วันอังคารที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

คำสาบานเป็นจริงแค่ไหน (ดังตฤณ)

ถาม : ที่เชื่อกันว่าพูดสาบานเช่นไรจะต้องไปรับผลเช่นนั้นนี่จริงไหมครับ?

> จากหนังสือ เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว เล่มที่ ๑๐

ดังตฤณ: 
อันนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าสาบานแบบไหน ยืนพื้นอยู่บนความชั่วร้ายระดับไหนด้วยครับ ยกตัวอย่างเช่นบางคนสาบานมั่ว เช่นขอให้ฟ้าผ่า ใจก็นึกอยู่แล้วว่าฟ้าไม่มีทางผ่าตัวเองถูก ชอบเดินในร่ม ไม่ชอบตากฝนอยู่แล้ว เป็นต้น

มาดูตัวอย่างจริงที่บันทึกไว้ในคัมภีร์พุทธกันดีกว่า จาก ปัญจปุตตขาทิกเปตวัตถุ สตรีนางหนึ่งมีใจประทุษร้าย แกล้งทำให้หญิงร่วมสามีแท้งลูก เมื่อถูกซักไซ้ไล่เลียงว่าเป็นต้นเหตุหรือไม่ นางกลับแสร้งสบถสาบานว่าถ้าทำชั่วได้ขนาดนี้ ก็ขอให้ไปเป็นพวกกินเนื้อลูกตัวเองเถิด

นี่แหละ ตัวอย่างของการสาบานส่งเดช ใจคงนึกว่าอย่างไรคำสาบานก็ไม่มีทางให้ผล เพราะคงไม่มีมนุษย์คนไหนเสียสติขนาดกินลูกตัวเองได้ แต่ความจริงก็คือมนุษย์เราถูกปิดบังไม่ให้เห็นสภาพในภพอื่น มิติอื่น ที่เป็นอะไรก็ได้เหมือนฝัน แต่ไม่เลอะเลือนปรวนแปรเร็วอย่างฝัน นอกจากโลกมนุษย์นี้ยังมีโลกนรก โลกเดรัจฉาน โลกเปรต คอยท่าที่จะลงโทษทัณฑ์อันไม่อาจเกิดขึ้นในสภาพมนุษย์

เมื่อถึงเวลาที่นางทำกาละ นาทีสุดท้ายของชีวิตนั้นเอง ธรรมชาติได้ประมวลกรรมทั้งชีวิตที่นางทำ ไม่พบว่ามีกรรมใดทั้งดีและชั่วน้ำหนักเหนือกว่ากรรมที่ฆ่าเด็กในครรภ์หญิงร่วมสามี กรรมฆ่าเด็กจึงถูกเลือกให้เป็น ‘ชนกกรรม’ คือเป็นหัวรถจักรนำขบวนไปสู่ภพแห่งเปรต

หลังฟื้นจากภวังค์แรกในภพใหม่ นางพบตนเองอีกครั้งในสภาพเปลือยกาย มีผิวพรรณทราม มีกลิ่นเหม็นฟุ้ง มีแมลงวันไต่ตอมเป็นกระจุก ที่ย่ำแย่กว่านั้นคือเช้าต้องคลอดบุตร ๕ ตน แล้วมีแถมมื้อเย็นอีก ๕ เสียด้วย ยังไม่พอ ตอนคลอดปุ๊บก็ต้องกินลูกตัวเองปั๊บเพื่อดับความหิว โดยไม่อาจหักห้ามใจตนเองได้ เนื่องจากกรรมชั่วที่ลั่นสาบานไว้คอยบีบให้ต้องทำแบบไม่มีสิทธิ์ยับยั้งชั่งใจ

นี่คือตัวอย่างที่ไม่ควรเอาเยี่ยง นางมีกรรมคือปาณาติบาตให้ต้องเสวยผลอยู่แล้ว แถมกำหนดวิธีเสวยผลด้วยการสาบาน คือระบุเสร็จสรรพว่าถ้าทำจริงขอให้ต้องกินลูกตัวเอง แล้วในที่สุดก็ต้องไปกินลูกตัวเองจริงๆ คลอดแล้วกิน คลอดแล้วกิน นับว่าตายแล้วต้องไปเป็นผู้ถึงความพินาศ ไม่อาจแก้ตัวจากปาณาติบาต และไม่อาจแก้คำสาบานที่นึกว่าไม่มีผล

แค่อ่านดูสำนวนของนางผู้ไปเป็นเปรตรายนี้เพียงประโยคเดียว ก็เดาได้ไม่ยากเลยครับว่านิสัยใจคอเป็นอย่างไร ทำบาปโดยไม่ละอาย โกหกตาไม่กะพริบ แถมเป็นพวกหยาบคาย บาปที่หนาจึงบดบังปัญญามิด ไม่มีโอกาสสำนึกผิดจนตาย

ขอให้ทำความเข้าใจโดยทั่วกันว่าคำสาบานที่ยืนพื้นอยู่บนการอ้างกรรมที่ทำไปจริงๆนั้น ที่แท้ก็คือการตั้งอธิษฐานโดยอาศัยสัจจะนั่นเอง กรณีของนางเปรตนี้คือตัวอย่างของการทำบาปไปจริงๆ แต่ดันทะลึ่งโกหกว่าไม่ได้ทำ ถึงกับยอมลงทุนสบถสาบานเรื่อยเปื่อยหวังเอาตัวรอดเฉพาะหน้า หากนางไม่ได้ฆ่าแล้วสาบานเช่นเดียวกันนี้ ผลที่จะต้องไปกินลูกก็ไม่เกิดขึ้นเลย


เท่าที่เห็นมา การท้าทายให้สาบานมักเจืออยู่ด้วยโทสะ คำสาบานจึงควบคู่มากับคำสาปแช่งด้วยจิตที่หยาบคายเสมอๆ ถ้ากูทำขอให้กูพินาศ แต่ถ้าไม่ทำขอให้มึงพินาศแทน อะไรแบบนี้นะครับ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ทำจริงๆ แล้วก็ไม่ต้องรับผลของคำสาบาน แต่อย่างไรก็ได้ชื่อว่าก่อวจีทุจริต คิดประทุษร้ายผู้อื่นอยู่ดี ตนย่อมได้รับผลเป็นภัยเวร หรือได้รับความเดือดร้อนรำคาญใจอันเป็นผลสะท้อนจากการสาปแช่งในทางใดทางหนึ่ง ใช่ว่าสาปแช่งแล้วจะมีผลเป็นความสวัสดีมีชัยแต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น