ถาม : เป็นคนที่เจอเจ้านายเลวๆประจำ
บางทีลาออกจากงาน เข้างานใหม่ก็เหมือนหนีเสือปะจระเข้ ถูกใช้งานเยี่ยงทาสตลอด
ทั้งให้ทำงานซึ่งไม่ใช่หน้าที่ ทั้งให้อยู่ดึกโดยไม่จ่ายค่าโอที
ทั้งด่าว่าอย่างไร้เหตุผลโดยที่เขาเองเป็นฝ่ายผิด
อยากพ้นๆไปจากเจ้านายชนิดนี้เหลือเกิน ควรทำอย่างไรคะ?
>
จากหนังสือ เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว เล่มที่ ๖
ดังตฤณ:
อำนาจนั้น
เป็นได้ทั้งเครื่องมือทำงาน และเป็นได้ทั้งผีร้ายที่คอยยุให้คนก่อบาปก่อเวร
ธรรมดาคนเราได้อำนาจไปแม้นิดแม้หน่อยก็อยากใช้
อยากทำให้ตัวเองได้อยู่เหนือชีวิตคนอื่นที่ตกเข้ามาอยู่ใต้อำนาจบ้าง
ลองมีอำนาจอย่างเจ้านาย
แล้วดูซิว่าคุณจะใช้อำนาจอย่างเป็นธรรมหรือเปล่า
คนได้อำนาจไว้ในมือแล้วใช้อำนาจอย่างเที่ยงธรรมนั้น มีอยู่พวกเดียว
คือพวกที่มีเมตตาธรรมก่อนได้อำนาจและสามารถรักษาเมตตาธรรมให้คงอยู่หลังได้อำนาจ
นอกนั้นมักเผลอใช้อำนาจด้วยความอยุติธรรมเกือบทั้งสิ้น
แล้วก็จะต่อสู้กับผีร้ายในตัวเองยากขึ้นเรื่อยๆ
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมคนส่วนใหญ่พอตกอยู่ในฐานะผู้รับใช้
จึงถูกใช้อย่างไม่เป็นธรรมกันเกือบถ้วนหน้า คนทั้งหลายเคยใช้อำนาจผิดๆ
จึงมักตกมาอยู่ใต้อำนาจในมือคนผิด
ถ้าคุณเจอบ่อยๆที่เจ้านายใช้อำนาจอย่างลืมตัว ใช้อำนาจอย่างเหลิง
ใช้อำนาจอย่างปราศจากความเห็นอกเห็นใจลูกน้อง
ขอให้สันนิษฐานเถิดว่าคุณต้องเคยทำอะไรทำนองนั้นมาบ้างไม่มากก็นอ้ย
คนที่เจอปัญหานี้ส่วนใหญ่นะครับ
สืบๆได้จากกรรมที่ทำในชาติปัจจุบันนี้แหละ
ตอนเด็กๆอาจขู่ตะคอกผู้หลักผู้ใหญ่ไว้มาก
หรือตอนเป็นหนุ่มเป็นสาวอาจใช้กายวาจาบีบคั้นแฟนจนแทบเป็นบ้า คือคุณไม่จำเป็นต้องทำกรรมเมื่อครั้งเป็นเจ้าคนนายคนเสมอไป
แต่อาจทำตอนรู้สึกว่าตัวเองอยู่เหนือใครบางคน ใครบางคนต้องหงอให้ อ่อนข้อให้
ยิ่งถ้าเขาให้ความรักความเอ็นดู ปรารถนาดี ทำดีกับคุณทุกอย่าง
แต่แทนที่จะเห็นค่าและพยายามทำดีตอบ คุณกลับถือเอาเป็นจุดอ่อน ใช้ความรักของเขาเป็นอาวุธเล่นงานเขา
อันนี้แหละผลตอบสนองจะรุนแรงเกินกว่าที่คุณทำเขาไว้หลายสิบเท่า
วิธีที่จะพ้นบ่วงกรรมนั้น
อาจไม่ง่ายเหมือนปล่อยนกปล่อยปลา
ก่อนอื่นคุณต้องทบทวนด้วยความซื่อสัตย์ว่าชีวิตนี้เท่าที่จำได้
เคยไปทำทารุณกรรมทางกายหรือทางใจกับใครไว้ โดยเฉพาะพ่อแม่และคนที่รักคุณ
เมื่อระลึกได้อย่างชัดเจนแล้ว
และรู้สึกว่าบรรยากาศนั้นๆได้อารมณ์ประมาณเดียวกับที่คุณโดนเจ้านายเล่นงาน
ก็จะเกิดความสำนึกผิด และอยากละทิฐิมานะ แล่นไปขอโทษพวกเขา
หรือทำความดีอย่างใดอย่างหนึ่งกับพวกเขา เป็นการชดใช้
หรือเป็นการแสดงความจริงใจที่จะขอขมา ยิ่งคุณทำให้พวกเขาปลื้ม
ทำให้พวกเขามีความสุขขึ้นได้มากเท่าไหร่ กรรมก็จะเจือจางลงเท่านั้น
พระพุทธเจ้าตรัสเปรียบว่าใส่น้ำลงไปทำละลายเกลือมากๆ ในที่สุดก็คลายรสเค็ม
ทั้งที่ยังมีเกลืออยู่ในภาชนะนั้นเอง
ในอีกทางหนึ่ง
คุณจำเป็นต้องก้มหน้าก้มตาถูกกดขี่โดยไม่มีจิตคิดอาฆาตพยาบาท นี่อาจฟังยากสักหน่อย
แต่อยู่ในเกมกรรมก็อย่างนี้แหละครับ คุณยิ่งผูกเวร ยิ่งคิดอาฆาตอยากเอาคืน
แม้จะไม่สบช่องได้โอกาสเล่นงานเจ้าตัว วันหนึ่งคุณก็อาจติดนิสัยเสียๆจากเจ้านาย
เมื่อกลายเป็นนายคนอื่นบ้างก็ทำตัวเหมือนอย่างนั้น เพราะความอาฆาต พยาบาทมิใช่จะทำงานกับศัตรูคู่อาฆาตอย่างเดียว
แต่ยังเป็นแรงกดดันที่ผลักให้คุณนึกอยากทำร้ายใครก็ตามที่ตกเข้ามาอยู่ใต้อำนาจ
เมื่อคุณอภัยได้อย่างไม่มีเงื่อนไขไปสักพักหนึ่ง
กับทั้งไม่ทำตัวหงอ ยังทรงสติมีจิตใจเข้มแข็ง
ในที่สุดจะเหมือนมีเกราะแก้วหรือรัศมีสว่างขึ้นมาอย่างหนึ่ง
ที่ทำให้คนเห็นไม่นึกอยากรังแก เห็นแล้วมีความเกรงใจคุณ
หรือถ้าหากจิตใจเขายังหยาบอยู่มาก มองไม่เห็นรังสีการอภัยของคุณ
กรรมก็จะจัดสรรให้คุณมีโอกาสไปทำงานที่ใหม่ซึ่งเจ้านายดีกว่าเดิมครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น