ถาม : พวกปากอย่างใจอย่าง ประเภทปากหวานก้นเปรี้ยว
จะมีผลอย่างใดอย่างหนึ่งกับเสียงไหมครับ?
>
จากหนังสือ เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว เล่มที่ ๖
ดังตฤณ:
ทำความเข้าใจแบบครอบจักรวาลไปเลยดีกว่าครับ
จะได้มีอุเบกขา ไม่เกิดอคติเพราะเกลียด ถ้าอคติเพราะเกลียดเสียแล้ว เราก็ต้องเข้าใจว่าวิบากของเขาคงเป็นอะไรแย่ๆแต่ถ่ายเดียว
แม่บทสำคัญของกรรมเกี่ยวกับเสียงนี่นะครับ
เมตตาที่เจืออยู่ในจิตขณะพูดจาจะทำให้เสียงหวานเป็นกังวานเพราะ
ทุกคำฟังปลอดโปร่งไร้สิ่งแอบแฝง ส่วนโทสะทำให้เสียงห้วนดุทิ่มแทงโสต
ทุกคำเหมือนอัดแน่นอยู่ด้วยดินระเบิดที่พร้อมระเบิดเมื่อกดถูกปุ่ม
นี่เป็นสิ่งที่เห็นประจักษ์ได้ในปัจจุบัน
และจะปรากฏชัดขึ้นอีกหากทำตลอดชีวิตแล้วตายไป ได้อัตภาพใหม่ขึ้นมา
คนส่วนใหญ่อยู่ตรงกลางๆระหว่างเมตตากับพยาบาท
ใครดีมาก็ดีตอบ ใครร้ายมาก็ร้ายกลับ หายากที่ตั้งจิตไว้ว่าจะพูดจาบนฐานของเมตตาให้ตลอด
ไม่ว่าใครจะเข้ามาท่าไหนฉันพูดดีด้วยหมด
แล้วก็หายากครับที่ตั้งจิตไว้ว่าจะพูดจากราดเกรี้ยวท่าเดียว ใครมาดีมาร้าย
ต่อให้พระสงฆ์องค์เจ้าฉันเล่นงานหมด
และเพราะคนส่วนใหญ่พูดแบบครึ่งๆกลางๆ
ก็เลยปนๆกัน เสียงคนทั่วไปจึง ‘ธรรมดา’ ไม่มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษ
นานๆจึงเห็นใครสักคนเสียงหวานเป็นพิเศษ หรือเสียงแหบห้วนผิดปกติมนุษย์มนาเขา
ย้อนกลับมาที่ประเด็นปากหวานก้นเปรี้ยว
ขอให้พิจารณาว่าการพูดจาอ่อนหวานนั้น ถ้าหวานจริงแล้ว อย่างไรก็ต้องใช้ใจ
ใช้กระแสเมตตาจากจิตในระดับหนึ่ง แม้มือซ่อนมีดไว้ด้านหลัง หรือมีแผนร้ายเก็บงำอยู่ในใจ
วจีกรรมที่ดีก็ย่อมเป็นกรรมดี เป็นต่างหากจากมโนกรรม
อย่างที่เรียกว่าต่างกรรมต่างวาระ
สมมุติว่ามีเซลคนหนึ่ง
กะมาหลอกขายสินค้าคุณภาพต่ำด้วยราคาแพง
เจตนานั้นกึ่งๆกันอยู่ระหว่างอยากฟันกำไรเกินเหตุกับคิดคดฉ้อฉล
เขาไม่ถึงกับปล้นเงินคุณ แต่เขาก็ไม่ได้ให้ความยุติธรรมกับคุณ
ตรงนั้นจิตของเขาเป็นอกุศล แต่ไม่ถึงกับเป็นกรรมดำสนิท
ทีนี้ตอนพูดตะล่อม
เขาอาจมีศิลปะการเจรจาหว่านล้อม มีวาทศิลป์น่าประทับใจ พูดแต่ละคำน่าฟัง มีมุข
มีลูกเล่นลูกหยอดให้คุณหัวเราะได้ตลอด อาจชวนคุณคุยเกี่ยวกับตัวคุณเอง คุยเกี่ยวกับดินฟ้าอากาศ
หรือถกปัญหาการบ้านการเมืองเสียกว่าครึ่ง แทบไม่พูดถึงสินค้าเลย
จนคุณเกิดความเอ็นดูและเลื่อมใส
นึกอยากอุดหนุนเขาโดยไม่ค่อยสนใจรายละเอียดสินค้ามากนัก
ช่วงที่เขาไม่พูดถึงสินค้าเลย
ใจเขาไม่ได้คิดคด เขาคิดถึงแต่คำพูดดีๆ คำพูดเพราะๆที่ฟังรื่นหู
ใจต้องอยากให้คนฟังเป็นสุขกับคำพูดของตน อันนั้นเข้าข่ายพูดอย่างมีเมตตา
จิตเป็นกุศล หากเขาพูดของเขาอย่างนั้นเป็นนิสัย เมตตาย่อมมีพลัง
เวลาพูดย่อมเกิดประกายเสน่ห์ โน้มน้าวให้คนฟังเกิดความเอ็นดู
สรุปคือวิบากของการพูดอย่างมีเมตตาย่อมทำให้เสียงเขาดี เสียงเขาน่าฟัง
เขาอยากขายอะไรคนก็ต้องการซื้อ หรืออย่างน้อยก็มีใจโน้มเอียงที่จะซื้อ
นั่นคือสิ่งที่เขาได้จากการพูดดี พูดเป็น พูดเก่ง
แต่ส่วนใจที่คิดเอาเปรียบผู้ซื้อ
ปิดบังความไม่ยุติธรรมไว้ด้วยลีลาเจรจาเหนือชั้น อันนั้นเขาก็ต้องได้รับผลไป
คุณลองถามเซลกะล่อนๆที่พอรู้จักและคุยอย่างเปิดอกดูแล้วกัน
เงินที่ได้มามักเป็นเงินร้อน ได้มาต้องจ่ายไป แล้วก็ต้องมีเหตุให้จ่ายมาก
จ่ายอย่างไม่สมควรจะต้องจ่ายบานตะไท
ส่วนปากหวานก้นเปรี้ยวอีกประเภทหนึ่ง
คือแกล้งพูดดีต่อหน้า แล้วเอาไปนินทาลับหลัง อันนั้นถ้าการแกล้งพูดดี พูดป้อยอ
พูดให้นึกว่าเป็นมิตร โดยไม่มีน้ำจิตเมตตาอยู่เลย เมื่อกรรมได้เวลาเผล็ดผลเมื่อใด วิบากดำจะตกแต่งเสียงให้ฟังดูดัดจริต
ฟังแล้วอึดอัด หรือฟังแล้วน่าหมั่นไส้ แม้จะพูดปกติก็ระคายน่ารำคาญ
หรือแม้ตั้งใจพูดดีกับญาติพี่น้องที่ตนรัก ญาติๆก็กลับนึกว่าไม่จริงใจ
ฟังอะไรพานให้เข้าใจผิดตลอด
สรุปอันเป็นที่สุดเกี่ยวกับเรื่องของเสียงนั้น
เชื่อพระพุทธเจ้าท่านเถิดครับ มีวจีกรรมที่เป็นสุจริตให้มากที่สุด
ทั้งเลือกพูดคำจริง เลือกพูดคำที่ไพเราะ
เลือกพูดคำที่ประกอบด้วยประโยชน์ปราศจากโทษ เลือกพูดคำที่ประสานสามัคคี และเลือกพูดคำที่ก่อให้เกิดสติไม่ชวนกันเพ้อเจ้อเลื่อนเปื้อน
แล้วผลดีจะไม่ใช่มีแค่เรื่องของเสียง
แต่ยังเป็นสิ่งแวดล้อมในชีวิตที่วิเศษยิ่งๆขึ้นไปอีกด้วย
________________
คลิกที่คำถามเพื่ออ่านต่อ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น