วันศุกร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2564

ดูแลพ่อแม่อายุมาก บางครั้งหงุดหงิดใส่พ่อแม่ จิตตก

ดังตฤณ : เวลาวางจิตกับผู้ใหญ่นะ อย่าไปคาดหวังว่าเราจะไม่จิตตก อย่าไปคาดหวังว่า เราจะไม่โกรธ

 

ให้คาดหวังว่า เราได้รับแรงกระทบมาอย่างไร จิตก็จะบุบสลาย หรือว่าบอบช้ำตามนั้น นะให้คาดหวังอย่างนี้

 

เสร็จแล้ว ด้วยความคาดหวังนั้น มาประกอบกับสัมมาทิฏฐินะครับ คือความเห็นที่ถูกต้องว่า ความทุกข์ ทุกขเวทนาจะเกิดขึ้นหนักหนาสาหัสแค่ไหนก็ตาม ด้วยเหตุปัจจัยอันใดก็ตาม เมื่อเหตุปัจจัยนั้นหมดลง ในที่สุดผลลัพธ์คือความบอบช้ำคือความเจ็บช้ำใจนั้น ก็ต้องหายไปด้วย

 

ตั้งมุมมองไว้อย่างนี้ ทีนี้เวลาเอาไปปฏิบัติจริง ไม่ง่าย อย่างเวลาโดนกระทบกระแทก ด้วยสีหน้าสีตาของท่าน หรือว่าคำพูดของท่าน รู้สึกจุกรู้สึก โอ้โหเหมือนถูกชก ถูกฮุคด้วยกำปั้นของนักมวยเฮฟวี่เวทนะ แล้วเรารู้สึกว่าบอบช้ำ

 

ตอนที่รู้สึกทนไม่ได้นั่นแหละ ให้ฝึกมองว่า ความเจ็บปวด ความบุบสลาย ของจิตตรงนั้น ตั้งต้นที่ลมหายใจไหน

 

อันนี้สำคัญนะ ถ้าเราสามารถระลึกได้จริงๆ ว่าตั้งต้นที่ลมหายใจนี้ แล้วเรานับต่อไปเรื่อยๆ อีกกี่ลมหายใจ ความบุบ ความบอบช้ำนั้น ถึงค่อยคลายตัวลง อาจจะเป็นลมหายใจที่ร้อยก็ได้นะ อาจจะใช้เวลานาน แต่พอยต์คือจะนานแค่ไหน ในที่สุดในความบุบสลายความบอบช้ำนั้นนี่ จะค่อยๆกลับฟื้นกลับฟูขึ้นมา

 

ตรงนี้แหละที่ เราจะเข้าใจว่าเมื่อเหตุดับ เมื่อต้นเหตุนี่คือห่างตัวเราไปแล้วไกลตัวเราออกไปแล้ว เสียงด่าไกลหูออกไปแล้ว  ในที่สุด ผลลัพธ์คือความบอบช้ำนี่ก็จะค่อยๆกลับฟื้น กลับกลายเป็นสลายหายไป นี่คือธรรมชาติ นี่คือธรรมดา ตามกฎกติกาที่ว่า เมื่อเหตุดับผลย่อมดับตาม นะ

 

แต่ความเจ็บช้ำน้ำใจ หรือการจิตตกจะไม่หายไป ถ้าหากว่าเหตุดับไปแล้วเราสร้างเหตุใหม่ขึ้นมา คือตรึกนึกถึงมัน ด้วยความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ ด้วยความรู้สึกว่า ทำไมทำดีไม่ได้ดี ทำไมกตัญญูแล้วได้ผลตอบแทนราวกับเราเป็นลูกเนรคุณขนาดนี้

 

ด้วยความคิด ด้วยความวิตกไป ด้วยความรู้สึกไม่สบายใจไปนี่ อันนี้จะกลายเป็นเหตุใหม่

 

คือเหตุ ที่เป็นต้นเหตุแท้ๆ ดับไปแล้ว พ่อแม่ห่างตัวเราไปแล้ว แต่มีเหตุใหม่ คือความน้อยเนื้อต่ำใจของเรานี่ มาเป็นอาหารหล่อเลี้ยงความเจ็บช้ำน้ำใจนั้น ให้ยืดเยื้อต่อไปอีก ไปต่ออายุให้ด้วยความเจ็บช้ำน้ำใจ ไปต่ออายุให้ด้วยความตรึกนึกถึง คิดน้อยเนื้อต่ำใจไปต่างๆนานา

 

ความคิดนั่นแหละ ที่เป็นต้นเหตุใหม่ แล้วทำให้ผลลัพธ์ไม่ดับไปสักที

 

ต่อเมื่อเรามาพิจารณาอย่างนี้นะว่าลมหายใจนี้ เป็นจุดเริ่มต้นของความเจ็บช้ำน้ำใจ หน้าตาความเจ็บช้ำน้ำใจ มีภาพ.. เหมือนผีน้อยที่หงอย ที่อยู่ในห้องมืดคนเดียว แล้วผีน้อยนั้น อยู่ไปได้กี่ลมหายใจ ยังมีลมหายใจของมนุษย์นับนับอายุมันอยู่

 

เราจะพบว่า ยิ่งหายใจไปโดยไม่ไปนึกถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้ว มีแต่ปัจจุบันตรงนี้ ที่เป็นลมหายใจนี่ จะค่อยๆ ทำให้ผีน้อยตัวนั้น กลับลุกขึ้นมา แล้วก็กลายร่างกลับเป็นมนุษย์มนา มีเนื้อมีหนังมีกำลังวังชากลับขึ้นมาได้อีก

___________________

คำถาม : ต้องดูแลคุณพ่อคุณแม่สูงอายุ อยากทำให้ดี แต่ท่านไม่ฟัง ทำให้เครียด มีอารมณ์ บางครั้งต้องพูดคำรุนแรง จิตตกมาก รู้ว่าไม่ควร เครียด จนปฏิบัติไม่ได้เลยค่ะ วางจิตอย่างไรดีคะ?

รายการปฏิบัติธรรมที่บ้าน ตอน หาชุดหมีให้ (พี่) หมอ อีกครั้ง

วันที่ 17 เมษายน 2564

ถอดคำ : เอ้

รับชมคลิป : https://www.youtube.com/watch?v=Bfy2BjstmJY

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น