วันจันทร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

วิธีเห็นความไม่เที่ยงภายในสามลมหายใจ

เจริญสติแล้วรู้สึกจิตแข็งๆ วนๆ ดูลมหายใจต่อไม่ถูก
ถาม : บางครั้งผมทำในรูปแบบ แต่ว่าลืมตา เพราะกลัวจะหลับ แล้วลักษณะเหมือนกับตอนก่อนจะนอน สักพักนึงจะเหมือนหลับหรือว่าหลับใน

รับฟังทางยูทูบ :  https://youtu.be/LjP_Iigb3lo
ดังตฤณวิสัชนา ๒๕๕๖ ครั้งที่ ๑
การเจริญสติในชีวิตประจำวันแบบฆราวาส
๓๐ สิงหาคม ๒๕๕๖ ที่ณัฐชญาคลินิก
 

ดังตฤณ: 
สังเกตดูก็แล้วกันว่า ตอนที่ดูแบบนี้เนี่ย อาการทางใจมันแข็งๆอยู่ หรือมีความรู้สึกว่างๆสบายๆ  ถ้าว่างๆสบายๆแปลว่ารู้ มีสติ แต่ถ้ามันแข็งๆ แปลว่าเราตั้งใจมากเกินไป คือบางทีเนี่ยเราสังเกตอย่างนั้น จะลืมตาหรือหลับตาก็แล้วแต่ แล้วเกิดความรู้สึกว่ามันฝืนๆ นี่เรียกว่าจิตแข็ง แต่ถ้าหากรู้สึกว่ามันสบายๆ มันมีความรู้สึกปลอดโปร่งอันนี้เรียกว่ามีสติ เป็นข้อสังเกตง่ายๆ

ถาม : ระหว่างบางทีปลอดโปร่งแบบมีสติ กับ บางทีปลอดโปร่งแบบเคลิ้มๆ เหมือนมีโมหะอยู่ด้วย ควรทำให้ดีขึ้นได้อย่างไรดี

ดังตฤณ: 
อย่าไปพยายามทำให้มันดีขึ้น แต่สังเกตข้อแตกต่าง ไอ้ตอนที่เรารู้สึกเหมือนกับหลงวนๆ อยู่ในอาการแข็งๆ  อยู่ในอาการที่มันไปไม่ถูก จำไว้ว่าลักษณะจิตมันเป็นอย่างไร ดูไปสัก ๒-๓ ลมหายใจ คือรู้สึกถึงลมหายใจประกอบไปด้วย มันจะได้มีเครื่องเปรียบเทียบ ว่าลมหายใจนี้มันแข็งๆ มันไปไม่ถูก อาการของจิตหน้าตาเป็นแบบนี้

เสร็จแล้วเราอยู่ในอาการยอมรับตามจริงนั่นแหละว่า มันแข็งๆ มันเป็นลมหายใจที่ดูไม่ถูก ไปไม่เป็น แต่ลมหายใจต่อมา มันยังเหมือนเดิมไหม คือยอมรับตามจริงเลยว่าระหว่างลมหายใจแรกกับลมหายใจที่ ๒ เนี่ยมันเหมือนเดิมไหม ถ้าเหมือนเดิมก็ยอมรับว่าเหมือนเดิม ถ้าลมหายใจที่ ๒ เรายอมรับตามจริงอยู่นะ ปกติแล้วลมหายใจที่ ๓ มันจะเริ่มเปลี่ยนให้เห็นแล้ว นึกออกไหม คือลมหายใจแรก ไปไม่ถูกมันรู้สึกวนๆ ลมหายใจที่ ๒ มันยังวนๆอยู่ มันยังฟุ้งซ่านอยู่ มันยังไปไม่ถูกอยู่ แต่พอลมหายใจที่ ๓ ด้วยอาการยอมรับตามจริงเนี่ย มันจะเริ่มเปลี่ยนไป คืออาการวนๆมันจะเริ่มคลาย

จำไว้เลยนะเป็นคีย์เวิร์ด (keyword) นะ
ถ้าเรามีอาการของสติ
ประกอบกับจิตเกินกว่า ๒ ลมหายใจขึ้นไป
ลมหายใจที่ ๓ เนี่ย
มันจะเริ่มแสดงความไม่เที่ยง

อาการทางใจ อาการของสติ จำไว้เลยว่ามันจะสามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ สติกำลังเห็นอะไรอยู่ก็แล้วแต่ สิ่งนั้นจะแสดงความไม่เที่ยงออกมาให้เห็นในลมหายใจที่ ๓  คือบางทีมันไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากมาย แต่ว่ามันเปลี่ยนมากพอที่จิตจะรู้สึกว่า เออ..มันต่างไปแล้ว แล้วการเห็นว่ามันต่างไปแล้วเนี่ย มันไม่มีอะไรพิเศษนะ มันเหมือนกับต่างไปแค่นิดเดียว

แต่ถ้าหากว่าเรามีความเคยชินที่จะรู้สึกถึงความต่าง ลมหายใจที่ ๔  ลมหายใจที่ ๕ เนี่ย มันจะเห็นว่ามันต่างไปอีก มันต่างไปเรื่อยๆ แล้วไม่ใช่ต่างไปในทางที่ดีขึ้นกับดีขึ้นอย่างเดียวนะ บางครั้งมันอาจจะวกกลับมาแย่ลงใหม่ แต่เราไม่แคร์ เพราะจิตมันถูกปรุงแต่งให้เป็นสติยอมรับตามจริงอยู่ จิตที่ถูกปรุงแต่งให้มีอาการยอมรับตามจริงอยู่เสมอๆ ไม่ใช่จะเอาอย่างใจ ไม่ใช่จะเอาอย่างอยาก

จำไว้เลยว่าแต่ละลมหายใจที่คืบหน้าไป
คือสติที่เพิ่มขึ้นเสมอ
ไม่ว่าภาวะทางใจ
จะแย่ลง หรือ จะดีขึ้นก็ตามนะ

แต่ตัวสติจะพัฒนาขึ้นเสมอ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น