วันจันทร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ฝันถึงแฟนเพื่อนแล้วอยากได้เป็นแฟนมาก (ดังตฤณ)

ถาม : กำลังรู้สึกแย่มากๆครับ แอบรักแฟนเพื่อน สาบานได้ว่าตอนเจอกันไม่คิดอะไรเลย ไม่เคยนึกถึง ไม่เคยรู้สึกผูกพัน แต่อยู่ดีๆก็ฝันถึงขึ้นมาเฉยๆ ฝันทั้งคืน กลางดึกตื่นขึ้นมาแล้วหลับใหม่ก็ฝันต่อ ในฝันเป็นจริงเป็นจังมาก คล้ายเธอมีใจออกห่างจากแฟนแล้ว และหันมาสนใจผม ความใกล้ชิดในฝันเป็นความรู้สึกอ่อนหวานอย่างบอกไม่ถูก ตัวจริงของเธอกับในฝันน่าหลงใหลพอๆกันเลย พอตื่นแล้วรู้ว่าแค่ฝันไปไม่ใช่เรื่องจริงนี่แทบคลั่งตาย เหมือนโดนอะไรบีบรัดหัวใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน คำถามคือผมต้องกลายมาเป็นคนคิดไม่ซื่อกับเพื่อนเพียงเพราะฝันแค่คืนเดียวอย่างนี้ มันแปลว่ามีกรรมเก่ามากระตุ้นหรือบังคับให้ต้องทำผิดหรือเปล่าครับ? และที่สงสัยมากๆคือถ้าเธอเลิกกับแฟนแล้วมาหาผมจริงๆ จะมีใครผิดศีลข้อกาเมสุมิจฉาจารไหม? อยากลองถามเธอดูเหมือนกันว่าเธอฝันเหมือนผมหรือคล้ายผมบ้างไหม ถ้าหากเธอตอบว่าฝันเหมือนกัน นี่จะแปลว่าเป็นบุพเพสันนิวาสบันดาลให้เจอกันในฝันหรือเปล่า?

> จากหนังสือ เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว เล่มที่ ๘

ดังตฤณ: 
ผมเข้าใจดีครับ ว่าตราบใดยังมีความยึดมั่นถือมั่น ตราบนั้นคนเราโดนยั่วให้หลงติดกับท่าไหนก็ได้ วิธีไหนก็ได้ จะเป็นรูปที่เห็นด้วยตา ภาพที่เห็นในฝัน หรือนิมิตที่เห็นในสมาธิก็ตาม คุณไม่ได้ตั้งใจจะหลง แต่เกิดภาพเสียงบังคับให้หลง อันนี้ไม่เป็นไร ช่างมัน แต่ขอให้ทำใจว่าเมื่อเริ่มต้นด้วยความฝัน ก็จงจบลงอย่างฝันเถิด อย่าปล่อยให้เลยเถิดเป็นเรื่องจริงอันไม่ชอบไม่ควรเลย

ขอให้คิดเสียว่ามนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถเสพสุขผ่านฝัน เป็นสุขแล้วก็พอแล้ว อย่าให้สุขนั้นผันตัวเป็นทุกข์ต่อ โดยการเสี่ยงทำเรื่องบาดใจ ที่ไม่รู้ว่าจะออกหัวหรือออกก้อยในอนาคต

ที่คุณกล่าวมา มีคำสำคัญคำหนึ่ง คือ ‘ตัวจริงของเธอกับในฝันน่าหลงใหลพอๆกัน’ นี่สะท้อนให้เห็นว่าในส่วนลึกคุณแอบสนใจ หรือแอบหลงใหลเธออยู่ แต่ขณะลืมตาตื่นถูกสำนึกผิดชอบชั่วดีกดทับหรือปกปิดตัวเองจากความรู้สึกทำนองนี้ไว้ แล้วมาเปิดเผยเอาโล่งโจ้งในความฝัน ในความฝันของคนเราเหลือแต่ความรู้สึกที่แท้จริง เป็นจิตดิบๆที่มีกำลังอ่อน ไม่มีม่านมโนธรรมอันใดมาห้ามปราม ภาพและเสียงทั้งหลายจึงล้วนเป็นสิ่งที่จิตแฉตัวเองหมดเปลือก

ที่คุณรู้สึกเหมือนถูกร้อยรัด วาบหวามสุดจะบรรยาย อันนั้นแหละเป็น ‘ของจริง’ ชิ้นเดียวท่ามกลางภาพเสียงลวงใจ ความรู้สึกแสนวิเศษที่เกิดขึ้นจริงย่อมติดตามมาหลอกหลอนคุณในยามตื่นด้วยเป็นธรรมดา เพราะคนเราสามารถจดจำความรู้สึกสุขได้ ไม่ว่าสุขนั้นจะเกิดจากประสบการณ์เข้าหูเข้าตาขณะตื่น หรือเกิดจากภาพฝันกระทบใจยามหลับ

มองจากมุมของกรรมวิบากแล้ว คุณกำลังอยู่ในเกมที่มีเหยื่อล่อมายั่วให้ทำผิด เหยื่อล่อนั้นมาในรูปของความสุขอาบมนต์ขลังล้ำลึก คุณถูกบีบให้รู้สึกเหมือนทนไม่ได้ และอยากเข้าข้างตัวเองว่านี่คือคู่แท้ที่ติดตามกันมาจากอดีตชาติ ลองตรองในขณะตื่นเต็มตาสักห้านาที แล้วคุณจะตาสว่าง ว่าถ้าบุญที่ทำร่วมกับเขามาดีจริง ก็คงชักนำคุณไปเจอเขาก่อนเขาจะเป็นของเพื่อนคุณ บุญเก่าคงไม่แกล้งเอาเครื่องขวางกั้นมากันท่าให้ประดักประเดิดเช่นนี้แน่

ที่ตื่นขึ้นมาแล้วหลับใหม่ยังฝันต่อ ก็ไม่ใช่เรื่องลึกลับน่าตื่นเต้นประหลาดใจอะไรเลย เพราะธรรมชาติของจิตนั้นเป็นสิ่งถูกดึงดูดให้ติดอยู่กับภาวะหรือภพอันน่าชอบใจได้ง่าย ไม่ต่างจากขี้เหล็กโดนแม่เหล็กดึงดูดด้วยสนามพลังขนาดใหญ่ ขอเพียงมีความติดใจรุนแรง มีความยึดมั่นถือมั่นทะยานอยากมากพอ คุณหลับลงไปกี่ครั้ง จิตก็วิ่งเข้าไปหาภพที่ชอบได้ร่ำไป

ที่รู้สึกชัดเจนเป็นจริงเป็นจัง ก็เพราะจิตถูกดึงดูดด้วยอารมณ์น่าชอบใจ ให้จดจ่อตั้งมั่นอยู่กับอารมณ์แบบนั้น ความชัดเจนเป็นจริงเป็นจังหาใช่เครื่องยืนยันใดๆ ว่าบุคคลในฝันคือเนื้อคู่ ความคมชัดสมจริงของนิมิตฝันเกิดขึ้นกับจิตที่มีกำลัง สามารถก้าวลงสู่ความหลับได้ลึกจนตัดความเกี่ยวพันกับประสาทกาย แต่ก็ดิ่งลงไม่ถึงพื้นยืนสุดท้ายที่จะหลับสนิท เงียบนิ่งไร้การรู้เห็นใดๆ

ที่คุณรู้สึกทรมาน ก็เป็นหลักฐานยืนยันว่าความสัมพันธ์นี้ไม่เหมาะ ไม่สม ไม่กลมกลืนกับความเป็นจริง หากยอมตัวเป็นคนอ่อนแอ คุณจะพบว่าความทรมานใจเป็นเครื่องเร่งเร้าให้หาทางออกแบบผิดๆเสมอ แต่ขณะเดียวกันความทรมานใจก็อาจเป็นของดี เพราะสะท้อนให้เห็นว่าคุณไม่มักง่าย คนมักง่ายจะเฉยชา ไม่สนใจว่าเขาจะมีหรือไม่มีเจ้าของแต่อย่างใด คิดแค่ว่าจะหน้าด้านแย่งซะอย่าง

ที่กล่าวว่าตอนลืมตาตื่นไม่คิดอะไร น่าแปลกใจที่เพิ่งมาฝัน และเป็นฝันทั้งคืน อันนี้พูดได้สองแบบ ถ้าเอาแบบเข้าข้างก็คือในระหว่างวัน ฝ่ายหญิงเขาคิดถึงคุณอย่างแรง หนักแน่น ต่อเนื่อง เมื่อสั่งสมเป็นคลื่นพลังเข้มข้นมากพอ ก็พุ่งเข้ามาปะทะจิตคุณได้จังๆ โดยเฉพาะในขณะที่หลับลึกพอ ทั้งนี้ถ้าจิตของคุณไม่มีสื่อ คือใจไม่ตรงกับเขาอยู่บ้าง ก็จะเห็นตัวเองในฝันบ่ายเบี่ยง หลบเลี่ยงหลีกหนี ไม่ใช่พลอยร่วมยินดีเหมือนที่ผ่านมา

และถ้ากล่าวอย่างไม่เข้าข้างเพื่อให้เป็นกลางๆบ้าง จุดเริ่มต้นอาจมาจากคุณเอง คือมีคลื่นความรู้สึกถวิลถึงเธออยู่ในส่วนลึก อาจเก็บกดหรือเร้นซ่อนมานาน พอสบช่องเข้าล็อกขึ้นมา ก็แปรเป็นภาพเสียงในฝันเป็นตุเป็นตะ ยิ่งถ้าตื่นขึ้นมาคิดฟุ้งซ่านต่างๆนานามากเท่าไร ใจก็จะยิ่งอยากเข้าข้างตัวเองมากขึ้นเท่านั้น ทั้งที่ฝ่ายหญิงเขาไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรด้วยเลย

ถ้าเธอเลิกกับแฟนจริง อันนั้นคงไม่เป็นไรสักเท่าไหร่ แต่ขอให้แน่ใจว่าไม่ใช่เริ่มมาจากการชักชวนของคุณก็แล้วกัน เช่นไปถามเขาดื้อๆว่าเธอฝันอย่างฉันหรือเปล่า พอเขาถามว่าฝันอะไรก็ค่อยๆแพลมนิดแพลมหน่อย ไม้นี้ใช้กันเยอะครับ จริงบ้างไม่จริงบ้าง แต่ที่จริงแน่ๆก็คือตอนตกลงใจถามให้รู้เรื่อง ก็ได้ชื่อว่ามีรูปมือที่สามปรากฏรอยจางๆบนหน้าผากคุณเรียบร้อยแล้ว

คิดให้ขาด ปลงให้ตก เพื่อหักห้ามใจโดยไม่ต้องฝืนมาก วัดแค่ความรู้สึกผมก็ว่าน่าประดักประเดิดพออยู่แล้ว กับการเอาแฟนเก่าของเพื่อนมาเป็นแฟนใหม่ของตัว นี่ถึงขนาดว่าคุณเองคือต้นเหตุการเลิกร้างของเขา ผมว่าชวนพะอืดพะอมน่าดูเลย


ถ้าชายทั้งหลายปฏิบัติกับหญิงมีเจ้าของได้ดุจเดียวกับที่พวกเธอเป็นความฝัน ฝันผ่านไปก็ตระหนักว่าแค่ฝันผ่านไป ไม่อาลัยอาวรณ์ กรรมข้อกาเมสุมิจฉาจารก็จะไม่ผุดเป็นดอกเห็ดอย่างทุกวันนี้ แต่เพราะฝันนิดฝันหน่อยแล้วทึกทักว่าใช่ ตื่นขึ้นมาจะเอาจริงเอาจัง นั่นแหละหายนะทางเพศถึงระบาดไปทั่วเมืองไงครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น