วันพฤหัสบดีที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2564

รับจ้างทำผลงานทางวิชาการบาปไหม

ดังตฤณ : คือหมายความว่าเป็นมือปืนว่าอย่างนั้น  

 

คือบาปมากบาปน้อยนี่ เราพิจารณาจากอย่างนี้ คือในทางธรรมนะเราไม่สนใจนะว่า สิ่งที่จับต้องได้ จะใหญ่โตแค่ไหน 

 

แต่คือจะมีตำแหน่งอะไร หรือว่าจะมีเงินเดือนแค่ไหน จะได้อะไรอย่างไรกับใครนี่ เราไม่ได้สนใจตรงนั้นนะ เราสนใจนะว่าคำว่าบาปนี่ คือไปทำให้คนเขาเดือดร้อนแค่ไหน

 

บาปที่ชัดเจนที่สุด คือบาปอันเกิดจากการผิดศีล 

 

ผิดศีลข้อปานาฯ ไปฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ฆ่าสัตว์นี้ก็มีฆ่าสัตว์เล็กฆ่าสัตว์ใหญ่ฆ่ามนุษย์ ฆ่าพระฆ่าพระอรหันต์ฆ่าพ่อฆ่าแม่ หรือว่าทำทำร้ายพระพุทธเจ้านี่จะมีลำดับขั้นความใหญ่โตของในบาปเรื่องปานาติบาต อยู่นอกจากนั้นก็มีบาดเรื่องของการทุจริตนะ ไปคิดคด ไปฉ้อโกงทรัพย์เขามา 

 

หรือบาปในเรื่องของการผิดประเวณีนะเอาลูกเขาเมียใครมาที่เขามีเจ้าของแล้วเขาไม่ยินยอมให้ และบาปจากมุสาฯ พูดคำหยาบพูดเพ้อเจ้อพูดนินทาส่อเสียด ใส่ร้ายชาวบ้าน หรือว่าบาปจากการกินเหล้าเมายา เสพยาอีอะไรทั้งหลาย

 

บาปเหล่านี้นี่ ถ้าเราพิจารณา อย่างรับจ้างทำผลงานทางวิชาการ เราถามง่ายๆเลยว่า เข้าข่ายข้อไหน แล้วทำให้ใครเดือดร้อนบ้าง 

 

คือถ้าไม่คิดนี่ ก็ไม่มีคนเดือดร้อนมีแต่คนได้มีแต่วินๆ เราก็ได้ค่าจ้างเขาก็ได้ตำแหน่ง

 

แต่การได้ตำแหน่งเขานี่ ไปเบียดเบียน คนที่สมควรจะได้จริงๆหรือเปล่า หรือเพราะเขาได้ตำแหน่งไป ทั้งที่ไม่มีความรู้ไม่มีความ สามารถ เขาเอาตำแหน่งนั้น ไปใช้ในทางที่ผิด คิดคดทุจริตได้แค่ไหน  

คือบางที ก็ประมาณไม่ถูกนะที่ต้นทาง 

 

แต่ใจเรานี่จะรู้หลังจาก ที่เขาได้ตำแหน่งไป เขาไปทำอะไรได้บ้าง 

 

นะโดยที่ไม่ได้ใช้ความ สามารถของเขาเองแล้วก็ จริงๆนี่ต้อง พิจารณานี้ด้วยว่า เจตนาของเราเป็นไปเพื่ออะไร ถ้าเราเป็นมือปืนรับจ้างแบบคอยทำผลงานทางวิชาการให้คนอื่นนี่ จริงๆก็เป็นอาชีพชนิด หนึ่ง 

 

ใช้ความรู้ใช้ความสามารถ และเจตนาของเราก็คือ จะเอาความรู้ความสามารถของเรามาแลกกับเงิน เจตนาเรามีอยู่แค่นั้น จริงๆ เราไม่ได้ตั้งใจว่าจะให้คนที่เป็นผู้จ้างเรา ไปก่อความเดือดร้อนให้ใครแค่ไหน

 

เจตนาของเราแค่เอาตังค์เข้าตัว อันนี้ก็มีส่วนให้พิจารณาเป็นตัวตั้งแบบนี้

 

หนึ่งคือ เขาทำความเดือดร้อนให้คนอื่นแค่ไหน เราส่งเสริมเขาแค่ไหน

สองใจของเราเจตนาอย่างไร

 

คือบางทีถ้าใจของเราไม่ได้เจตนาที่จะให้เขาไปทำความเดือดร้อนให้ใคร ก็ไม่ได้ส่วนบาปตรงนั้นไปกับเขาด้วยเท่าไหร่

 

แต่ถ้าใจเรารู้แล้วยังฝืนทำ ยกตัวอย่างคือเราเห็นๆอยู่ว่าคนที่จะได้ตำแหน่งวิชาการไป จะเอาไปโกงกินโดยเฉพาะ ไม่ใช่จะเอาไปใช้ความรู้ความสาม ารถหรือตำแหน่งของตัวเอง ทำประโยชน์อะไรให้สังคมขึ้นมา นี่ตัวนี่ถ้าเราได้มีส่วน เข้าไปเต็มๆแล้ว ที่จะช่วยให้เขานี่ได้ประสบความสำเร็จในการคดโกงในการทุจริตสังคม 

 

แล้วเข้าข่ายศีลห้าข้อไหนบ้าง?

คือ โกหก คือมีส่วนให้เขาโกหก เราไม่ได้โกหกเอง แต่มีส่วนให้เขาได้โกหก

 

และในการคิดคด ทุจริตคดโกง เขาเอาทรัพย์ของคนอื่น ตำแหน่งของคนอื่นมา ตำแหน่งที่เขาควรจะได้เขาไม่ได้ เราไปทำให้คนที่ไม่ควรจะได้ กลับได้ขึ้นมา อย่างนี้คือเรามีส่วนในการไปปล้นตำแหน่งมาจากคนที่ควรจะได้อะไรอย่างนี้ มีส่วนหน่อยๆ เจตนาไม่ได้เป็นอย่างนั้น 

 

 

 

การทำอะไรในแบบที่เราไม่ได้ตั้งใจไว้ ไม่ได้ตั้งเป้าไว้ให้เป็นอย่างนั้น แต่ว่ามีส่วนทำให้เกิดขึ้นนี่ เรียกว่ากตตากรรม คือกรรมที่ไม่ได้เจตนาให้เป็นเช่นนั้น 

 

ถามว่ามีโทษหนักแค่ไหน 

 

ก็ครึ่งๆ กึ่งๆ เพราะว่าเจตนาไม่เป็นไปเช่นนั้นเต็มๆ เจตนาเราเอาเงินเหมือนกับ จริงๆ ผู้ถามอาจไม่ได้ถามเพราะว่าตัวเองทำนะ ถามเพราะคนอื่นทำ อันนี้พูดไม่ได้พูดถึงผู้ถามนะ พูดถึงผู้ทำ

 

ถ้าเรามีส่วนทำด้วยเจตนาที่มีความรู้เห็นอยู่ว่า เป็นงานที่ส่งเสริมให้เกิดการทุจริตนี่ งานของเราเองก็จะมีมลทิน เหมือนกับทำให้ปลาเน่า รับจ้างทำปลาเน่า มือเราก็ต้องเหม็นก่อน ต้องติดกลิ่นเหม็นมาเป็นธรรมดา อะไรแบบนี้ 

________________

คำถาม : คนที่รับจ้างทำผลงานวิชาการ เพื่อให้คนอื่นได้รับเงินประจำตำแหน่ง บาปมากไหมคะ แล้วคนจ้างบาปแค่ไหนคะ?

รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน คลับเฮาส์

วันที่ 3 เมษายน 2564

ถอดคำ : เอ้

รับชมคลิป : https://www.youtube.com/watch?v=NoJAxnIhub8

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น