วันพุธที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

สงสัยสภาวะว่างที่เกิดขึ้นขณะทำสมาธิ

ถาม : ที่พี่ตุลย์สอนให้ดูความว่างค่ะ มีความรู้สึกว่ามันกลายเป็นว่าเรา..
รับฟังทางยูทูบ https://youtu.be/g-jCW-Enl-k
ดังตฤณวิสัชนา ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑
การเจริญสติในชีวิตประจำวันแบบฆราวาส
๓๐ สิงหาคม ๒๕๕๖ ที่ณัฐชญาคลินิก

ดังตฤณ : 
เรายังดูความว่างไม่ได้ เพราะว่าหนึ่งนะ ของเรานี่ความขัดแย้งมันนำ มันเป็นตัวนำ สองคือความสงสัยมันเคลือบอยู่ พี่พูดถึงเฉพาะตอนนี้นะ ดูตัวความขัดแย้ง กับดูตัวความสงสัยให้ออกก่อน อย่าพึ่งไปดูความว่าง เพราะพอเรารู้สึกถึงความว่างปุ้บ มันสงสัยทันที มันเหมือนกับมีความสงสัยเคลือบอยู่บางๆ ตลอดเวลานะว่า เอ๊ะความว่างตรงนี้เนี่ย มันเป็นความว่างที่มันจริงหรือไม่จริง อะไรแบบนี้นะ มันจะเคลือบอยู่ ถ้าเราดูความสงสัยที่เคลือบอยู่ได้นี่ นี่อย่างนี้ว่างจริง เราเห็นถึงความสงสัยที่มันเคลือบอยู่บางๆ แล้ว มันจะรู้สึก เออ ไม่มีอะไร ตรงนี้ที่ความสงสัยมันหายไป เข้าใจนะ 

พอยท์ของพี่ก็คือว่า อย่าพยายามไปดูความว่าง เพราะมันไม่เคยว่างจริง มันยังฉาบอยู่ด้วยความสงสัย แต่พอเรารู้จัก คือดูความสงสัยตรงนี้ได้เป็นเนี่ย ที่มันฉาบอยู่บางๆ เนี่ย มันจะรู้สึกหายไป นั่นแหละที่เวลาว่างมันจะว่างจริง แล้วพอเปรียบเทียบระหว่างความว่างที่มันมีความสงสัยเคลือบอยู่ กับความว่างที่มันว่างจริงๆ ไม่มีความสงสัยเลยเนี่ย อย่างนี้จะเริ่มเห็นแล้วว่า ภาวะทางใจเป็นอย่างไร 

คนเนี่ยนะ จะเห็นเข้ามาในจิตของตัวเองว่าสักแต่เป็นภาวะทางจิต ก็ต่อเมื่อ ภาวะทางจิตสองภาวะมันเกิดขึ้น ปรากฏขึ้นแล้วเราสามารถเห็นความแตกต่างของมันได้ อยู่ๆ เนี่ย ไปจ้องเข้ามาที่ภาวะทางใจที่มันกำลังปรากฏอยู่ในปัจจุบัน มันไม่มีทางรู้สึกนะว่านี่คือภาวะทางใจ ภาวะทางใจจะปรากฏให้สติรับรู้ ก็ต่อเมื่อมีสองภาวะเป็นข้อเปรียบเทียบ อันนี้คือสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนเลยนะ ทั้งในเวทนานุปัสสนา และในจิตตานุปัสสนา พระพุทธเจ้าให้ดูของคู่ ดูเปรียบเทียบภาวะสุขกับทุกข์ ดูจิตมีราคะกับไม่มีราคะ จิตมีโทสะกับไม่มีโทสะ จิตสงบกับจิตฟุ้งซ่าน จิตหลุดพ้นกับจิตไม่หลุดพ้น เนี่ยพระพุทธเจ้าให้ดูเป็นของคู่อย่างนี้ อันนี้คือหลักการเลยนะ 

เริ่มต้นขึ้นมาเนี่ย มันจะไม่เห็นโดยความเป็นของไม่เที่ยง มันจะเห็นแค่ความเป็นของต่าง ระหว่างขั้วตรงข้ามแบบหนึ่งกับอีกแบบหนึ่ง แต่พอเห็นไปเรื่อยๆ ในที่สุดสติที่มันถูกกระตุ้นขึ้นมาเรื่อยๆ นั่นน่ะ มันจะค่อยๆ มีความคม มีความชัดเจน มีความต่อเนื่องขึ้นมา มากพอจะเห็นขณะที่มันกำลังเปลี่ยนเลยนะ อย่างเมื่อกี้นี่ตอนเราเห็น มันเห็นตอนมันว่างไปแล้ว ตอนมันหายไปแล้ว แต่พอมันเห็นไปเรื่อยๆ เนี่ย มันจะรู้สึกเลย เหมือนกับม่านหมอกอะไรที่มันตอนแรกห่อหุ้มจิตอยู่ แล้วมันสลายตัวออกไป แต่เมื่อกี้นี้เราเห็นตอนที่พี่ชี้ว่ามันว่างไปนี่ มันเห็นตอนหายไปแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น