้านนี่บาปหรือเปล่าคะ?
>
จากหนังสือ เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว เล่มที่ ๖
ดังตฤณ:
หากทางโรงเรียนออกกฎให้ลอกข้อสอบได้ ก็จะไม่มีใครผิด ไม่มีใครประพฤติทุจริตมิชอบ เมื่อน้องเข้าไปอยู่ในขอบเขตของกฎที่ว่าห้ามลอกข้อสอบ แม้จะเป็นฝ่ายให้ลอก ก็ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในผู้ฝ่าฝืนกฎ กติกาที่มนุษย์วางกันไว้ จะกลายเป็นกรอบขึ้นมากรอบหนึ่ง ซึ่งผู้เข้ามาอยู่ในกรอบอาจสร้างกรรมอันเป็นกุศลหรืออกุศลโดยเฉพาะกรรมว่าด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและทุจริต การเข้าร่วมขบวนการไม่ซื่อ ก็ย่อมได้ผลเป็นการพัวพันกับโลกที่ไม่ซื่อในทางใดทางหนึ่ง
การฝ่าฝืนกฎมีอยู่ ๓
แบบหลักๆ หนึ่งคือฝ่าฝืนด้วยความคิดเอาประโยชน์เข้าตัว
สองคือฝ่าฝืนด้วยความเมตตาหวังประโยชน์แก่ผู้อื่น สามคือจำใจฝ่าฝืนเพราะถูกบีบบังคับด้วยเหตุจำเป็น
กรณีของน้อง
เข้าข่ายแบบที่สองกับแบบที่สาม ขึ้นอยู่กับวาระ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
ส่วนกรณีของเพื่อนน้อง ก็จะเข้าข่ายแบบที่หนึ่งหรือแบบที่สามเท่านั้น ฐานะของพวกเขาไม่เอื้อให้เกิดโอกาสเป็นพวกที่สองซึ่งเป็นผู้มีพอจะให้
เมื่อเราพูดถึง
‘ความไม่ตรงไปตรงมา’ ในการสอบนั้น เราตั้งต้นพูดกันตามจริงว่ามีการฝ่าฝืนกฎ
มีคนทำผิดกฎ แต่แง่มุมของกรรมวิบากไม่ได้มองแค่นั้น กฎของมนุษย์มีแค่ผิดกับถูก
แต่กฎของกรรมวิบากมีเรื่องของน้ำใจ มีเรื่องของความฝืนใจ
มีเรื่องของความเห็นแก่ตัว มีเรื่องของความลังเลอึดอัดเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย และเมื่อจะตัดสินว่าบาปหรือไม่บาป
ก็ต้องดูที่เจตนาตั้งต้นว่าเป็นการสละให้หรือคิดเอาเปรียบคนอื่น
น้องบอกว่า
‘บางทีก็ไม่ให้’ อันนี้ต้องถามว่าทำไมถึงไม่ให้ ไม่ให้เพราะรำคาญ
ไม่ให้เพราะกลัวใครเกินหน้าเกินตา ไม่ให้เพราะกลัวใครมาแย่งตำแหน่งที่หนึ่ง
ไม่ให้เพราะเห็นว่าการผิดกฎกติกาเป็นเรื่องมิบังควร
ไม่ให้เพราะไม่อยากเพาะเชื้อนิสัยขี้โกงไว้ในตัวเพื่อน
หรือไม่ให้เพราะพิจารณาแล้วว่านี่เป็นการส่งเสริมให้เพื่อนๆเกิดความอ่อนแอไม่คิดพึ่งพาตนเอง
ส่วนเมื่อจังหวะที่อยากให้เขาลอก
ก็ต้องถามว่าทำไมถึงให้ ให้เพราะกลัวไม่เป็นที่รัก ให้เพราะกลัวเพื่อนเกลียด
ให้เพราะกลัวจะถูกรุมรังแกในภายหลัง
หรือให้เพราะพิจารณาแล้วว่าถ้าไม่ช่วยก็คงไม่มีใครรอด เพราะข้อสอบยากเกินไป
เขาตั้งใจเรียนกันแล้ว ดูหนังสือกันแล้ว ข้อสอบก็โหดเกินกำลังอยู่ดี
เหตุผลและวิธีคิดของน้องนั่นแหละ
คือเครื่องชี้ว่ากรรมของน้องเอียงเข้าฝ่ายกุศลหรืออกุศล
ขอให้จำไว้อย่างหนึ่งว่าโลกนี้ไม่มีผิดไม่มีถูก มีแต่เหตุผลและวิธีคิดที่ทำให้จิตของคนๆหนึ่งในขณะหนึ่งๆเป็นขาวหรือเป็นดำมากกว่ากัน
น้องมีวิธีคิดใช้เหตุผลอย่างไร วิธีคิดแบบนั้นก็จะติดเป็นนิสัยของน้องต่อไป
สรุปคือเมื่อจะช่วยหรือไม่ช่วยใครในครั้งต่อไป
ถามตัวเองว่าน้องมีเหตุผลอะไร เหตุผลนั้นเข้าใกล้ใจที่ขาวหรือใจที่ดำ
เหตุผลนั้นนำไปสู่ความเดือดร้อนของตนเองและผู้อื่นได้แค่ไหน
และที่สุดคือเหตุผลนั้นทำให้โลกนี้ดีขึ้นหรือเลวลง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น