ผู้ถาม : นอกจากจะนั่ง (เก้าอี้) อย่างนี้แล้ว เรานั่งเป็นขัดสมาธิก็ได้ใช่มั้ยคะ
รับฟังทางยูทูบ : https://youtu.be/E7u9sd5227g
เสวนาดังตฤณวิสัชนาครั้งที่ ๙
การเจริญสติในชีวิตประจำวันแบบฆราวาส
๑๔ กันยายน ๒๕๕๖ ที่ณัฐชญาคลินิก
เสวนาดังตฤณวิสัชนาครั้งที่ ๙
การเจริญสติในชีวิตประจำวันแบบฆราวาส
๑๔ กันยายน ๒๕๕๖ ที่ณัฐชญาคลินิก
ดังตฤณ:
คือถ้าเกิดปีติในลักษณะที่มันผุดๆขึ้นมาอย่างนี้เนี่ยนะ ตรงนั้นมันเป็น.. ถ้าทางกายก็คือมันหลั่งสารเอ็นโดรฟิน (Endorphine) ออกมาเป็นห้วงๆนะ มันจะมีการหลั่งสารดีๆออกมา ซี่งถ้ามีความรู้สึกปีติ มีความรู้สึกสบายแบบนั้นเนี่ย เวลาไปนั่งขัดสมาธิจะไม่เมื่อยขบ แต่ว่าถ้าเรายังรู้สึกเครียดๆอยู่ อย่าเพิ่งไปนั่งแบบขัดสมาธิ เพราะว่ากล้ามเนื้อที่มันเกร็ง มันจะยิ่งทำให้เกิดความแน่นขึ้นไปใหญ่ ในสภาพบังคับรูปร่างท่าทาง
พูดง่ายๆว่า นั่งสมาธิแบบที่ผมไกด์ไปให้ชิน บนเก้าอี้นี่แหละ จากนั้นพอรู้สึกว่า นั่งได้ มีปีติเป็นปกติแล้วเนี่ย ค่อยลงไปนั่งขัดสมาธิหรือขัดสมาธิเพชร ตรงนั้นถามว่าอย่างไหนดีกว่ากัน ต้องบอกว่านั่งขัดสมาธิเพชรดีกว่า เพราะว่าถ้าพูดอธิบายในเชิงของวงจรพลังเนี่ย มันจะเดินครบ คือมันมีการต่อนิ้วโป้งกับนิ้วโป้ง และขัดสมาธิเนี่ยมันเป็นฐานที่ทำให้รู้สึกตัว ว่าคอตั้งหลังตรงได้ชัดเจน
แต่คนทั่วไป อยู่ๆให้ไปนั่งขัดสมาธิเพชรเลย ส่วนใหญ่จะล้มเหลว เพราะว่าต้องรบกับความเมื่อยขบ รบกับทุกขเวทนาที่มันเกิด จนกระทั่งบางคนก็แนะนำให้ไปเหมือนกับ ทำเลียนแบบครูบาอาจารย์ คือนั่งเป็น ๑๐ ชั่วโมง มันจะเมื่อยแค่ไหน มันจะอะไร ปล่อยให้มันตายไปเลย อะไรอย่างนี้นะ ซึ่งก็มีคนขาเป๋มาแล้วเหมือนกันนะ พอนั่งสมาธิสำเร็จ ขาเป๋เลย เดินไปไหนมาไหนไม่ได้
คือครูบาอาจารย์ท่านอยู่ในอีกภาวะนึง ที่ท่านอยู่ป่าอยู่เขา จิตท่านวิเวก แล้วก็ไม่ได้ต้องมีการเคลื่อนไหว กระทำการอะไรที่จะก่อให้เกิดความเครียดความเกร็ง ท่านปฏิบัติกันได้ แล้วก็ไม่ลำบากมากนัก แต่ฆราวาสเนี่ย คือบางคนเนี่ยสภาพร่างกายมันไม่เหมาะที่จะไปนั่งลำบากแบบนั้นนะ แล้วถ้าไปฝืนไปคุมเนี่ย แทนที่จะได้ดีอะไรขึ้นมา มันเสีย มันเสียจริงๆนะ คือเวลาไปรักษา ผมเห็นมาแล้วคือบางคนเนี่ย พออายุมากขึ้น มันกลายเป็นแบบสั่น สั่นแบบไม่สามารถระงับอาการตัวเองได้ ทำอะไรช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เป็นผลมาจากการนั่งสมาธิแบบผิดๆ ไปฝืน ฝืนบังคับมากเกินไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น