ถาม : ต้องทำงานใกล้ชิดกับคนไม่มีมารยาท
ชอบทำอะไรให้เรารู้สึกหงุดหงิด บางครั้งยิ่งรู้ว่าเราไม่ชอบก็ยิ่งแกล้ง
เห็นเป็นเรื่องสนุก ทำให้เกิดความเกลียดขี้หน้ามากขึ้นทุกวัน
เลยอยากทราบว่าเขาจะได้รับผลกรรมอย่างไรจากความเป็นคนขี้แกล้งและไม่มีมารยาท
เผื่อจะลดความเกลียดลงได้บ้าง
>
จากหนังสือ เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว เล่มที่ ๗
ดังตฤณ:
คุณได้อยู่กับคนไม่มีมารยาทอย่างเขาเดี๋ยวเดียว อย่างมากก็วันละ ๘ ชั่วโมงในเวลาทำงาน แต่เขาต้องอยู่กับคนไม่มีมารยาทตลอดเวลา วันละ ๒๔ ชั่วโมงทั้งปี ผมว่าเขาเจอหนักกว่าคุณเยอะนะครับ แค่คิดอย่างนี้ก็น่าจะเป็นเหตุให้นึกเมตตา และลดความเกลียดเขาลงได้บ้างแล้ว
การจงใจแกล้งชาวบ้านเล่นเพื่อความบันเทิงส่วนตัว
หรือพูดง่ายๆว่าพอใจจะมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่นนั้น ดูเผินๆจะสนุกตอนได้ทำ
หรือสะใจตอนแกล้งสำเร็จ อย่างมากคนถูกแกล้งก็โมโหนิดหน่อย
และส่วนใหญ่จะไม่อยากถือสาหาความ เลยดูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่แท้จริงหากสามารถสัมผัสจิตของคนขี้แกล้งได้
คุณจะรู้สึกว่าความระริกระรี้ตอนแกล้ง
ที่แปรเป็นความอลหม่านฟุ้งซ่านหลังแกล้งสำเร็จ
ช่างไม่น่าพิสมัยเอาเลยสำหรับเจ้าตัวเอง คล้ายจิตของเขามีความคันแบบลิง
อยู่นิ่งเป็นสุขไม่ค่อยได้ จิตตั้งมั่นเป็นสมาธิยาก
และหากสั่งสมบาปเล็กบาปน้อยมากถึงจุดที่กลายเป็นเงาบาปใหญ่
เขาจะเป็นพวกชอบหาความเดือดร้อนให้ตัวเอง อยู่ดีไม่ว่าดี คิดผิด เลือกผิด
ตัดสินใจผิด แม้รู้ทั้งรู้ว่าผิดก็อุตส่าห์ดันทุรังทำ เหมือนใจเป็นศัตรูตัวเอง
อยากกลั่นแกล้งตัวเองให้ได้รับความเดือดร้อน นี่แหละครับผลกรรมของคนขี้แกล้ง
ในระยะยาวไม่มีนักแกล้งมนุษย์รายไหนอยู่เป็นสุขเลยสักคน
ส่วนผลของการเป็นคนไม่มีมารยาท
เขาก็ย่อมได้รับการสนองตอบจากสภาพแวดล้อมอย่างไม่มีมารยาทเช่นกัน
นับแต่เป็นผู้ไม่ได้รับการต้อนรับอย่างให้เกียรติ
ไปจนกระทั่งได้รับความจุกจิกกวนใจจากมดแมลงบนที่นอน ย้ายบ้านไปที่ไหนก็เจออยู่เรื่อย
ในขณะที่คนบ้านเดียวกันไม่ค่อยจะเจอกัน
ฉายภาพวิบากกรรมของคนขี้แกล้งไร้มารยาทให้ดูแล้ว
คราวนี้ขออนุญาตฉายภาพใกล้ตัวคุณสักนิดนะครับ
การเพ่งเล็งอยู่ว่าใครทำอะไรย่อมได้รับผลอย่างนั้น
เฉียดกันนิดเดียวระหว่างผู้มีอุเบกขามหากุศล กับผู้มีจิตคิดสาปแช่งให้ศัตรูมีอันเป็นไป
ที่คุณขอทราบผลกรรมของคนที่คุณเกลียด
เพื่อจะได้ลดความเกลียดลงนั้น
ขอให้สำรวจใจตัวเองดีๆว่ายังเจืออยู่ด้วยโทสะขณะถามหรือไม่
ได้รับคำตอบแล้วมีความสะใจหรือไม่
หากมีอยู่ก็แปลว่าคุณมีมูลรากของความเป็นนักเพ่งโทษ นักสาปแช่งแล้ว
เพราะคุณไม่มีทางลดความเกลียดลงได้ด้วยความสะใจกับการรู้ว่าศัตรูต้องเจอชะตากรรมเลวร้าย
จิตที่สะใจแบบนั้นชี้ชัดว่าคุณต้องมีความคิดอันเป็นอกุศล
เมื่อคิดเป็นอกุศลย่อมปรุงแต่งจิตให้อยู่ในสภาพที่มืด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อประกอบด้วยโสมนัส (กรณีนี้คือสะใจ) ก็ยิ่งขยายผลให้แรงเข้าไปใหญ่
เมื่อคิดเป็นอกุศล
ย่อมได้รับผลในทางไม่ดีเช่นกัน ไม่เว้นแม้กระทั่งคิดไม่ดีกับคนไม่ดี
ขอแนะนำว่าเพื่อฝึกตนให้เป็นผู้มีจิตอุเบกขาจริงๆ
คุณควรใส่ใจกับผลกรรมดีของผู้ที่คุณผูกพยาบาทหรือโกรธเกลียดก่อนเป็นอันดับแรก
เห็นว่าแม้คุณเกลียดก็ไม่อาจทำลายความสุขที่เขาควรได้รับจากความดีที่เขาสร้างทำมากับมือ
จากนั้นจึงค่อยหัดดูผลกรรมชั่วของผู้ที่คุณผูกสมัครรักใคร่เป็นอันดับต่อมา
เห็นว่าแม้คุณรักใครเพียงใดก็ไม่อาจทำลายความทุกข์ร้อนที่เขาควรได้รับจากไฟที่เขาก่อขึ้นมากับมือเช่นกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น