วันเสาร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ปากกับใจไม่ตรงกันมีผลกับเสียงอย่างไร (ดังตฤณ)

ถาม : พวกปากอย่างใจอย่าง ประเภทปากหวานก้นเปรี้ยว จะมีผลอย่างใดอย่างหนึ่งกับเสียงไหมครับ?

> จากหนังสือ เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว เล่มที่ ๖

ดังตฤณ: 
ทำความเข้าใจแบบครอบจักรวาลไปเลยดีกว่าครับ จะได้มีอุเบกขา ไม่เกิดอคติเพราะเกลียด ถ้าอคติเพราะเกลียดเสียแล้ว เราก็ต้องเข้าใจว่าวิบากของเขาคงเป็นอะไรแย่ๆแต่ถ่ายเดียว

แม่บทสำคัญของกรรมเกี่ยวกับเสียงนี่นะครับ เมตตาที่เจืออยู่ในจิตขณะพูดจาจะทำให้เสียงหวานเป็นกังวานเพราะ ทุกคำฟังปลอดโปร่งไร้สิ่งแอบแฝง ส่วนโทสะทำให้เสียงห้วนดุทิ่มแทงโสต ทุกคำเหมือนอัดแน่นอยู่ด้วยดินระเบิดที่พร้อมระเบิดเมื่อกดถูกปุ่ม นี่เป็นสิ่งที่เห็นประจักษ์ได้ในปัจจุบัน และจะปรากฏชัดขึ้นอีกหากทำตลอดชีวิตแล้วตายไป ได้อัตภาพใหม่ขึ้นมา

คนส่วนใหญ่อยู่ตรงกลางๆระหว่างเมตตากับพยาบาท ใครดีมาก็ดีตอบ ใครร้ายมาก็ร้ายกลับ หายากที่ตั้งจิตไว้ว่าจะพูดจาบนฐานของเมตตาให้ตลอด ไม่ว่าใครจะเข้ามาท่าไหนฉันพูดดีด้วยหมด แล้วก็หายากครับที่ตั้งจิตไว้ว่าจะพูดจากราดเกรี้ยวท่าเดียว ใครมาดีมาร้าย ต่อให้พระสงฆ์องค์เจ้าฉันเล่นงานหมด

และเพราะคนส่วนใหญ่พูดแบบครึ่งๆกลางๆ ก็เลยปนๆกัน เสียงคนทั่วไปจึง ‘ธรรมดา’ ไม่มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษ นานๆจึงเห็นใครสักคนเสียงหวานเป็นพิเศษ หรือเสียงแหบห้วนผิดปกติมนุษย์มนาเขา

ย้อนกลับมาที่ประเด็นปากหวานก้นเปรี้ยว ขอให้พิจารณาว่าการพูดจาอ่อนหวานนั้น ถ้าหวานจริงแล้ว อย่างไรก็ต้องใช้ใจ ใช้กระแสเมตตาจากจิตในระดับหนึ่ง แม้มือซ่อนมีดไว้ด้านหลัง หรือมีแผนร้ายเก็บงำอยู่ในใจ วจีกรรมที่ดีก็ย่อมเป็นกรรมดี เป็นต่างหากจากมโนกรรม อย่างที่เรียกว่าต่างกรรมต่างวาระ

สมมุติว่ามีเซลคนหนึ่ง กะมาหลอกขายสินค้าคุณภาพต่ำด้วยราคาแพง เจตนานั้นกึ่งๆกันอยู่ระหว่างอยากฟันกำไรเกินเหตุกับคิดคดฉ้อฉล เขาไม่ถึงกับปล้นเงินคุณ แต่เขาก็ไม่ได้ให้ความยุติธรรมกับคุณ ตรงนั้นจิตของเขาเป็นอกุศล แต่ไม่ถึงกับเป็นกรรมดำสนิท

ทีนี้ตอนพูดตะล่อม เขาอาจมีศิลปะการเจรจาหว่านล้อม มีวาทศิลป์น่าประทับใจ พูดแต่ละคำน่าฟัง มีมุข มีลูกเล่นลูกหยอดให้คุณหัวเราะได้ตลอด อาจชวนคุณคุยเกี่ยวกับตัวคุณเอง คุยเกี่ยวกับดินฟ้าอากาศ หรือถกปัญหาการบ้านการเมืองเสียกว่าครึ่ง แทบไม่พูดถึงสินค้าเลย จนคุณเกิดความเอ็นดูและเลื่อมใส นึกอยากอุดหนุนเขาโดยไม่ค่อยสนใจรายละเอียดสินค้ามากนัก

ช่วงที่เขาไม่พูดถึงสินค้าเลย ใจเขาไม่ได้คิดคด เขาคิดถึงแต่คำพูดดีๆ คำพูดเพราะๆที่ฟังรื่นหู ใจต้องอยากให้คนฟังเป็นสุขกับคำพูดของตน อันนั้นเข้าข่ายพูดอย่างมีเมตตา จิตเป็นกุศล หากเขาพูดของเขาอย่างนั้นเป็นนิสัย เมตตาย่อมมีพลัง เวลาพูดย่อมเกิดประกายเสน่ห์ โน้มน้าวให้คนฟังเกิดความเอ็นดู สรุปคือวิบากของการพูดอย่างมีเมตตาย่อมทำให้เสียงเขาดี เสียงเขาน่าฟัง เขาอยากขายอะไรคนก็ต้องการซื้อ หรืออย่างน้อยก็มีใจโน้มเอียงที่จะซื้อ นั่นคือสิ่งที่เขาได้จากการพูดดี พูดเป็น พูดเก่ง

แต่ส่วนใจที่คิดเอาเปรียบผู้ซื้อ ปิดบังความไม่ยุติธรรมไว้ด้วยลีลาเจรจาเหนือชั้น อันนั้นเขาก็ต้องได้รับผลไป คุณลองถามเซลกะล่อนๆที่พอรู้จักและคุยอย่างเปิดอกดูแล้วกัน เงินที่ได้มามักเป็นเงินร้อน ได้มาต้องจ่ายไป แล้วก็ต้องมีเหตุให้จ่ายมาก จ่ายอย่างไม่สมควรจะต้องจ่ายบานตะไท

ส่วนปากหวานก้นเปรี้ยวอีกประเภทหนึ่ง คือแกล้งพูดดีต่อหน้า แล้วเอาไปนินทาลับหลัง อันนั้นถ้าการแกล้งพูดดี พูดป้อยอ พูดให้นึกว่าเป็นมิตร โดยไม่มีน้ำจิตเมตตาอยู่เลย เมื่อกรรมได้เวลาเผล็ดผลเมื่อใด วิบากดำจะตกแต่งเสียงให้ฟังดูดัดจริต ฟังแล้วอึดอัด หรือฟังแล้วน่าหมั่นไส้ แม้จะพูดปกติก็ระคายน่ารำคาญ หรือแม้ตั้งใจพูดดีกับญาติพี่น้องที่ตนรัก ญาติๆก็กลับนึกว่าไม่จริงใจ ฟังอะไรพานให้เข้าใจผิดตลอด


สรุปอันเป็นที่สุดเกี่ยวกับเรื่องของเสียงนั้น เชื่อพระพุทธเจ้าท่านเถิดครับ มีวจีกรรมที่เป็นสุจริตให้มากที่สุด ทั้งเลือกพูดคำจริง เลือกพูดคำที่ไพเราะ เลือกพูดคำที่ประกอบด้วยประโยชน์ปราศจากโทษ เลือกพูดคำที่ประสานสามัคคี และเลือกพูดคำที่ก่อให้เกิดสติไม่ชวนกันเพ้อเจ้อเลื่อนเปื้อน แล้วผลดีจะไม่ใช่มีแค่เรื่องของเสียง แต่ยังเป็นสิ่งแวดล้อมในชีวิตที่วิเศษยิ่งๆขึ้นไปอีกด้วย

________________

คลิกที่คำถามเพื่ออ่านต่อ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น