วันเสาร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

วิญญาณเด็กอาฆาตมีจริงไหม (ดังตฤณ)

ถาม : การที่ทำแท้งแล้วประสบแต่เรื่องร้ายๆในภายหลัง แสดงให้เห็นว่าวิญญาณเด็กตามอาฆาตหรือเปล่าคะ?

> จากหนังสือ เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว เล่มที่ ๖

ดังตฤณ: 
ถ้าคิดว่าเป็น ‘แรงอาฆาตของ วิบากกรรม’ ก็จะครอบคลุมดีครับ หากวิญญาณอาฆาตมีจริง ความอาฆาตของวิญญาณในที่นี้ก็เกิดจากการที่คุณ ‘ตั้งใจ’ ทำแท้ง แต่ถ้าวิญญาณอาฆาตไม่มีจริง ความเคราะห์ร้ายนานาชนิดก็เป็นการแสดงตัวของวิบากมืดอันเกิดจากการทำ แท้งอยู่ดี

ตอนเด็กอยู่ในท้อง สภาพจิตจะเหมือนคนตกอยู่ในภวังค์เกือบตลอดเวลา แม้มีความรู้สึกนึกคิดขึ้นมาบ้างก็เหมือนฝันเลอะเลือน เมื่อคุณไม่ให้เขาเกิด เขาก็ไปเกิดใหม่แบบไม่รู้เรื่องรู้ราวตามยถากรรม คือตามแต่แรงกรรมจะซัดส่งให้ไปไหนต่อ อาจไปเข้าท้องคนอีก เพราะไหนๆบุญเก่าส่งมาเข้าท้องคนได้ทีหนึ่งแล้ว ก็พอบอกได้ว่าน่าจะยังมีบุญไปเข้าท้องคนได้อยู่

แต่ถ้าขาดปัจจัยเพียงพอ เช่นจังหวะนั้นๆยังไม่มีท้องที่เหมาะสมกับกรรมเดิม ก็ต้องโต๋เต๋อยู่ในสภาพครึ่งๆกลางๆ เป็นเปรตที่มีสำนึกคิดอ่านคล้ายมนุษย์เด็กไปก่อน

จะมีบางกรณีที่ยกเว้น คือเคยเป็นเทพที่หมดบุญ หรือเป็นเปรตชั้นสูงที่มีบุญเก่าพอจะถึงจังหวะโอกาสได้เป็นมนุษย์ หากบวกกับอำนาจความผูกพันกับคุณหรือสามี พวกนี้มีสิทธิ์รู้ล่วงหน้าได้จริง จ้องรอว่าจะเข้าท้องใครได้จริง ฉะนั้นหากหลุดจากท้องไป เขาอาจกลับสู่ความเป็นอะไรที่ใกล้เคียงสภาพเดิมๆ จึงยังจำคุณได้ รู้เจตนาทำแท้งของคุณได้ น้อยใจคุณได้ แล้วก็เข้ามาติดต่อคุณได้เมื่อจิตของคุณเหลือแต่สัมผัสที่ ๖ นั่นคือขณะหลับฝัน ซึ่งสามารถรับคลื่นความสะเทือนจากวิญญาณของเขาได้มากกว่าตอนลืมตาตื่น


สำหรับเคราะห์ร้ายหรือเรื่องร้ายๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากทำแท้งนั้น ส่วนใหญ่ไม่ใช่การกลั่นแกล้งของวิญญาณหรอกครับ จะเป็นในรูปที่ว่าคุณฆ่ามนุษย์แล้ว พลังบุญของความเป็นมนุษย์ที่ถูกระงับไปนั้น แปรรูปเป็นพลังลงโทษผู้ระงับ คือธรรมชาติจะมีมุมกลับอยู่ อะไรที่ควรเกิดแล้วไม่เกิด ก็ย่อม ‘เกิดเรื่อง’ ขึ้นอีกอย่างหนึ่ง ไม่มีพลังอะไรสูญหายไปเฉยๆ กำเนิดมนุษย์เป็นความสว่าง เมื่อห้ามความสว่างย่อมกลับเป็นความมืด และความมืดนั้นก็ตกอยู่กับผู้ห้ามความสว่างนั่นเอง อันดับต้นๆก็ปรากฏแสดงบนใบหน้าหมองคล้ำและจิตใจหดหู่ซึมเศร้าของหญิงที่ทำ แท้งนั่นเอง ทั้งก่อนทำ ขณะทำ และหลังทำ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น