วันเสาร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ทำอย่างไรจะเลิกหดหู่สำนึกผิดจากการทำแท้ง (ดังตฤณ)

ถาม : ทำอย่างไรจะเลิกสำนึกผิด เลิกหดหู่เศร้าสร้อยจากการทำแท้งได้คะ? กลัวบาปกลัวกรรม กลัวจะต้องไปชดใช้ในชาติหน้าเหลือเกิน

> จากหนังสือ เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว เล่มที่ ๖

ดังตฤณ: 
การรู้สึกผิดนั้นดีครับ แต่อย่ารู้สึกผิดนาน อย่าโทษตัวเอง อย่าด่าตัวเองไม่เลิก ขอให้มองความ ทารุณจิตใจในการทำแท้ง เป็นบทเรียนสำคัญที่เจ็บแสบและมีราคาแพงที่สุดในชีวิต บทเรียนไม่ได้มี ไว้ให้ทรมานนาน แต่มีไว้ให้จำนานๆ เข็ดหลาบนานๆ และทำสอบครั้งต่อไปให้ผ่าน หักห้ามจิตใจไม่ให้หลงก่อเหตุอันจะนำไปสู่ปัญหาอีก เรื่องโหดร้ายที่กลายเป็นบทเรียนอันทรงคุณค่านั้น มักเป็นจุดหักเหชีวิตที่สำคัญ เปลี่ยนจากเด็กไร้เดียงสาให้เป็นผู้ใหญ่ที่สุขุมและเท่าทันโลก เปลี่ยนคนไร้จุดหมายให้กลายเป็นคนอยู่เพื่อจุดหมาย เปลี่ยนจากคนไม่เชื่อบุญบาปเป็นศรัทธากรรมวิบากได้

บาปทวีกำลังขึ้นได้จากการลงมือทำบาป ด้วยใจยินดี หรือด้วยความเต็มใจ หรือด้วยความขาดสำนึกผิดชอบ ฉะนั้นถ้าคุณรู้สึกผิดแล้วก็ดีแล้ว เพราะแสดงว่าใจไม่มีความยินดีในบาป บาปนั้นก็เป็นบาปชนิดที่ผ่อนผันได้ ทำดีหนีการไล่ล่าของบาปไหวอยู่



แม้บาปจะไม่แรงขึ้นจากการคิดเสียใจ ยืดเยื้อก็จริง แต่หากคุณฝังใจกับเรื่องน่าเศร้ามากเกินไป ก็อาจโมโหร้าย รู้สึกกดดัน มีแต่ความคิดด่าตัวเอง หรือกระทั่งอยากทำร้ายตัวเองและคนอื่น (ที่ทำให้คุณท้องแล้วต้องทำแท้ง) อันนั้นแหละครับจะกลายเป็นการก่อ ‘บาปใหม่’ โดยใช่เหตุ เอาเวลาไปคิด พูด ทำเรื่องดีๆ ลืมเรื่องที่เปลี่ยนแปลงแก้ไขไม่ได้แล้วเสียเถอะ

.. .. .. .. .. .. .. .. .. ..

ถาม : ดิฉันทำแท้งเพราะว่ายังไม่พร้อมแต่รู้สึกผิดมาก ไม่อยากอภัยให้ตัวเอง ดิฉันทำบุญไปให้เค้าเสมอ แต่คิดว่าไม่มีผลอะไร บาปมันเกาะกินใจหนาแน่นทำให้คิดว่าตัวเองเป็นคนบาป รู้สึกรังเกียจตัวเองมาก จะทำอย่างไรดีคะ?

> จากกระทู้ในเว็บเว็บลานธรรม larndham.net

ดังตฤณ:  
เคยมีเพื่อนคนหนึ่ง
เล่าให้ฟังว่าพอเขาทำแท้งแล้วไม่เป็นสุขเลย
เพราะฝันเห็นเด็กผมจุกอยู่เรื่อย
ดูเหมือนจะมาตัดพ้อต่อว่าไม่ขาด

เรื่องความรู้สึกผิด ความไม่สบายใจในบาปที่ทำไป
เป็นสิ่งกัดกิน ทรมานใจ ทำยังไงก็เหมือนจะห้ามความคิดวกวนไม่ได้
จะให้ตั้งสมาธิทำอะไรก็เหมือนล้มเหลวไม่เป็นท่า

ทางที่ดีน่าจะนึกว่าความรู้สึกผิดแรงๆนั้นมีหลายสาเหตุ
ไม่ใช่เรื่องการทำแท้งอย่างเดียว
มีเรื่องการทำให้คนรักติดโรคสำส่อนเรื้อรัง
มีเรื่องการยืมโฉนดที่ดินพี่น้องมาเล่นไพ่เสียจนเดือดร้อนแทบเป็นบ้า
มีเรื่องการตัดสินใจผิด ทำให้คนทั้งประเทศต้องเป็นหนี้ไอเอ็มเอฟ
มีสารพัดเรื่องที่ทำให้คนทอดอาลัยตายอยากกับความรู้สึกผิด ถอนไม่ขึ้น

ผมเองก็เคยทำผิด สำนึกผิด
เคยรู้สึกเหมือนมีอะไรกัดกร่อนอยู่ในอก
แต่อาจโชคดีที่แก้ความรู้สึกผิดได้
เพราะเจ้ากรรมนายเวรยังมีชีวิตกันอยู่
ยังเห็นหน้าเห็นตา พอจะทำคุณไถ่โทษได้บ้าง
แม้บาปกับบุญจะแยกกันเป็นคนละส่วน
แต่สิ่งที่สำคัญไม่ได้อยู่ตรงบุญบาปที่มองไม่เห็น
มันอยู่ที่ความสบายใจในกลางอกเรานี้มากกว่า
ถ้าเราทำอะไรแล้วสบายใจขึ้นได้ ก็ถือว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ถูก
เป็นความถูกเฉพาะตัว

การคิดมากจนถึงขั้นรังเกียจตัวเอง
หรือกระทั่งจะทำบุญ นั่งสมาธิ ก็รู้สึกว่าเราไม่คู่ควรนั้น
เป็นสัญญาณบอกได้อย่างหนึ่ง
ว่าเรากำลังเข้าใจผิด
และเป็นความเข้าใจผิดชนิดอันตรายร้ายแรง
ทั้งกับตัวเองและคนรอบข้าง
ตัวเองที่ยังมีชีวิต คนรอบข้างที่ยังมีชีวิต
อาจจะรวมทั้งสิ่งไร้ชีวิต
เช่นวิญญาณลูกที่วนเวียนอยู่ด้วยความน้อยใจ
มองไม่เห็นแต่สัมผัสได้จากส่วนลึก
ยิ่งเรากระวนกระวายเศร้าสร้อยมากเท่าไหร่
ก็ยิ่งกลายเป็นแรงเร่งให้วิญญาณเขาไม่เป็นสุขเท่านั้น

การแก้ความเข้าใจผิดเป็นเรื่องยาก
โดยเฉพาะถ้าเป็นคนมีนิสัยช่างคิดช่างย้ำ
ลองหัดเปลี่ยนมุมมองใหม่
ก่อนหลับก็เป็นคนหนึ่ง ขณะฝันก็เป็นอีกคนหนึ่ง ตอนตื่นก็เป็นอีกคนหนึ่ง
หากเป็นคนเดียวกัน ก่อนหลับก็คงกำหนดได้ว่าจะฝันร้ายหรือฝันดี
ตอนหลับก็คงรู้ตัวได้ว่าเป็นเราตลอดเวลา
ตอนตื่นก็คงจำได้ละเอียดลออว่าเมื่อกี้ฝันอะไรบ้าง มีรายละเอียดยังไงบ้าง
แต่นี่ไม่ใช่เลย เราไม่เคยสังเกตกระบวนการอันตัดตอนเป็นช่วงๆ
ไม่เคยตระหนักว่าร่างกายวันนี้กับพรุ่งนี้ กระบวนการเคมีภายในมันเปลี่ยนไปแล้ว
เป็นคนละร่างแล้ว
ไม่เคยตระหนักว่าจิตก่อนหลับ ขณะหลับ กับตอนตื่น มันไม่ใช่อันเดียวกันสักอย่าง
เป็นคนละดวงแล้ว

ที่จำได้เหมือนเป็นคนเดียวกัน คิดว่าเป็นคนเดียวกัน
เพราะจิตมีความรู้สึกในตัวตนฝังแน่นอยู่เต็มอก
คราวหน้าตื่นขึ้นมาลองดูตัวเองใหม่
กายที่รู้สึกนอนอยู่มันอันเดียวกับเมื่อกี้ที่ฝันหรือเปล่า
ถ้าไม่ใช่ก็บอกตัวเองตามจริงว่าไม่ใช่
ใจที่นึกคิดอยู่มันอันเดียวกับความรู้สึกเมื่อกี้ที่ฝันหรือเปล่า
ถ้าไม่ใช่ก็บอกตัวเองตามจริงว่าไม่ใช่
มีแต่อะไรบางอย่างครอบงำ ลวงจิตอยู่ว่าเป็นฉัน เป็นอันเดิม ตัวเดิม

ถ้ารู้สึกได้ว่าทั้งกายทั้งจิตมันเป็นคนละอันกับเมื่อวานแล้ว
รู้สึกให้ได้จริงๆนะ
ก็บอกตัวเองเสียว่าตื่นใหม่ เป็นคนใหม่แล้ว
ไม่เกี่ยวกับตัวตนร้ายๆเมื่อวานแล้ว
ตัวตนวันนี้ทำอะไรใหม่ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเหมือนเมื่อวาน

ถ้าวันนี้ทำดี ก็เป็นตัวตนใหม่ที่ดี
เป็นเรื่องของวันนี้
และจะเป็นชนวนให้พรุ่งนี้มันดูแลตัวเองเป็น
เพราะกายและใจมนุษย์เหมือนกระบวนการเคมี
ที่เกิดขึ้นเพื่อแปรปรวนไปอย่างต่อเนื่อง
เมื่อเกิดชนวนของสายกระบวนการหนึ่ง
จะไม่มีวันย้อนกลับไปสู่ความเป็นเช่นเดิม
มีแต่จะเปลี่ยนไปเป็นอื่น และอื่น และอื่น
สุดแล้วแต่จะถูกกำหนดให้เป็นของเสียหรือของใช้ประโยชน์ได้

ถ้าเกิดมาเรารู้จักแต่ที่จะคิด ที่จะไหลตามกิเลส
ก็เหมือนความเป็นมนุษย์นี้ คือก้อนขี้ที่ห่อหุ้มบาปกรรมไว้รอส่งกลิ่นเหม็นอย่างเดียว
แต่ถ้าเกิดมาเพื่อชำระกิเลส ทวนกระแสเสียได้
ก็เหมือนความเป็นมนุษย์นี้ คืออุปกรณ์สร้างบุญบารมีไว้รอความสว่างเย็นถ่ายเดียว

ทุกอย่างเริ่มจากความคิด
มีเพื่อนไว้หลายๆคน ช่วยกันพูดอะไรดีๆอย่างในกระทู้นี้
ก็สร้างสรรค์ความคิดดีๆให้เกิดขึ้นได้
สร้างสรรค์ความรู้สึกดีๆ อบอุ่นปลอดภัยเหมือนอยู่ในห้อมล้อมของญาติมิตรได้

สำคัญตรงที่เมื่อความรู้สึกที่ดีเกิดขึ้นแล้ว
เราลงมือต่อยอดให้เป็นผลถาวรหรือชั่วคราว
ถ้าลูกเรายังอยู่
เขาคงขอร้องให้สร้างกระแสบุญ
เป็นข่ายใยแห่งบุญจากแม่ที่เผื่อแผ่ไปถึงเขา
คงไม่สะใจกับการผูกเวรแม่ตัวเอง
เห็นแม่ตัวเองร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรแล้วมีความสุข
จะยิ้มเพื่อใคร หรือร้องไห้เพื่ออะไร


มันตัดสินกันได้ที่จุดเริ่ม คือความคิดนี้เอง

________________
คลิกที่คำถามเพื่ออ่านต่อ :

๔. ถูกข่มขืนแล้วท้องควรทำแท้งไหม

๕. ทำอย่างไรจะเลิกหดหู่สำนึกผิดจากการทำแท้ง

๖. อยากทำคุณไถ่โทษจากการทำแท้ง

๗. โทษของการทำแท้งหนักแค่ไหน

๘. ให้เพื่อนยืมเงินไปทำแท้ง บาปไหม

๙. รู้เห็นการทำแท้งของผู้อื่น บาปไหม

๑๐. นิยายเรื่องกรรมพยากรณ์ ตอนที่ ๓๑ ทำแท้ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น