วันพุธที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ต้องห่างจากสามีกลัวถูกนอกใจ เจริญสติอย่างไร

ถาม :  ต้องห่างจากสามีนานถึงสองปีค่ะ ทำให้เกิดความฟุ้งซ่าน กลัวว่าเค้าจะนอกใจ จนทำให้รู้สึกว่าเราไม่สามารถอยู่ได้ จะมีผลต่อการทำงานและการดำรงชีวิต อยากปรึกษาพี่ว่าจะมีวิธีเจริญสติในชีวิตประจำอย่างไร ให้เราอยู่ได้

รับฟังทางยูทูบ :  http://youtu.be/Xccp1gEpoNc
ดังตฤณวิสัชนา ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑๐
การเจริญสติในชีวิตประจำวันแบบฆราวาส
๑๕ กันยายน ๒๕๕๖ ที่ณัฐชญาคลินิก
 

ดังตฤณ: 
ทุกครั้งที่เกิดความรู้สึกอึดอัดทรมานนี่นะ มันจะเหมือนกับมีสองอาการที่ผสมกัน อาการนึง เป็นอาการพยายามทำความเข้าใจ เหมือนกับอธิบายตัวเอง...มันต้องอย่างนั้น มันต้องอย่างนี้นะ คือคล้ายๆสอนตัวเอง แต่อีกใจหนึ่งมันบอก..ทำไมล่ะ ทำไม ทำไม เข้าใจรึเปล่า

ผู้ถาม : เข้าใจค่ะ

ดังตฤณ: 
เนี่ย ตัวนี้แหละ ที่ทำให้เราเป็นทุกข์  คือพยายามสอนตัวเอง ทั้งๆที่ไม่เต็มใจที่จะสอน มันเหมือนกับตัวเราสอนคนอื่นมาเยอะ เรื่องโน้นเรื่องนี้ ทำให้คนอื่นเค้าเข้าใจเรื่องนั้นเรื่องนี้ อธิบายเป็นเหตุเป็นผล แล้วก็เหมือนกับอยากให้คนอื่นมีเหตุมีผล เข้าใจไหม นี่เป็นที่มาว่า ทำไมเราถึงสอนตัวเอง

ส่วนอารมณ์ที่ว่า ทำไมล่ะ ทำไมมันถึงต้องเป็นอย่างนี้ อันนี้คือตัวจริงๆ ตัวที่มันยังดิบๆอยู่ ตัวที่มันไม่มีเหตุผล ตัวที่เรียกว่า อารมณ์ เมื่อเราสามารถที่จะมองออกเป็นภาพทางใจว่า มันมีอยู่สองสาย คือ เหตุผล กับ อารมณ์ มันสู้กันอยู่ ถ้าเราสามารถรู้ได้ว่า ถ้ามีเหตุผลอย่างเดียวไปเลย หรือว่ามีแค่อารมณ์อย่างเดียวไปเลย มันจะไม่ทุกข์ขนาดนี้ มันปนๆกัน มันถึงได้ทุกข์หนัก เพราะเหมือนมีคนสองคนถียงกัน และสองคนนี้มันไม่ลงให้กัน
รู้สึกไหมว่าตอนที่เรานอนดิ้นไปดิ้นมา นอนไม่หลับเนี่ย ก็เพราะว่าใจมันไม่รู้จะไปเชื่อความคิดแบบไหน หรือ อารมณ์แบบไหน มันไม่ใช่เพราะว่าเราคิดได้หรือคิดไม่ได้ มันคิดได้หมดแหละ แต่ตัวอารมณ์เนี่ย มันเหมือนแรงดัน มันเหมือนแรงขับให้ไม่ยอม

ทีนี้พอมองเป็นภาพอย่างนี้ออกปุ๊บ เราเริ่มใหม่ มานับหนึ่งใหม่ เลิกสอนตัวเอง ในขณะเดียวกันก็ไม่ตามใจตัวเองด้วย แต่มาอยู่ตรงกลาง ตรงที่มันเห็นว่า ใจของเรายังมีแรงดันอยู่ ยังมีแรงดัน ยังมีแรงอัดอั้น และในแรงดันแรงอัดอั้นตรงนั้นเนี่ย ไม่ใช่จะยื้อสามีไว้นะ คือมันเห็นเหตุผลหมดแล้ว ไม่ต้องมาอธิบายอะไรแล้ว มันตั้งสองปี คือไม่ได้อยากได้เค้าให้มา หรือว่าอยากไปเรียกร้องอะไรทั้งสิ้นนะ แต่เป็นแรงดันที่มันช่วยไม่ได้ ที่มันมีความรู้สึก อยากอยู่อ่ะ..อยากอยู่ด้วยกัน พอเห็นแรงดันตรงนั้นมันจะเป็นแบบนี้ มันเกิดความรู้สึกว่าเข้าใจ คราวนี้เข้าใจจริงๆ ไม่เกี่ยวกับเหตุผลแล้ว มันเกี่ยวกับว่าอยากอยู่ด้วยกัน แต่ไม่อยากยื้อ

พอเริ่มรู้สึกถึงความอึดอัด อันเกิดจากความอยากที่ไม่สมเหตุสมผล คราวนี้มันจะไม่ใช้คำอธิบายที่เป็นเหตุเป็นผล  แต่มันจะรับรู้ว่า ความอึดอัดนั้นมันเล่นงานเราได้มากที่สุดตอนที่เรายังไม่รู้สึกถึงมัน แต่พอเรารู้สึกถึงมันด้วยอาการที่ยอมรับว่ามันเกิดขึ้น มีแรงเค้นขึ้นมา มีความอึดอัดขึ้นมา มันจะแผ่วลงไป เหมือนเมื่อกี้ที่เรารู้สึกอ่ะ เรารู้สึกเหมือนกับว่า เออ หน้าตาแรงอึดอัดมันเป็นแบบนี้ ความอึดอัดมันมีแรงดันแบบนี้ แล้วความอึดอัดนั้นน่ะ คือบทจะหาย มันหายไปเลย หายวูบ เมื่อกี้นี้ที่มันมีอาการเหมือนหายวูบไปเลย ตอนที่เรารู้สึกได้ รู้สึกตื้นๆขึ้นมา รู้สึกแบบ เออเนี่ย หน้าตามันเป็นแบบนี้ มันมีแรงเร่ง มันมีแรงร้อยรัด เหมือนกับจะกอดเราไว้กับสิ่งที่มันไม่มีเหตุผล เรารู้สึกว่าหน้าตาของอาการร้อยรัดตรงนั้น มันคลายตัวออกไป

ประเด็นก็คือ ตรงนี้เค้าเรียกว่า ทำความรู้จักกับหน้าตาของความอึดอัด ความอยากที่ไม่สมเหตุสมผล ในความเป็นจริงคือมันจะกลับมาอีก เป็นร้อยๆ เป็นพันๆครั้ง คือไม่ต้องไปพยายามหาเหตุผลอะไรไปสู้กับมันเลย ไอ้ความอึดอัดชนิดนี้ มันมาแน่ อีกเป็นพันๆเป็นหมื่นๆครั้ง และทุกครั้งถ้าเรารู้ด้วยอาการยอมรับตามจริงอย่างนี้ เป๊ะเลยเนี่ย มันก็จะมี สติเพิ่มขึ้นทีละครั้ง เป็นร้อยๆ เป็นพันๆ เป็นหมื่นๆครั้งเช่นกัน

เผลอๆ มันแลกได้กับการบรรลุธรรมเลย อย่าดูถูกตัวเองนะ จริงๆแล้ว ข้างในของเราเนี่ย คือเป็นประเภทปัญญาจริต มันไม่ค่อยจะเชื่ออะไรง่ายๆ เป็นพวกหัวรุนแรง ชอบเถียง แต่ความทุกข์บางอย่างมันไม่เปิดโอกาสให้เถียงหรอก มันจนมุมจนได้ และตรงนี้ถือเป็นโอกาสที่ดี เพราะเราได้เห็นชัดๆเลย เหตุผลสู้ไม่ได้ มันมีอะไรบางอย่างที่จะชนะเหตุผลเสมอ แต่ไม่มีอะไรเลย ไม่มีอะไรในจักรวาลนี้ที่จะชนะความจริงไปได้ 

ความจริงในที่นี้ก็คือ มีแรงดัน มีอารมณ์ของความอยาก อยากเอาเค้ามาอยู่ด้วย ที่มันปรากฏอยู่อย่างต่อเนื่อง และถ้าเราเห็นอย่างต่อเนื่อง ว่าหน้าตาความอึดอัดมันเป็นแบบนี้ เห็นปุ๊บ มันสลายตัวให้ดู เป็นร้อยๆ เป็นพันๆครั้ง ตัวนี้แหละ สติ จะชนะ อารมณ์

เดิมเรา เหตุผลชนะทุกสิ่งในชีวิต ตอนนี้ยอมรับแล้วว่าอารมณ์มันชนะเหตุผลได้ แต่ต่อมาเราจะเห็นอีกว่า การมีสติรู้ยอมรับตามจริง ตามสภาพที่มันเป็นอยู่ จะชนะทุกสิ่งทุกอย่าง เพราะว่า สติ และการยอมรับตามจริงมันอยู่ข้างสิ่งที่มีพลังยิ่งใหญ่ที่สุดในจักรวาลคือความจริง คือสัจจะ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น