ถาม : กรรมเก่ากับกรรมใหม่ทำงานร่วมกันหรือเป็นต่างหากจากกันครับ?
>
จากหนังสือ เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว เล่มที่ ๙
ดังตฤณ:
พระพุทธเจ้าตรัสว่า กายมนุษย์กับใจมนุษย์นี้ คือผลของกรรมเก่าของพวกเรา ส่วนเจตนาดีร้ายที่กำลังควบคุมได้ ถือเป็นกรรมใหม่ของพวกเรา หากยึดถือตามนี้ ก็แปลว่าไม่มีอะไรเป็นต่างหากจากกันได้หรอกครับ กรรมเก่าส่งอะไรมาให้คุณก้อนหนึ่ง ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณบริหารก้อนอะไรนั้นด้วยความคิดอ่านแบบไหนนั่นเอง
หากคุณนั่งตากลมหนาวจนเป็นไข้
นอนซมสองสามวันแล้วหาย อย่างนี้คุณจะไปถามว่านั่นเป็นกรรมเก่ามาแต่ปางใดไม่ได้
กรรมเก่าของคุณเอื้อเฟื้อร่างมนุษย์ให้แล้ว แต่คุณไม่ระวังเอง
ปล่อยให้กายถูกแดดลมรุกรานโดยไม่ป้องกันให้ดี
กรรมเก่าอาจเอื้อให้คุณมีบ้านที่ตั้งอยู่บนจุดชมวิวงดงาม
แต่คุณเลือกที่จะปิดม่านหมดทุกด้าน คุณก็ไม่ได้เห็นวิวงามสักด้านเดียว
กรรมเก่าอาจเอื้อให้คุณซื้อแกรนด์เปียโนได้หลังละสิบล้าน
แต่คุณไม่ขยันเรียน ไม่ให้เวลาซ้อม ผลคือเล่นไม่ค่อยเป็น หรือเล่นไม่ถูกคีย์
บุญเก่าอันยิ่งใหญ่ของคุณก็ส่งเสียงออกมาไม่เป็นสับปะรดอยู่ดี
หรือเอาอย่างง่ายที่สุด
มนุษย์ทุกคนมีสิทธิ์เงยหน้าขึ้นมองหมู่ดาวพราวสวย แต่สังเกตเถิด
ฝูงชนเอาแต่ทอดตามองดิน มองขยะสกปรกบนดิน ขี้เกียจแหงนคอตั้งบ่าชมฟ้ากันทั้งนั้น
และในทางกลับกัน
กรรมเก่าอาจเอื้อให้คุณได้บ้านโกโรโกโส แต่คุณมีความฝัน มีความเพียรตกแต่งทีละเล็กทีละน้อยตามกำลัง
กระทั่งได้บ้านน้อยน่าอยู่ น่าดูทุกมุมมองขึ้นมา
แม้ไม่มีทัศนียภาพภายนอกที่น่าชื่นตา แต่คนเข้ามาภายในก็ชื่นใจอยู่ดี
กรรมเก่าอาจเอื้อให้คุณซื้อได้แค่เปียโนกระจอก
เสียงบอดไปหลายคีย์ แต่คุณมุมานะ ศึกษาและฝึกฝนอย่างเอาเป็นเอาตาย ในที่สุดบุญเก่ากระจ้อยร่อยก็ส่งเสียงทรงเสน่ห์ออกมาได้
หรือเอาอย่างง่ายที่สุด
ต่อให้คุณไม่มีสิทธิ์เห็นดาวเห็นเดือน เพราะกรรมเก่าส่งให้ติดอยู่ในถ้ำมืด
ทว่าคุณรู้จักบำเพ็ญสมาธิ สำเร็จฌาน สำเร็จอภิญญา
ก็อาจถอดจิตออกไปชมดาวเดือนได้นั่นเชียว
จากตัวอย่างที่กล่าวมา
คงได้ข้อสรุปว่า กรรมเก่าส่งมาอย่างไร คงไม่สำคัญกว่าคุณพยายามทำกรรมใหม่ให้ดีขึ้นแค่ไหน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น