ดังตฤณ : พระพุทธเจ้าเวลาสอนที่ให้ดูความสุข ตอนแรกท่านให้ดูความสุขจากการหายใจยาวเป็นก่อน
หายใจยาว มีความสุขอย่างนี้
แล้วเราดูว่าความสุขนี้ เที่ยงหรือไม่เที่ยง ก็จะง่าย เพราะเป็นความสุขจากอะไรที่เรารู้สึกว่าไม่ค่อยมีค่าเท่าไหร่
เป็นแค่ลมหายใจเข้าออก
ถ้าเห็นได้ว่า หายใจเข้ายาว แล้วมีความสุข
มีความสดชื่น แล้วพอหายใจสั้นลง มีความสุขน้อยลง อย่างนี้ จะทำให้เริ่มมี basic ที่จะเห็นความสุขไม่เที่ยง
และไม่แคร์ที่จะเห็นความสุขนั้นแตกดับ หรือหายไป
แต่พอเราได้มีความชำนาญนั้นแล้ว
จะพบความจริงอย่างหนึ่งว่า แม้ความสุขที่ใหญ่กว่านั้น ที่ดูมีค่ากว่านั้น เช่น
สุขจากครอบครัว จากคนรัก จากทรัพย์สินเงินทอง เราย้อนเข้ามาดูข้างใน โอ
มีความสุขน้อยเสียกว่าที่ตอนเราทำสมาธิ และหายใจยาวๆ ได้มีความต่อเนื่องเสียอีก
ขนาดความสุขจากลมหายใจยาว เรายังไม่แคร์
ความสุขที่น้อยกว่านั้น มีระดับที่เล็กกว่านั้น เราจะไปแคร์ทำไม
เราก็สามารถที่จะเห็นว่า มันแปรไปเรื่อยๆ
ตามเหตุปัจจัยได้เช่นกัน
เหมือนกับอย่างตอนที่เราหายใจยาว
แล้วเรามีความสุขเกิดขึ้นมาก พอหายใจสั้นลง ความสุขก็ลดระดับลง เราไม่แคร์ใช่ไหม
เหมือนกัน ความสุขจากครอบครัว วันหนึ่ง ทุกคนดี
เราเกิดความสุขเต็มเปี่ยม
แต่อีกวันหนึ่ง ทุกคนไม่ดี เราไปให้ค่า
มันถึงมีความทุกข์
เราก็แค่รับรู้ไปตามจริงว่า
วันที่คนเขาไม่ค่อยดีกับเราเท่าไหร่ ความสุขของเราน้อยลง
ตรงนี้ ก็กลายเป็นการเห็นว่าความสุขไม่เที่ยง
เห็นเป็นธรรมดาว่า ความสุขไม่เที่ยง ตามเหตุปัจจัย
เอาจากลมหายใจให้ได้ก่อน
เสร็จแล้วไปพิจารณาความสุขแบบอื่น ความทุกข์แบบอื่น ก็จะง่ายเลย
______________________
ถาม : พุทธศาสนาสอนให้วางใจอย่างไรกับความสุขครับ
ทั้งความสุขจากครอบครัว คนรัก หรือทรัพย์สินเงินทอง?
รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน ตอน
วิธีใช้เงินบริจาคของบูรณพุทธ
วันที่ 24 เมษายน 2564
ถอดคำ : เอ้
รับชมคลิป : https://www.youtube.com/watch?v=LOujQCSLlPo
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น