วันศุกร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2564

แนวทางทำสมาธิบริกรรมพุทโธ แบบถูกต้อง

ดังตฤณ : นานๆ เจอทีนะ คนที่ บริกรรมพุทโธ แล้วได้ผลเป็นแบบนี้

 

ได้ผลแบบนี้ หมายความว่า

พุทโธของคุณ เป็นพุทโธที่นำมาสู่สติจริงนะ

 

ครูบาอาจารย์พระป่า ท่านสอน แต่คนฟังจะไม่ค่อยได้ยิน

คือท่านไม่ได้สอนแค่ให้พุทโธ

ท่านสอนแบบมีแผนที่ให้ด้วยว่า

เมื่อพุทโธๆ ไปเรื่อยๆ แล้ว

ถึงจุดหนึ่ง พุทโธจะหายไป เหลือแต่จิต

ให้ดูความปรุงแต่งของจิตต่อ

 

พอจิตบริกรรมพุทโธไปถี่ๆ รัวๆ

สิ่งที่จะเกิดขึ้นเป็นอันดับแรกๆ ก็คือว่า

เราจะเปลี่ยนจากความคิดแบบสุ่ม

เป็นความคิดที่มีความแน่นอน

 

จากเดิม ธรรมชาติของความคิด

ที่ก่อให้เกิดความฟุ้งซ่านในคนทั่วไป

คือสามารถคิดได้ไม่จำกัด

คิดได้แบบไม่ต้องเป็นเหตุเป็นผล

คิดได้แบบไม่มีเป้าหมาย อยากจะคิดอะไรก็คิด

นี่เป็นต้นเหตุของความฟุ้งซ่าน

 

แต่พอมาบริกรรมคำว่า พุทโธ

หมวดความคิดจะเปลี่ยน จากคิดส่งเดช คิดสุ่ม

กลายเป็นมีความคิดแน่นอน

มีลักษณะที่เราอยู่กับความชัดเจน ว่า

เราจะเอาคำว่า พุทโธ อย่างเดียว

 

พอ พุทโธๆ ไป จะเกิดอาการที่จิตเดินเป็นเส้นตรง

ไม่เดินเหมือนกับวงกลม พายเรืออยู่ในอ่าง

ไม่มีอาการกระเจิดกระเจิง ไปหาเรื่องโน้นเรื่องนี้ตามใจชอบ

อย่างนี้เรียกว่า เป็นลักษณะของจิตฟุ้งซ่าน

 

พอมาบริกรรมพุทโธๆ จะเปลี่ยนจากอาการเลื่อนลอย

เปลี่ยนจากอาการพายเรืออยู่ในอ่าง เป็นการเดินแบบเส้นตรง

ซึ่งก็มีผลปรุงแต่งจิต ให้เกิดความเป็นสมาธิมากขึ้นๆ

แล้วพอจิตเป็นสมาธิถึงจุดหนึ่ง จะไม่เอาความคิด

นั่นแหละเป็นเหตุผลว่าทำไม พอเกิดสมาธิแล้ว คำว่าพุทโธถึงหายไป

 

คำว่าพุทโธหายไป เมื่อจิตเป็นสมาธิ

คำว่าพุทโธหายไป เมื่อจิตไม่เอาความคิดแล้ว

 

เสร็จแล้วพอจิตที่ว่างๆ จากความคิดนั้น กลับมาคิดใหม่

รอบความคิดกลับมาใหม่ ก็เลยเห็นชัด เห็นถนัดว่า ความคิดกลับมา

 

ตอนความคิดกลับมาแล้วเรารู้ว่า นี่เรียกว่า ความคิด

เป็นภาวะหนึ่ง เป็นแค่ส่วนเกินที่มากระทบจิต

เป็นภาวะอะไรที่ชั่วคราว ที่อยู่ๆ โผล่ขึ้นมาแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้

แล้วจิตรับรู้ แล้วก็ผ่านไป

 

อย่างนี้ จะเริ่มกลายเป็นการสะสมความเห็นว่า

ความคิดไม่เที่ยง ความคิดไม่ใช่ตัวของเรา

 

ถ้าความคิดเป็นตัวของเรา ต้องอยู่กับตัวเราตลอด

แต่นี่ความคิดลอยมา แล้วลอยไป กระทบจิตแป๊บหนึ่ง แล้วหายไป

 

แล้วความคิดของคนๆ หนึ่ง สามารถเปลี่ยนข้าง

สามารถเปลี่ยนความเชื่อ สามารถเปลี่ยนความรู้ความจำไปได้ตลอด

 

ตรงนี้ยิ่งเราเห็นมากขึ้นเท่าไหร่ เห็นชัดเจนขึ้นเท่าไหร่

ยิ่งเกิดปัญญาขึ้นมาในจิต

ปัญญาแบบพุทธ เห็นว่า

ความคิดเป็นแค่สภาวะธรรม ไม่ใช่ตัวตน

 

ที่เราทึกทักมาตลอดชั่วกัปชั่วกัลป์ว่า

ความคิดคือตัวเรา ตัวเราคือความคิด

เป็นการหลงผิด เป็นการหลงยึดของจิต

ที่มองไม่เห็นความไม่เที่ยงของความคิด

 

อันนี้แหละคือสิ่งที่ครูบาอาจารย์พระป่าท่านสอนแบบครบสูตรนะ

 

พุทโธ ไม่ใช่เอาแค่พุทโธอย่างเดียว

แต่เอาหลังพุทโธหายไปด้วย

 

ซึ่งคนที่จะไปถึงจุดที่พุทโธหายไป

ก็ต้องภาวนาพุทโธแบบที่จะทำให้เกิดสมาธิ

 

วิธีง่ายๆ ที่จะบริกรรมพุทโธให้เกิดสมาธิ

สำหรับคนทั่วไปนะครับที่อาจยังไม่มีอุบายชัดเจน

 

ขอให้ดู .. ผมเขียนแค่คำว่า “พุทโธ พุทโธ พุทโธ” ขึ้นมานี่

(ภาพตัวอักษร ขนาดเท่ากัน มีคำว่า พุทโธ อยู่ สามคำ)

แล้วเวลาคุณอ่าน ไม่ว่าจะอ่านจากกระดาษ หรืออ่านจากหน้าจอนี่นะ

จะมีเสียงในหัวผุดขึ้นมา พุทโธๆ เหมือนตอนคุณอ่านหนังสือ

 

ลักษณะของพุทโธที่เป็นเสียงกระซิบผุดขึ้นมาในหัว

เท่าเดิมสม่ำเสมอ เป็นแค่เสียงกระซิบ

ไม่มีเสียงโฉ่งฉ่าง ไม่มีเสียงแผ่วไป

เป็นเสียงกระซิบที่มีความสม่ำเสมอ

ตัวนี้แหละ ที่จะทำให้เกิดภาวะที่เป็นสมาธิขึ้นมา

 

ขอให้ดูว่า ที่สะกด “พุทโธ พุทโธ พุทโธ”

แล้วมีเสียงในหัวขึ้นมาอย่างไร

ให้จำเสียงในหัวนั้นไว้ แล้วให้ผุดขึ้นมา สม่ำเสมอ

จนกระทั่งผุดขึ้นมาเอง โดยคุณไม่ได้ตั้งใจนึก

 

นั่นแหละ ตัวนี้แหละที่ครบองค์นะ

มีวิตก และวิจาร มีพุทโธอยู่ในหัวเต็มที่

ที่จะก่อให้เกิดจิตเต็มดวงขึ้นมา

 

แล้วพอจิตเต็มดวง ก็จะละความคิดไปเอง พุทโธก็จะหายไป

แล้วพอความคิดกลับมาใหม่ คุณก็จะดูได้ว่า ความคิดไม่เที่ยง

เป็นสภาวะชั่วคราวที่โผล่ขึ้นมากระทบจิต

 

ไม่ใช่จิตเป็นความคิด หรือความคิดเป็นจิต

แต่แยกเป็นต่างหากจากกัน เป็นคนละเลเยอร์ (ชั้น) กัน

 

เมื่อเกิดความเข้าใจแล้ว

ก็จะได้มีตัว สติ มีตัว ปัญญา พิจารณาเห็นธรรมต่อไป

_______________

สรุปคำถาม : นั่งสมาธิโดยใช้พุทโธรัวๆๆๆ จนพุทโธดับเงียบไปเลยครับ แล้วพอจิตคิด เหมือนมันรู้ตัวเหมือนตื่นจากหลับ ก็บริกรรมพุทโธต่อ แต่ร่างกายทรงตัวปกติตลอด ไม่สัปหงก ผมทำถูกหรือผิดครับ?

รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน ตอน หาชุดหมีให้ (พี่) หมอ อีกครั้ง

วันที่ 17 เมษายน 2564

ถอดคำ : เอ้

รับชมคลิป : https://www.youtube.com/watch?v=z8zq73OQqWU

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น