วันเสาร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

บุญที่ทำให้เสียงดี (ดังตฤณ)

ถาม : บุญที่ทำให้เสียงดีมีอะไรบ้างคะ?

> จากหนังสือ เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว เล่มที่ ๖

ดังตฤณ: 
มีวจีสุจริตเป็นสำคัญครับ วจีสุจริตคือเจตนาเลือกคำที่เป็นประโยชน์ไม่เป็นโทษต่อผู้อื่น หรือเจตนาบริสุทธิ์ที่จะทำให้ผู้ฟังสบายใจ แยกเป็นประเภทได้ ๔ คือ

1. เว้นจากการพูดเท็จ
เลือกกล่าวแต่คำที่เป็นจริง ตรงจริง ผลที่เห็นได้ทั้งปัจจุบันและอนาคตคือความหนักแน่นของน้ำเสียง เพราะการเลือกที่จะพูดความจริงในสถานการณ์ที่น่าโกหกเอาตัวรอดนั้น ถือเป็นการ ‘เข้าข้าง’ สัจจะความจริง พลังแห่งสัจจะความจริงย่อมย้อนมาเข้าถึงตัว เข้าถึงใจ และเข้าถึงน้ำเสียง หากเป็นผู้เว้นจากการพูดเท็จได้ตลอดชีวิต ก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้ตั้งมั่นในการไม่โกหก เงากรรมจะตามตัวไปปรุงแต่งแก้วเสียงให้หนักแน่นในชาติถัดไปด้วย

2. เว้นจากการพูดส่อเสียด
เลือกกล่าวแต่คำที่ทำให้ผู้ฟังสบายใจ คำที่ทำให้คนมองกันในทางดี คำที่ทำให้หมู่คณะเกิดความสมัครสมานสามัคคี ผลที่เห็นได้ทั้งปัจจุบันและอนาคตคือความนุ่มนวลของน้ำเสียง เพราะการเลือกที่จะพูดออมชอมเพื่อความปรองดองขณะอยู่ในสถานการณ์น่าพูดทิ่ม แทงให้เกิดความแตกร้าวนั้น จิตจะปรุงแต่งไปในทางราบรื่นเหมือนคนปรุงอาหารให้รสกลมกล่อม หากเป็นผู้เว้นขาดจากการพูดส่อเสียดได้ตลอดชีวิต ก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้ตั้งมั่นในการไม่นินทาว่าร้าย ไม่เป็นผู้ก่อความเจ็บใจด้วยคำพูด เงากรรมจะตามตัวไปปรุงแต่งแก้วเสียงให้นุ่มนวลในชาติถัดไปด้วย

3. เว้นจากการพูดหยาบ
เลือกกล่าวแต่คำที่สุภาพ ด้วยเจตนาจะทำให้ผู้ฟังรื่นหู ผลที่เห็นได้ทั้งปัจจุบันและอนาคตคือความไพเราะของน้ำเสียง ยิ่งถ้าหากผูกประโยคให้ฟังสละสลวย รู้จักคำมาก ฉลาดเลือกคำให้ฟังดี ไพเราะแบบไม่ขาดไม่เกิน ก็จะยิ่งปรุงแต่งให้แก้วเสียงเพราะพริ้งยิ่งๆขึ้น หากเป็นผู้เว้นขาดจากการพูดหยาบคายได้ตลอดชีวิต ก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้ตั้งมั่นในการเป็นคนสุภาพ ไม่เป็นผู้ก่อความระคายโสตด้วยวาจาอัปมงคล เงากรรมจะตามตัวไปปรุงแต่งให้กังวานเสียงสดใสในชาติถัดไปด้วย

4. เว้นจากการพูดพล่ามเพ้อเจ้อ
เลือกกล่าวแต่คำที่ก่อให้เกิดสติ เมื่อคุณพูดอย่างมีสติ กระแสสติของคุณย่อมช่วยให้ผู้ฟังพลอยเกิดสติตามไปด้วย ยิ่งถ้าเป็นไปด้วยเจตนาให้สติแก่คนอื่นอยู่เนืองๆ ผลอันเป็นสติก็ย่อมตกแก่คุณอย่างแจ่มชัด ความมีสติจะปรุงแต่งเสียงให้คมชัด กล่าวถ้อยคำต่างๆได้ชัดเจนแม้จะเป็นภาษาที่ยากแก่การออกเสียง หากเป็นผู้เว้นขาดจากการพูดพล่ามเพ้อเจ้อได้ตลอดชีวิต ก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้ตั้งมั่นในการเป็นคนมีสติในการเจรจา ไม่เป็นผู้ก่อความฟุ้งซ่านให้ตนเองและใครๆด้วยวาจาเลื่อนลอยหาสาระมิได้ เงากรรมจะตามตัวไปปรุงแต่งแก้วเสียงให้คมชัด เป็นกังวานทรงพลังและมีความน่าเชื่อถือยิ่งในชาติถัดไปด้วย

นอกจากวจีสุจริตข้างต้นแล้ว ยังมีกรรมทางวาจาอื่นๆที่เป็นปัจจัยแก่คุณภาพเสียง เช่น

1.  ป่าวร้องชวนคนไปฟังธรรม
สมัยก่อนเมื่อถึงเวลาพระพุทธเจ้าแสดงธรรม จะมีธรรมเนียมซึ่งกลุ่มคนประเภทหนึ่งชอบทำกัน นั่นคือร้องเรียกคนในบ้าน หรือร้องเรียกญาติมิตรในบ้านใกล้เรือนเคียง ทำนอง ‘เจ้าข้าเอ๊ย! พระพุทธเจ้าจะแสดงธรรมแล้ว พวกเราไปฟังกันเพื่อประโยชน์ในชาตินี้และชาติหน้ากันเถอะ’ การชักชวนด้วยวาจาด้วยเสียงคะยั้นคะยออันเจือด้วยความปรารถนาดีทำนองนี้ จะทำให้เป็นผู้มีแก้วเสียงที่ดังได้ตามปรารถนา คืออยากพูดให้ค่อยก็ได้ อยากพูดให้ดังไปทั้งคุ้งน้ำก็ได้
คน พวกนี้พอเกิดใหม่มักมีเสียงเป็น เสน่ห์ดึงดูดความสนใจได้เฉียบพลัน เรียกชื่อใครคนนั้นสะท้านไหวได้ถึงจิตถึงใจ ถ้าอยากจับความสนใจของคนหมู่มากก็แค่กำหนดเปล่งเสียงให้กว้างไกล หรืออยากคุมทิศทางผู้คนหมู่มากก็แค่ส่งพลังเสียงสะกดหน่อยเดียว พวกนี้จึงง่ายต่อการเป็นผู้มีอัตตาสูงด้วยการใช้เสียง ภูมิใจในเสียง หรืออาจถึงขั้นเชื่อมั่นในตนเองเกินเหตุ และมักอยากให้ผู้คนในวงกว้างได้ยินเสียงอันทรงพลังเปี่ยมประกาศิตของตน

2.  รักษาสัจจะยิ่งชีพ
ปากกับใจตรงกัน พูดคำไหนเป็นคำนั้น ประกาศคำใดแล้วไม่ถอนคำเด็ดขาด จะเป็นเหตุให้มีเสียงประกาศิต กับทั้งเกิดญาณหยั่งรู้ว่าคำใดกล่าวได้ คำใดกล่าวไม่ได้ เรื่องใดจะเกิดบางทีพูดออกมาได้เองตามความเหมาะสม จึงเหมือนเป็นผู้ที่พูดแช่งหรืออวยพรใครแล้วปรากฏผลตามนั้นเสมอ
นอก จากนั้นพวกที่รักษาสัตย์จนเกิด พลังภายใน บางทีก็มีจริงนะครับที่สามารถใช้วาจาเป็นอาวุธได้ คล้ายนักกล้ามที่ฝึกยกน้ำหนักจนกล้ามเนื้อโตผิดผู้ผิดคน ย่อมยกของที่คนทั่วไปยกไม่ไหว หรือออกแรงทำอะไรที่ไม่มีใครเชื่อว่ามนุษย์ทำได้ พอโกรธใครแล้วฟาดคำแช่งเปรี้ยงไปที่ใคร คนนั้นอาจเคราะห์ร้ายตามคำแช่งหรือใกล้เคียงคำแช่งได้ ขึ้นอยู่กับว่าคนถูกแช่งมีบุญคุ้มอยู่แค่ไหน หากบุญน้อยกว่าก็แย่หน่อย เหมือนนักเรียนประถมถูกรุ่นพี่มัธยมตบเบาะๆก็คว่ำคะมำ หากบุญเสมอกันก็อาจไม่เกิดอะไรขึ้น เหมือนคนแรงเท่ากันงัดข้อก็กินกันลงยาก แต่หากบุญมากกว่า คนแช่งนั่นแหละจะซวยเป็นทวีคูณ เหมือนนักมวยผอมแห้งแรงน้อยหาญกล้าไปชกกับนักมวยปล้ำร่างยักษ์

อย่างไรก็ต้องเข้าใจอย่างถูกต้อง ด้วยนะครับ ผู้แช่งย่อมได้ชื่อว่ากล่าววาจาอันประกอบด้วยโทสะ ผลของการมีโทสะรุนแรงเป็นอย่างไร ผู้แช่งย่อมได้รับผลเช่นนั้น ไม่ว่าจะเป็นความเร่าร้อนภายในหรือความเดือดร้อนที่ภายนอก และยิ่งจะเผ็ดร้อนรุนแรงกว่าคนทั่วไปที่ปราศจากวาจาสิทธิ์เป็นสิบเป็นร้อย เท่า ส่วนผู้อวยพรย่อมได้ชื่อว่ากล่าววาจาอันประกอบด้วยเมตตา ผลย่อมเป็นตรงข้ามคือเย็นทั้งนอกทั้งใน ไม่รู้จักความเดือดเนื้อร้อนใจได้ง่ายนัก

3. สอนด้วยเสียง
เมื่อมีความรู้ มีความเข้าใจใดๆ แล้วเกิดความปรารถนาดี ใคร่อยากให้ผู้อื่นรู้ตาม แล้วถ่ายทอดให้ผู้อื่นโดยไม่หวงแหน ฉลาดเลือกคำผูกประโยคให้ฟังง่าย เข้าใจเร็ว จะมีผลให้น้ำเสียงฟังขลัง ฟังศักดิ์สิทธิ์
ระหว่าง สอนทางโลกกับสอนทางธรรม สอนทางธรรมจะปรุงแต่งน้ำเสียงให้ฟังขลังกว่า มีความศักดิ์สิทธิ์มากกว่า แต่จะเห็นชัดในชาติถัดไป นับจากเมื่อรู้ความและพูดเป็น คำพูดจะฟังน่าทึ่ง ชวนให้ผู้ใหญ่ฉงน เมื่อเติบใหญ่ขึ้นจะมีคุณลักษณ์เกี่ยวกับเสียงดีพร้อมทุกแง่ทุกมุม เป็นใหญ่เหนือวิบากที่มาจากวจีสุจริตทุกชนิด

เนื่องจากเสียงเป็นรูปธรรม ชนิดหนึ่ง เพราะมีต้นแหล่งเช่นปากคอเป็นรูปธรรม ฉะนั้นนอกจากเรื่องของกรรมวิบากแล้ว ยังมีเรื่องของรูปธรรมด้วยกันเป็นเหตุปัจจัยสนับสนุนหรือส่งเสริมคุณภาพได้ เช่นดื่มน้ำอุ่น น้ำมะนาว น้ำมะขามป้อม และผลไม้รสเปรี้ยวทั้งหลาย

อ้อ! การฝึกพูดธรรมดาๆ ถ้าหากก่อให้เกิดสติ รู้จักจังหวะจะโคน ฝึกกระดกลิ้นออกเสียงควบกล้ำชัดๆ ตัวสติและความถูกต้องในการออกเสียงก็มีส่วนปรุงเสียงให้น่าฟังขึ้นได้เหมือน กันนะครับ แม้สติไม่อาจปรุงแต่งแก้วเสียงให้ใสกิ๊กได้เท่าวิบากทางวจีสุจริต แต่อย่างน้อยก็ทำให้ดีขึ้นแบบทันตาเห็นได้แล้ว
บุญที่ทำให้เสียงดี


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น