วันพุธที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2564

สวดมนต์แล้วฟุ้งซ่านทุกรอบ ทำให้เปรียบเทียบความฟุ้งซ่านไม่ถูก

 ผู้ร่วมรายการ : สิ่งที่เกิดขึ้นในการสวดมนต์ก็คือในหนึ่งรอบในบางท่อนก็รู้สึกว่าฟุ้งมากขึ้น ในบางท่อนก็รู้สึกฟุ้งน้อยลง เพราะฉะนั้นพอจบหนึ่งรอบมันกลายเป็นว่ามันเทียบกับรอบที่แล้วไม่ถูกว่ารอบนี้เราเรียกว่าฟุ้งมากขึ้นหรือฟุ้งน้อยลง เพราะเหมือนกับในแต่ละรอบมันเป็นลูกคลื่นทั้งฟุ้งมากฟุ้งน้อย ถ้าเป็นแบบนี้เราควรต้องดูแต่ละรอบอย่างไรคะ

ดังตฤณ : ตรงนี้ก็คือความคาดหวัง เพราะเรามองว่าแต่ละรอบต้องต่างกัน แต่จริงๆแล้วถ้ามันฟุ้งเท่าเดิมก็ยอมรับไปตามจริงว่าฟุ้งเท่าเดิม พอยท์(point)ก็คือว่า มันไม่มีทางเท่าเดิมไปทุกรอบ ตรงนี้ต่างหากที่มันจะทำให้เราเกิดภาพมุมมองแล้วก็ความเข้าใจที่ชัดเจน

คือถ้าหากว่ารอบต่อมามันฟุ้งเท่าเดิม ก็ยอมรับไปเลยว่าฟุ้งเท่าเดิม เพื่อที่จะได้เห็นตามจริงว่า เออ มันไม่แตกต่างกัน และจิตที่มันไม่คาดหวัง จิตที่มันเห็นตามจริงว่าเท่าเดิมนี่แหละ มันจะเป็นจิตที่พร้อมที่จะมองในรอบต่อไปว่ามันมากขึ้นหรือว่าน้อยลง

แต่ตอนที่บอกว่ารอบต่อมามันไม่เห็นต่างกัน ตรงนี้แหละเราผิดหวังแล้ว นึกออกมั้ยคือมันมีความคาดหวังโดยไม่รู้ตัว แล้วพอเราผิดหวังว่ารอบต่อมาเนี่ยมันฟุ้งเท่าเดิม มันก็จะมีผลกับรอบต่อไป คือเราจะไปตั้งเป้าไว้ว่ารอบต่อไปเนี่ย เดี๋ยวมันต้องต่างบ้างแล้วนะ ทีนี้พอมันยังฟุ้งอยู่ เราจะมองไม่เห็นแล้วว่ามันฟุ้งเท่าเดิม มากขึ้น หรือว่าน้อยลง เราจะตัดสินตรงจุดที่ว่ามันยังฟุ้งอยู่ นี่แหละไอ้ตัวที่เรารู้สึกว่ามันยังฟุ้งอยู่เนี่ยนะครับ มันทำให้ความคาดหวังของเรามันดำเนินต่อไปแบบที่ไม่มีที่สิ้นสุด

การที่เรามีความคาดหวังไว้ล่วงหน้าในใจ ณ ขณะที่นั่งสมาธิก็ตาม เดินจงกรมก็ตาม สวดมนต์ก็ตาม ความคาดหวังนั้นจะปิดกั้นปัญญา ไม่ให้เปล่งประกายออกมา

เพราะอะไร?

เพราะว่าความคาดหวังนั้นจะรักษาความยึดติดถือมั่นว่า ภาวะในกายในใจของเราเนี่ย จะต้องเป็นอะไรสักอย่างหนึ่ง จะต้องเป็นอะไรขึ้นมาสักอย่างหนึ่ง อันนี้เนี่ยมันไม่รู้ตัวนะ แล้วมันอยู่ติดตัวมาก มันอยู่ติดกับใจของเรามาตั้งแต่อ้อนแต่ออก เพราะฉะนั้นมันจะดูยาก

ทีนี้ถ้าเรามาเริ่มฝึกแล้วก็เริ่มเห็น แล้วก็เริ่มทำความเข้าใจ เอาง่ายๆตอนสวดมนต์เนี่ยนะ พอเรามองเห็นความคาดหวังนี้ปั๊บ เราจะเห็นทุกความคาดหวังชนิดอื่นๆที่แฝงอยู่ในจิตของเรา ไม่ว่าจะทางโลกหรือทางธรรม

อย่างทางโลกนะ บางคนบอกว่า โอ้ยเนี่ยทำไปไม่คาดหวังอะไรหรอก คือพูดให้ดูดีว่าทำเต็มที่แล้ว ทำดีที่สุดแล้ว แล้วไม่คาดหวังอะไร แต่เอาเข้าจริงๆเนี่ย ใจเอาเข้าเต็มๆเลย คือมีความคาดหวังอยู่ แฝงอยู่ข้างในว่าต้องเอาให้ได้ ถ้าไม่ได้เนี่ยมันไม่ได้เตรียมใจเผื่อไว้ พอไม่ได้ขึ้นมามันก็อกหักอย่างแรง เสร็จแล้วไปบอกคนอื่นไว้แล้วว่า เนี่ยไม่ได้คาดหวัง ไม่หวังอะไรหรอก แต่แท้ๆมันคาดหวังอยู่นะครับ แล้วพออกหักเนี่ย มันก็ไม่สามารถที่จะไปบอกคนอื่นหรือไปแสดงให้คนอื่นเห็นได้ เพราะไปประกาศตนไว้แล้วว่าไม่คาดหวัง ก็เลยต้องรักษาภาพโดยการเก็บกดไว้ข้างใน เนี่ยจิตมนุษย์มันซับซ้อนอย่างนี้ มันขึ้นต้นด้วยความคาดหวังเสมอ แล้วก็ลงเอยเป็นความทุกข์ด้วยความผิดหวัง ไม่ว่าจะเป็นผิดหวังคนอื่นหรือว่าผิดหวังตัวเอง

ดูดีๆแล้วเนี่ย คนน่ะนะไอ้ความรู้สึกในตัวตนเนี่ยที่มันหนาแน่นที่สุดเนี่ย มันแฝงอยู่กับความคาดหวังนี่แหละ แต่เราต้องค่อยๆเห็นทีละเปลาะ บางทีเรานึกว่ามันไม่ได้มีอยู่ แต่จริงๆแล้วมันแฝงอยู่โดยเราไม่รู้ตัว โอเคมั้ยครับมีอะไรเสริมมั้ย

ผู้ร่วมรายการ : ขอบพระคุณมากเลยค่ะ ก็คิดว่าน่าจะจริงค่ะ คือปกติเนี่ยด้วยความที่ว่าเราเจอเรืองทางโลก เราก็อยากที่จะรู้ รู้ให้มันรู้ดำรู้แดงให้มันชัด เพราะฉะนั้นเวลาสวดมนต์ถ้าเราบอกว่าเราจะอยากดูความฟุ้ง มันก็เหมือนกับอยากจะเค้นคำตอบกับตัวเองให้ได้ว่า นี่เรียกว่าฟุ้งมากหรือฟุ้งน้อย แล้วพอมันไม่ชัดกับตัวเอง ก็เป็นไปได้ว่าทำให้เกิดความคาดหวังกับตัวเองโดยไม่รู้ตัวแล้วก็กลายเป็นความผิดหวัง

ดังตฤณ : คือถ้าสังเกตง่ายๆถึงความต่างนะ เอาแบบที่ชัวร์ว่าถูกต้องแน่นอนเนี่ย ดูว่าตอนเราหายใจยาวหน้าตาความฟุ้งซ่านมันเป็นยังไง แล้วตอนเราหายใจสั้นลงมันเปลี่ยนไปแค่ไหน เอาในแต่ละรอบเนี่ยบางทีเราไม่ได้สังเกตนะ ยิ่งสวดไปแล้วถ้าสวดอย่างถูกต้องสวดเต็มปากเต็มคำลมหายใจของเราจะยิ่งยาวขึ้น เวลาที่เราหายใจจะหายใจได้ลึกขึ้น ถ้าหายใจได้ลึกขึ้นให้สันนิษฐานว่าความฟุ้งซ่านมันจะเบาบางลง

หน้าตาความฟุ้งซ่านที่เบาบางลงเป็นยังไง?

มันจะรู้สึกว่าความยุ่งๆฟุ้งๆหรือว่ากระจัดกระจายในหัวมันอ่อนกำลังลง มันกลายเป็นจิตที่เรียบโล่งนิ่ง ตรงนี้ถ้ามีอยู่แค่จังหวะเดียวเนี่ย ก็บอกตัวเองเลยว่า เราเห็นแล้วว่าหน้าตาความฟุ้งซ่านที่มันน้อยลงมันเป็นแบบนี้นะครับ

...........................................................

๑๓ มีนาคม ๒๕๖๔
รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน ตอนไลฟ์คลับเฮาส์และเฟสบุ๊ค

คำถามยูทูบ    : สวดมนต์แล้วฟุ้งซ่านทุกรอบ ทำให้เปรียบเทียบความฟุ้งซ่านไม่ถูก

ระยะเวลาคลิป      ๖.๒๙  นาที
รับชมทางยูทูบ  https://www.youtube.com/watch?v=W_D18Lj16Kc&list=PLmDLNhxScsWO7ZAuqr-FC25dor6ETZhM-&index=11

ผู้ถอดคำ  แพร์รีส แพร์รีส

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น