ถาม : อยากทราบว่าการมีสิวแบบขึ้นเห่อมากๆ
ไม่ใช่แค่เม็ดสองเม็ดนี่ เกิดจากการที่เราไปทำกรรมอะไรไว้คะ? ทำไมคนอื่นๆบางทีเขาไม่มีสิวเลยทั้งที่การดูแลรักษาทำความสะอาดและทานอาหารเหมือนๆกัน
ปัจจัยแวดล้อมภายนอกก็ไม่แตกต่างกัน แถมสิวของดิฉันรักษาอย่างไรก็ไม่หายขาด
แล้วถ้าเป็นเพราะกรรมเก่าจริง ดิฉันควรทำบุญแบบไหนเป็นการแก้
>
จากหนังสือ เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว เล่มที่ ๗
ดังตฤณ:
สิวเป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่ง และตัวการที่โดนโทษมากกว่าเพื่อนคือฮอร์โมนแอนโดรเจน แม้แบคทีเรียหรือเชื้อโรคอันเกิดจากการไม่รักษาความสะอาดยังเป็นรอง
ส่วนจำนวนสิวจะมากหรือสิวน้อยนั้น
ตัวชี้บอกอันดับหนึ่งไม่ใช่เรื่องของการรักษาความสะอาด ไม่ใช่เรื่องของอาหาร
ไม่ใช่เรื่องของฤดูกาล ไม่ใช่เรื่องของอารมณ์ร้าย แต่เป็นเรื่องของกรรมพันธุ์! ขอให้สังเกตเถิดว่าถ้าโรคไหนมีชนวนจากจากกรรมพันธุ์เป็นหลัก
โรคนั้นจะปราบยากมากถึงยากที่สุด
ฮอร์โมนและกรรมพันธุ์เป็นองค์ประกอบทางกาย
เป็นเรื่องของรูปธรรม พระพุทธเจ้าตรัสว่าสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
คุณสมบัติและรายละเอียดต่างๆทางกายก็ถูกกำหนดด้วยกรรมเก่าทั้งสิ้น
จะหยาบหรือประณีตแค่ไหน จะน่ามองหรือน่าเมิน จะอยู่สบายหรืออยู่ไม่สุข ล้วนไม่ใช่เรื่องของความบังเอิญ
ไม่ใช่เรื่องที่จะถูกสิ่งแวดล้อมกำหนด โรคหรือข้อบกพร่องทางกายที่รักษายาก
จะฟ้องว่าเคยทำบาปไว้หนักหรือนาน กรรมเก่าซึ่งทำหน้าที่คุมรูปกายนี้
จึงยื้อไว้ยืดเยื้อ ไม่อนุญาตให้มีทางออกง่ายนัก
หากมองโดยภาพรวม
สิวบนใบหน้าทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับหน้าตา หรือแม้ไม่ห่วงสวยห่วงงาม
ตอนชำระล้างทำความสะอาดหรือแม้จะนั่งอยู่เฉยๆก็อาจเจ็บปวดทรมานบนใบหน้าได้
นับว่าเป็นวิบากที่ทารุณไม่เบา วิบากที่เกิดขึ้นกับใบหน้า
มักมาจากกรรมที่ทำประจำจนติดเป็นนิสัย
หรือมาจากกรรมที่ทำอย่างหนักหน่วงกับบุคคลอันเป็นผู้ทรงคุณ
ส่วนใหญ่กรรมเก่าของคนเป็นโรคผิวหนังเรื้อรังจะมาจาก
๑) การพูดประทุษร้าย
การกล่าวตู่ผู้ทรงคุณเป็นนิตย์ ผู้ทรงคุณในที่นี้หมายถึงผู้มีพระคุณเช่นบิดามารดา
หรือผู้มีศีลสัตย์บริสุทธิ์
ตลอดจนอริยบุคคลในพุทธศาสนาตั้งแต่พระโสดาบันจนถึงพระอรหันต์ การเป็นโรคผิวหนังจากกรรมประเภทนี้มักมาในรูปที่ก่อให้เกิดความเจ็บปวด
ความแสบร้อน หรือเป็นผื่นคันทรมาน รวมทั้งการมีสิวเห่อเป็นแผงๆชนิดกำจัดยาก
กำจัดแล้วก็เป็นอีก เพราะเหมือนผิวหนังจะถูกสร้างขึ้นมาจากวจีทุจริตโดยตรง
๒)
การกลั่นแกล้งให้ผู้อื่นเกิดบาดแผลหรือใช้ยาพิษกับศัตรู
ประเภทเอาหมามุ่ยไปโรยแกล้งชาวบ้านด้วยความสนุกคึกคะนองบ่อยๆ
หรือประเภทหึงหวงสามีแล้วเอาน้ำกรดไปสาดหน้าเมียน้อย
เหล่านี้อาจเป็นโรคเกี่ยวกับผิวหนังได้ตั้งแต่ขั้นเบาะๆตามหน้าตา
ไปจนถึงขั้นรายแรงคันคะเยอเห่อแสบทั่วทั้งร่างกาย
นอกจากกรรมเก่าแล้ว
กรรมใหม่ก็เป็นเหตุให้เกิดสิวได้พิสดาร เช่นถ้าคุณเป็นคนดีมีศีลสัตย์สะอาดหมดจดสัก
๕ ปี ผลคือจะมีผิวพรรณละเอียดผุดผ่องขึ้นกว่าเดิมมาก
ทีนี้พอพลาดไปทำเรื่องโลภๆโกรธๆชนิดหน้ามืดยืดเยื้อสักครึ่งชั่วโมง
สิวอาจผุดขึ้นมาทันตาเห็น ถ้าผิดน้อยหน่อยก็อาจขึ้นตามคางหรือตามแนวข้างที่ไม่ค่อยเห็นจากการมองตรง
แต่ถ้าผิดมากหน่อยก็อาจปูดโปนแบบเด่นชัดเห็นง่าย
ทั้งนี้ก็เป็นวิธีเตือนของธรรมชาติอย่างหนึ่ง
ไม่ให้เราออกนอกทางของความดีงามง่ายนัก
ส่วนถ้าผิวพรรณผุดผ่องมาแต่เกิด
สะท้อนความเป็นคนดีมีศีลสัตย์อย่างเข้มแข็งในชั่วชีวิตก่อน อันนี้แม้หน้ามืดด้วยโลภะโทสะหนักๆก็อาจจะยังไม่เห็นผลเร็วทันตา
อาจต้องสะสมบาปอยู่หลายปีกว่าความหมองจะปรากฏ
หรือต้องคิดปรามาสหรือจาบจ้วงอริยเจ้าด้วยเจตนาประทุษร้าย สิวถึงผุดขึ้นฟ้องบาปได้
สำหรับการรักษา
ขอแนะนำให้รักษาด้วยวิธีที่ทันสมัยตามคลินิกที่น่าเชื่อถือก่อน
เพราะการใช้รูปธรรมแก้รูปธรรมนั้น ง่ายกว่าการใช้นามธรรมแก้รูปธรรม
แต่หากลองเท่าไหร่ๆแล้วไม่ช่วยให้กระเตื้อง
ก็อาจใช้ทางลัดที่เป็นไปได้ของกรรมวิบากดูบ้าง หลักการคือทำความดีอย่างเป็นรูปธรรม
แบบที่จะปรากฏเป็นภาพกระทบตางดงามผุดผ่อง เพื่อให้ใครๆได้เห็นแล้วเกิดความชื่นชมเลื่อมใส
ยกตัวอย่างเช่นอาสาทำความสะอาดพระพุทธรูปตามวัด
เอาแบบที่เราตระเวนไปดูแล้วเห็นว่าเริ่มมีคราบฝุ่นสกปรกเกาะติด
ถ้าลงมือขัดถูอย่างดีเป็นสิบเป็นร้อยองค์
มีใจเบิกบานสดชื่นรื่นเริงเป็นอันดีกับการเห็นพระปฏิมาแต่ละองค์ผ่องใสขึ้น
คุณจะรู้สึกถึงรังสีเฉิดฉายบางอย่างที่สว่างออกมาทางใบหน้าเลยทีเดียว
และสัญชาตญาณทางจิตจะบอกคุณเลยว่ารังสีเฉิดฉายประมาณนี้ จะค่อยๆชนะ
ค่อยๆกลบทับริ้วรอยอันไม่พึงประสงค์บนใบหน้าได้แน่ๆ
ถ้าใจถึงยิ่งกว่านั้น
ลองเป็นอาสาสมัครล้างส้วมให้พระเณรดู คุณถือเครื่องมือทำความสะอาดเดินดุ่ยๆเข้าไปได้ทุกวัด
เขาไม่ห้าม งานนี้เป็นไปตามหลักที่ว่าถ้าเอาความสกปรกออกจากวัด
ก็เท่ากับเอาวิบากสกปรกออกจากตัว จะมากหรือน้อยย่อมเห็นผลประจักษ์ในไม่ช้า
การถวายจีวรเนื้อดีเป็นสิบเป็นร้อยผืนก็มีส่วนช่วยได้มาก
เพราะการถวายจีวรหรือให้เครื่องนุ่งห่มแก่ผู้ต้องการ
จะเป็นบุญประเภทที่ให้ผลกับผิวหนังโดยตรง เนื่องจากอาภรณ์เป็นเครื่องห่อหุ้ม
และผิวหนังก็ทำหน้าที่ห่อหุ้มความเป็นตัวเราไว้
หากจะทำกรรมที่ตรงเหตุ
แต่เห็นผลไม่หวือหวาทันใจ ก็ขอให้ตั้งจิตรักษาศีล ๕ ให้สะอาดหมดจด
โดยเฉพาะข้อที่เกี่ยวกับวาจา คุณต้องมีเมตตาท่วมทับเจตนาร้าย ไม่พูดโกหก
ไม่พูดหยาบ ไม่พูดส่อเสียด และไม่พูดเพ้อเจ้อ ถ้าทำได้แม้ในระดับความคิด
กระทั่งรู้สึกถึงอานุภาพของศีลที่ฉายแสงเรืองออกมาจากภายใน อธิษฐานกำกับไปด้วย
ว่าข้าพเจ้าจะไม่เป็นผู้ประทุษร้ายตนเองและผู้อื่นด้วยคำพูดอีก
ขอให้กรรมคือความตั้งใจดีนี้ จงชำระสิ่งสกปรกออกจากตัวของข้าพเจ้า
แล้วให้ผลเป็นความมีผิวเนื้อที่น่าพิศ ไม่เหลือร่องรอยน่ารังเกียจใดๆอีก
หากทำด้วยความมีศรัทธาเปี่ยมล้น
ก็น่าจะเห็นผลในเวลาไม่เนิ่นช้าครับ ภายในหนึ่งปีต้องทุเลาลงอย่างเห็นได้ชัดแน่ๆ
ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานเลยก็ดี
หมายเหตุย้ำไว้นิดหนึ่ง
การจะระบุว่าเป็นโรคเวรโรคกรรมนั้น ต้องดูเบื้องต้นด้วยว่าไม่ใช่โรคติดต่อ
หรือไปคลุกกับความสกปรกติดตัวมา แต่จะต้องเกิดขึ้นเอง
รักษาเท่าไหร่ก็ไม่หายแม้จะด้วยวิทยาการทันสมัย ถึงหายแล้วก็กลับเป็นอีก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น