วันอังคารที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

การทำงานร่วมกันระหว่างกรรมเก่ากับกรรมใหม่ (ดังตฤณ)

ถาม : กรรมเก่ากับกรรมใหม่ทำงานร่วมกันหรือเป็นต่างหากจากกันครับ?

> จากหนังสือ เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว เล่มที่ ๙

ดังตฤณ: 
พระพุทธเจ้าตรัสว่า กายมนุษย์กับใจมนุษย์นี้ คือผลของกรรมเก่าของพวกเรา ส่วนเจตนาดีร้ายที่กำลังควบคุมได้ ถือเป็นกรรมใหม่ของพวกเรา หากยึดถือตามนี้ ก็แปลว่าไม่มีอะไรเป็นต่างหากจากกันได้หรอกครับ กรรมเก่าส่งอะไรมาให้คุณก้อนหนึ่ง ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณบริหารก้อนอะไรนั้นด้วยความคิดอ่านแบบไหนนั่นเอง

หากคุณนั่งตากลมหนาวจนเป็นไข้ นอนซมสองสามวันแล้วหาย อย่างนี้คุณจะไปถามว่านั่นเป็นกรรมเก่ามาแต่ปางใดไม่ได้ กรรมเก่าของคุณเอื้อเฟื้อร่างมนุษย์ให้แล้ว แต่คุณไม่ระวังเอง ปล่อยให้กายถูกแดดลมรุกรานโดยไม่ป้องกันให้ดี

กรรมเก่าอาจเอื้อให้คุณมีบ้านที่ตั้งอยู่บนจุดชมวิวงดงาม แต่คุณเลือกที่จะปิดม่านหมดทุกด้าน คุณก็ไม่ได้เห็นวิวงามสักด้านเดียว

กรรมเก่าอาจเอื้อให้คุณซื้อแกรนด์เปียโนได้หลังละสิบล้าน แต่คุณไม่ขยันเรียน ไม่ให้เวลาซ้อม ผลคือเล่นไม่ค่อยเป็น หรือเล่นไม่ถูกคีย์ บุญเก่าอันยิ่งใหญ่ของคุณก็ส่งเสียงออกมาไม่เป็นสับปะรดอยู่ดี

หรือเอาอย่างง่ายที่สุด มนุษย์ทุกคนมีสิทธิ์เงยหน้าขึ้นมองหมู่ดาวพราวสวย แต่สังเกตเถิด ฝูงชนเอาแต่ทอดตามองดิน มองขยะสกปรกบนดิน ขี้เกียจแหงนคอตั้งบ่าชมฟ้ากันทั้งนั้น

และในทางกลับกัน กรรมเก่าอาจเอื้อให้คุณได้บ้านโกโรโกโส แต่คุณมีความฝัน มีความเพียรตกแต่งทีละเล็กทีละน้อยตามกำลัง กระทั่งได้บ้านน้อยน่าอยู่ น่าดูทุกมุมมองขึ้นมา แม้ไม่มีทัศนียภาพภายนอกที่น่าชื่นตา แต่คนเข้ามาภายในก็ชื่นใจอยู่ดี

กรรมเก่าอาจเอื้อให้คุณซื้อได้แค่เปียโนกระจอก เสียงบอดไปหลายคีย์ แต่คุณมุมานะ ศึกษาและฝึกฝนอย่างเอาเป็นเอาตาย ในที่สุดบุญเก่ากระจ้อยร่อยก็ส่งเสียงทรงเสน่ห์ออกมาได้

หรือเอาอย่างง่ายที่สุด ต่อให้คุณไม่มีสิทธิ์เห็นดาวเห็นเดือน เพราะกรรมเก่าส่งให้ติดอยู่ในถ้ำมืด ทว่าคุณรู้จักบำเพ็ญสมาธิ สำเร็จฌาน สำเร็จอภิญญา ก็อาจถอดจิตออกไปชมดาวเดือนได้นั่นเชียว


จากตัวอย่างที่กล่าวมา คงได้ข้อสรุปว่า กรรมเก่าส่งมาอย่างไร คงไม่สำคัญกว่าคุณพยายามทำกรรมใหม่ให้ดีขึ้นแค่ไหน 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น