วันศุกร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2564

ไม่ชอบเวลาพระเอ่ยขอปัจจัย บาปไหม วางใจอย่างไร

ดังตฤณ : นี่แหละ ตรงนี้นี่ ถึงเป็นเหตุให้พระพุทธเจ้าท่านบัญญัติวินัยไว้ว่า จะขออะไรจากญาติโยมนี่เขาต้องปวารณาไว้ก่อน

 

คือมีการไปเอ่ยปากบอกไว้ก่อนว่า ยินดีที่จะถวายทุกสิ่งที่ต้องการ หรือว่าตามที่จะช่วยเหลือได้

 

แล้วนอกจากนั้นนะคือ สมมุติว่าได้เอ่ยปากปวารณาไปแล้วนี่ ยังมีระยะเวลานะ คือมีอายุขัยด้วยนะ ไม่ใช่ว่า ญาติโยมมาปวารณาบอกจะให้อะไรก็ตามที่ท่านขอมา แล้วขอได้ตลอดชีวิต ไม่ใช่นะ มีระยะเวลา ผมจำรายละเอียดไม่ได้ หนึ่งเดือน หรือสามเดือนอะไรอย่างนี้ มีหมดอายุด้วย

 

ทีนี้ ถ้าอยู่ๆ บางทีไม่รู้จักกัน แล้วมาขอนี่ คุณบอกวินัยข้อนี้ให้พระทราบได้เลยว่า ท่านเจ้าคะ พระพุทธเจ้าบัญญัติไว้ ถ้าไม่รู้ ขอให้รู้ไว้ว่า ท่านไม่ให้ขอญาติโยมก่อน โดยที่ญาติโยมไม่ได้ปวารณาไว้

 

เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องที่บางทีพูดยากมาก เพราะพระสมัยนี้คือจะบวชกันอย่างเดียว ไม่ศึกษาวินัย พระที่รู้วินัยจริงๆ มีอยู่มากนะ ไม่ใช่น้อยนะ  ขออย่ามองเหมารวมนะ พระที่รู้วินัยจริงๆ มีอยู่มาก แล้วก็ยังปฏิบัติตามวินัย ก็ยังมีอยู่มาก

 

แต่เรา ในฐานะฆราวาสนี่แหละ บางทีต้องบอกแก่พระที่ไม่รู้ หรือว่าจงใจทำเป็นไม่รู้ เพื่อให้เกิดความอาย หรือไม่ เราไม่ต้องตั้งใจให้ท่านเก้อเขินก็ได้ แต่ตั้งใจให้ท่านรับรู้ว่ามีวินัยข้อนี้อยู่นะครับ

 

อันนี้ พูดง่ายๆ ว่าที่แอบคิดนี่ เป็นความรู้สึกไม่ดี เป็นอกุศล เป็นสิ่งที่ในสมัยพุทธกาลเขาก็เป็นกัน แล้วมีพระวินัยหลายๆ ข้อที่พระพุทธเจ้าบัญญัติขึ้นมาจากการที่ญาติโยมนี่ ไปทูลฟ้อง บอกว่าเห็นพระทำแบบนี้รู้สึกไม่ดีเลยนะ พระพุทธเจ้าก็บัญญัติวินัยขึ้นมาทันที

 

แม้กระทั่งสิ่งที่พระอรหันต์ ท่านพลาดทำไป อย่างเช่นไปสอนในสำนักของภิกษุณี จนกระทั่งเย็นย่ำค่ำมืด ชาวบ้านเห็นแล้วก็ติเตียน มีความรู้สึกไม่ดีว่า โอ้โหออกจากสถานที่ที่มาตุคามอยู่ คือ แม้แต่เป็นภิกษุณีก็ถือว่าเป็นมาตุคาม ก็รู้สึกไม่ดี

 

พอไปทูลขอพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้ายกขึ้นมาเป็นประเด็น แล้วก็บัญญัติวินัยทันทีว่า ห้ามไม่ให้ภิกษุไปเทศน์โปรดภิกษุณี จนกระทั่งเย็นย่ำค่ำมืด มีกำหนดเวลาชัดเจนนะว่า แสงตะวันยังส่องอยู่ ต้องออกมาก่อนที่จะโพล้เพล้

 

คือสมัยนี้ไม่สนใจกันเท่าไหร่ว่า ฆราวาสจะรู้สึกอย่างไร สนใจแค่ว่า น่าจะทำได้แล้วก็ทำ

 

เราในฐานะอุบาสก อุบาสิกา ก็มีหน้าที่เช่นกัน คือเวลาที่ท่านทำไม่ถูกต้อง ท่านทำผิดวินัย ถ้าเราไม่บอกแล้วท่านจะรู้ได้อย่างไรใช่ไหม

 

อันนี้ก็ต้องคิดว่าเป็นหน้าที่ของเราเหมือนกัน ที่จะช่วยทำให้พระศาสนาได้อยู่ยงคงกระพัน โดยที่ชาวบ้านเรา ซึ่งเป็นคนเลี้ยงพระ.. มีหน้าที่เลี้ยงพระ มีหน้าที่เลี้ยงดูปูเสื่อ มีหน้าที่ทำให้ท่านมีกำลังวังชาที่จะสืบทอดศาสนาต่อ ด้วยการปฏิบัติจริง ต้องช่วยๆ กันพูด ช่วยกันให้ความรู้นะครับ

_________________

ถ้ามีพระเอ่ยขอรับปัจจัยเพื่อซื้อย่ามหรือของบางอย่างเพื่อใช้งาน...เราถวายปัจจัยให้แต่แอบคิดติดอยู่ในใจ ไม่ค่อยชอบเวลาที่มีพระเอ่ยแบบนี้จะบาปไหมคะ? แล้วควรตั้งจิตแบบไหนดีคะ?

รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน ตอน หาชุดหมีให้ (พี่) หมอ อีกครั้ง

วันที่ 17 เมษายน 2564

ถอดคำ : เอ้

รับชมคลิป : https://www.youtube.com/watch?v=iaByiAYj82w

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น