วันศุกร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2564

เกิดปีติแล้ว จะถอยออกจากสมาธิ แก้อย่างไร

ดังตฤณ : คือถ้าปีติ เกิดขึ้นแบบพลุ่งพล่าน เหมือนกับน้ำพุที่ฉีดแรงเกินขนาดอะไรแบบนี้นะ แล้วเรารู้สึกว่าเป็นปีติที่ทำให้กระสับกระส่าย ปีตินั้นยังเป็นปีติที่เขาเรียกว่า เป็นปีติที่ไม่เกื้อกูลกับสมาธิ

 

ปีติที่เกื้อกูลกับความเป็นสมาธิ หรือที่ว่าเป็นปิติในองค์ของสมาธิฌาน จะ เป็นปีติแบบที่เยือกเย็น เป็นมิติแบบที่เนียน แบบที่ทำให้เกิดความรู้สึกว่าอิ่มใจ อยากยิ้มแต่เป็นอยากยิ้มที่ไม่กระโดดโลดเต้นเป็นอยากยิ้มที่แบบว่ายิ้มนิ่มๆ ยิ้มน้อยๆ แต่เป็นยิ้มน้อยที่นานและเสถียร

 

ตรงนี้แหละตั วปีติแบบนี้ที่จะปรุงแต่งให้จิต อยู่ในภาวะ ว่าง กว้าง สว่าง ใส แล้วเกิดความสุข สุขขึ้นมาแบบหนึ่ง สุขทางใจที่สงบ สุขทางกายที่ระงับไม่กวัดแกว่ง ไม่มีอาการกระโดด ไม่มีอาการอยากถอยออกมาจากสมาธิ

 

ทีนี้เพื่อที่จะไปถึงปีติแบบนั้น เราทำอย่างไร อย่าพยายามแสวงหาอุบาย อย่าพยายามที่จะทำอะไรเพิ่มเติม ไปจากที่เป็นอยู่ ให้อาศัยตัวปีติที่กระโดดๆ นั้น ที่กระโดดโลดเต้น กระโดดโลดโผนนั้น มาเป็นตัวตั้งในการฝึก

 

ฝึกอย่างไร คุณตั้งไว้อย่างนี้เลย คือเวลาที่เกิดปีติแรงๆ ผมรู้นะ ผมเข้าใจดีว่าควบคุมได้ยาก จะมาตั้งสติอะไรที่จะให้ระงับ ให้เป็นอุเบกขาไม่ใช่ง่าย

 

อย่าพยายาม ที่จะทำอะไรที่เกินกำลังของเรา ให้มองว่าปิติที่กระโดดโลดเต้นนั้น เป็นตัวละครตัวหนึ่งที่โผล่ขึ้นมาในจิตของเรา มองอย่างนี้นะ มองเป็นของอื่น มองเป็นตัวละคร มองเป็นของแปลกปลอมที่เข้ามา

 

จากนั้น ทำตัวเป็นคนดู ว่าตัวละครนี่จะกระโดดโลดเต้นได้นานแค่ไหน คือ ถึงแม้ว่าตัวละครนั้น จะผลักเราออกมาจากสมาธิแล้ว ก็ไม่ต้องไปเสียดายสมาธิ

 

เวลาเราจะเอาธรรมะนี่ เราไม่ได้เอาสมาธินะ เราเอาสติ ที่รู้ความจริงเกี่ยวกับสภาวะต่างๆ ในกายใจนี่ ว่าไม่เที่ยง ไม่ใช่ตัวเรา ไม่ใช่ของเราเพราะฉะนั้นอย่าไปเสียดายสมาธิ ให้มีการใส่ใจให้ค่ากับสติ

 

สติ รู้อะไร รู้ว่าตัวปีติ ตัวละครที่แปลกปลอมเข้ามานี่นะ กระโดดโลดเต้นอยู่นานแค่ไหน อยู่ได้กี่ลมหายใจวัดไปเลย

 

หายใจครั้งนี้ยังพลุ่งพล่านอยู่ เสียสมาธิหมดแล้ว ไม่เป็นไรช่างมัน หายใจครั้งต่อมา ยังพุ่งพล่านอยู่ ก็ไม่เป็นไรไม่ต้องแคร์ ให้พลุ่งพล่านไป มันเป็นตัวละครเราเป็นคนดู

 

หายใจครั้งต่อมาครั้งที่สามตัวละครตัวนั้นเริ่มหมดแรง เริ่มอ่อนกำลังลง เรารู้ รู้เห็นอยู่ด้วยสติ ว่านี่ค่อยๆ โรยแรงลงมา ก็ไม่ต้องไปสะใจ ไม่ต้องไปดูถูก ไม่ต้องไปหัวเราะเยาะอะไร แค่เห็นว่าตัวละครตัวนั้น เริ่มแรงหมด

 

หายใจครั้งที่สี่ครั้งต่อมา เริ่มรู้เข้ามาที่ตัว รู้เข้ามาที่ตั้งของอิริยาบถ รู้เข้ามาที่ตั้งของจิตอันมีความรู้สึกอยู่ว่า ยังปีตินะ

 

หายใจครั้งที่ห้าต่อมา รู้สึกเงียบๆ ไป ปีตินี่ที่โฉ่งฉ่าง เหมือนลดกำลังลงเหมือนจะลาโรงแล้ว ก็ดูไป

 

พอดูไปถึงจุดหนึ่ง คุณจะพบความจริงขึ้นมาว่าปีตินี่ จะปีติแค่ไหนก็ตามจะเหมือนน้ำพุที่แรงเกินขนาด อย่างไรก็ตามในที่สุดแล้วต้องร่อยหรอลง ต้องลดระดับลง

 

แล้วใจที่พบความรู้สึกนิ่งๆ ว่างๆ ที่มีสติ รู้ว่าปีตินั้นอ่อนกำลังลง ในที่สุดจะรวมแรงได้ใหม่ จะผนึกกำลังรวมลงเป็นสมาธิได้ใหม่ของมันเอง

 

หรือถ้าไม่รวมลงเป็นสมาธิก็ช่างมัน บอกแล้วเราไม่ได้ต้องการสมาธินะ การปฏิบัติธรรมที่แท้จริง เราต้องการเอาสติ เห็นความไม่เที่ยงของทุกภาวะที่เกิดขึ้น สะสมจนกระทั่งเกิดความรู้สึกว่า อะไรๆ ไม่เที่ยงหรือที่เป็นศัพท์เฉพาะที่พระพุทธเจ้าบัญญัติไว้คือ อนิจสัญญา เมื่อมีอนิจสัญญา หรือความรู้สึกว่าอะไรๆ ไม่เที่ยงไม่เห็นต้องไปสนใจ ไม่ต้องไปใส่ใจ เวลาจิตรวมลงเป็นสมาธิ จะรวมลงด้วยอีกอาการหนึ่ง รวมลงด้วยความรู้สึกว่าไม่มีเรา รวมลงด้วยความรู้สึกว่า สมาธิที่เกิดขึ้น สมาธิดีจริงๆ สมาธิที่เป็นสมาธิแบบพุทธนี่ ไม่ใช่สมาธิที่สักแต่ว่ารวมลงเป็นสมาธิ ไม่ใช่สักแต่ว่าจิตกระแสจิต มาผนึกกัน รวมลงเป็นสมาธิ

 

แต่ควรจะตั้งตนขึ้นมาจากปัญญา ที่เห็นอยู่ว่าอะไรก็ตามที่จิตกำหนดรู้อยู่ ล้วนแล้วแต่แสดงความไม่เที่ยง ล้วนแล้วแต่แสดงอนิจจัง อนิจลักษณะออกมาให้จิตรับรู้ ให้จิตเห็น แล้วเกิดปัญญา

 

ปัญญาที่รวมลงเป็นสมาธินั้นแหละ จิตที่มีความว่างปราศจากความเป็นบุคคล ปราศจากความยึดมั่นถือมั่นว่า อะไรดีอะไรไม่ดี นั่นแหละที่เราต้องการจริงๆ ซึ่งนำมาด้วยสติ ไม่ใช่ตัวของสมาธิเอง

 

ตัวของสมาธิเอง เหมือนดวงแก้วที่เปราะบาง เดี๋ยวก็ต้องแตกดับ แต่ตัวของสติ จะเจริญขึ้นไปเรื่อยๆ สะสมตัวขึ้นไปเรื่อยๆ กลายเป็นปัญญาที่รู้ถูกรู้ชอบ รู้ว่าสภาวะทั้งหลายนี่ ไม่เที่ยงจริงๆ ไม่ใช่ตัวตนจริงๆ

_______________

ถาม : นั่งดูลมและกายโดยตั้งจิตอยู่กลางลำตัว มีวิตกวิจาร แล้วเกิดนิมิต จิตพิจารณาแค่ดูและจบ จากนั้นนิมิตใหม่มาเรื่อยๆ คำถามคือ เมื่อปีติเกิดจะเกิดปฎิกิริยากับร่างกายจนสมาธิถอยออกมา จะแก้ไขอย่างไรครับ?

รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน ตอน หาชุดหมีให้ (พี่) หมอ อีกครั้ง

วันที่ 17 เมษายน 2564

ถอดคำ : เอ้

รับชมคลิป : https://www.youtube.com/watch?v=6PsPPQ2OloU

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น